แห่ดูคึกคัก ทานตะวัน กลางกรุง

เขตลาดพร้าวปลื้ม ประชาชนชมเปาะ "ทุ่งทานตะวัน" สวยงามตา

แห่ถ่ายรูปไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน แม้ว่าอากาศจะร้อนแต่ก็มีสายลมพัดมาบ้าง "ผู้ว่าฯอภิรักษ์" เผยเป็นโครงการปรับภูมิทัศน์พื้นที่ว่าง และลดอาชญากรรม และเตรียมทำที่เขตบึงกุ่มอีกหลายไร่ นักเรียนสตรีวิทย์ชอบใจหลังโรงเรียนสวยงาม เป็นการพักผ่อนสายตาเวลาเรียนเครียดๆ และชอบมาถ่ายรูปกับเพื่อน ขณะที่พ่อค้าไอติมดีใจกลายเป็นแหล่งรายได้งามวันละหลายพันบาท

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 เม.ย. บรรยากาศทุ่งดอกทานตะวัน ถ.เกษตร-นวมินทร์

ด้านหลังโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีผู้คนหลากหลาย เดินทางแวะเวียนมาชมดอกทานตะวันไม่ขาดสาย มีทั้งครอบครัว คู่รัก ผู้ใหญ่ทั้งหญิงและชาย เด็กโต เด็กเล็ก แม้ว่าสภาพอากาศค่อนข้างร้อนจัด และมีแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน แต่ก็พอมีลมพัดมาเป็นระยะๆ

นายณัฐกิจพล วรสิงห์ อายุ 37 ปี อาชีพสร้างผลงานศิลปะ จากอะไหล่รถจักรยานยนต์เหลือใช้ แวะมาชมและถ่ายภาพกับแฟนสาว ให้สัมภาษณ์ว่า

ตนเห็นทุ่งทานตะวันบริเวณนี้มานานแล้ว เพราะเป็นทางผ่านที่จะไปรับอะไหล่มาทำงาน และจะแวะทุกครั้งที่มีโอกาส เหมือนในวันนี้ เพราะมาดูแล้วก็รู้สึกสบายใจ เหมือนเป็นการพักผ่อนไปในตัว โดยไม่ต้องไปไกลถึงต่างจังหวัด เป็นเรื่องดีที่ในกรุงเทพฯ ก็มีทุ่งทานตะวันให้ดู


นายบุญเลิศ พรมภักดิ์ อายุ 49 ปี พนักงานขายไอศกรีมรถเข็น ที่มาปักหลักขายบริเวณดังกล่าว กล่าวว่า

เพราะเห็นว่าอากาศร้อน และเมื่อคนลงดูทุ่งทานตะวันไปถ่ายภาพเสร็จแล้วจะรู้สึกหิวกระหายอยากกินอะไรเย็นๆ และเป็นอย่างที่คิด ยิ่งมีข่าวลงในหนังสือพิมพ์ ก็ยิ่งทำให้คนมาดูมากขึ้น ทำให้รายได้มากขึ้นไปด้วย โดยในวันธรรมดาจะขายได้ตกวันละ 2,000 บาท ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ โดยเฉพาะวันอาทิตย์ จะมีคนมาดูมากเป็นพิเศษ ทำให้มีรายได้ถึง 3,000-3,500 บาทต่อวัน โดยไม่ต้องขับตระเวนไปขายที่อื่นให้เหนื่อยและเปลืองน้ำมัน

น.ส.มณฑิรา รุ่งเรืองเดชวัฒนะ อายุ 15 ปี นัก เรียนชั้น ม.4 โรงเรียนสตรีวิทยา 2 กล่าวว่า

รู้สึกดีที่มีทุ่งดอกทานตะวันอยู่ใกล้โรงเรียน เพราะตนจะเดินเข้าออกโรงเรียนทางด้านนี้ทุกวัน ทำให้รู้สึกสดชื่น และเป็นการพักผ่อนสายตาไปในตัว ถ้ามีเวลาว่างก็จะชวนเพื่อนๆ มาดูมาถ่ายภาพ และถ้าเรียนหนังสือเครียดๆ มองออกมานอกห้องเจอดอกทานตะวัน ก็ทำให้ผ่อนคลายได้เหมือนกัน ที่สำคัญไม่ต้องไปถึงต่างจังหวัด

ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงโครงการ "ทุ่งทานตะวันกลางกรุง" ของเขตลาดพร้าวว่า

โครงการดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในโครงการปรับภูมิทัศน์พื้นที่ว่าง หรือพื้นที่รกร้างว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันการเกิดปัญหาอาชญากรรมแล้ว ที่สำคัญถือเป็นโครงการที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับกทม.ได้อีกทางหนึ่ง การปลูกดอกทานตะวันของทางเขตลาดพร้าว ทราบว่าดำเนินการมานานหลายปีแล้ว ที่ผ่านมาตนได้รับรายงานว่า ประชาชนทั้งในเขตลาดพร้าวและที่สัญจรผ่านมา พากันชื่นชอบทุ่งทานตะวันอย่างมาก เพราะดอกทานตะวันนอกจากจะบานสะพรั่งสวยงามแล้ว หลายคนก็ไม่คิดว่าดอกทานตะวันจะบานอยู่ใจกลางเมืองได้ ต้องขอชื่นชมเขตลาดพร้าวที่สามารถพัฒนาพื้นที่ว่างจนเกิดประโยชน์ได้มากขนาดนี้

นายอภิรักษ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนเคยมีแนวคิดที่จะให้แต่ละสำนักงานเขต

เพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยการปลูกต้นไม้หรือไม้ดอกที่สอดคล้อง เกี่ยวข้องเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ของเขตนั้นๆ หรือเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของแต่ละเขต
อย่างไรก็ตามจะได้มอบหมายให้สำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) ประสานความร่วมมือกับทั้ง 50 เขต เพื่อขยายผลการดำเนินการให้มีลักษณะสอดคล้องหรือใกล้เคียงกับเขตลาดพร้าวต่อไป

นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ที่ผ่านมากทม.พยายามเปลี่ยนสภาพพื้นที่รกร้างว่างเปล่า
 
โดยปรับให้เป็นสวนสาธารณะเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับกทม.ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ซึ่งนอกจากเขตลาดพร้าวที่ปลูกดอกทานตะวัน 15 ไร่แล้ว เขตบึงกุ่มปลูกสวนดอกทานตะวัน เพื่อให้ประชาชนใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเช่นเดียวกัน ประกอบด้วยทั้ง 2 ฝั่ง ถ.ประเสริฐมนูกิจ จำนวน 16 ไร่ บริเวณซอยเสรีไทย 43 ถ.เสรีไทย จำนวน 11 ไร่ และหลังสำนักงานเขตบึงกุ่ม 7 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ รวมทั้งในเขตคันนายาวประกอบด้วยบริเวณถ.นวมินทร์ 1 งาน ภัทรีแมนชั่น 2 ไร่ หน้าหมู่บ้านชื่นสุข 50 ตารางวา หน้าหมู่บ้านรังสิยา ก.ม.12 จำนวน 1 ไร่ และอยู่ระหว่างประสานกับทางห้างฟู้ดแลนด์ ก.ม.7 เพื่อขอใช้พื้นที่ขนาด 15 ไร่

นายชาญชัย วิทูรปัญญากิจ ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กล่าวว่า

สำหรับการปลูกดอกทานตะวันในเขตลาดพร้าวนั้น ถือเป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างทางเขตและภาคเอกชน ที่ต้องการพัฒนาพื้นที่รกร้างว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น ส่วนในเขตอื่นๆ ที่ต้องการปลูกไม้ดอกหรือพันธุ์ไม้ต่างๆ ในพื้นที่ของตนเองให้เหมือนกับเขตลาดพร้าวก็สามารถทำได้ หากเขตนั้นๆ สามารถหาพื้นที่ว่างที่จะพัฒนาให้เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ ซึ่ง สสล.พร้อมจะจัดสรรงบประมาณในการดำเนินการ หรือแม้แต่พันธุ์ไม้หายากที่เขตต้องการจะปลูกในพื้นที่ของตนเอง สสล.ก็พร้อมจะจัดหามาให้

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์