แห่ขนทองขายทำกำไรลุ้นแตะบาทละ1.7หมื่น

คมชัดลึก : ราคาทองตลาดโลกทะยานไม่หยุด คนเริ่มทยอยขายทำกำไร ร้านค้าทองไม่ห่วงรับมือไหว ทองแท่งมีลุ้นแตะบาทละ 1.7 หมื่น ธปท.เผยเงินไหลเข้าจากการส่งออกทองคำมาก หนุนให้เงินบาทแข็งอีกปัจจัย ยอมรับเข้าแทรกแซงสกัดไม่ให้บาทแข็งเกินไป


นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ในฐานะกรรมการสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางขึ้น

และคาดว่าน่าจะปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ภายในปีนี้ เพราะค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐยังคงมีทิศทางที่อ่อนตัวลงจากความไม่เชื่อมั่นของภาวะเศรษฐกิจโลกส่งผลให้นักลงทุนยังสนใจที่จะเข้าไปลงทุนถือทองคำทำให้ราคายังไม่น่าจะทรงตัว ส่วนราคาทองคำในประเทศแนวต้านสำคัญจะอยู่ที่บาทละ 17,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่น่าจับตามอง


ส่วนการลงทุนในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่จะนำทองคำแท่งมาจำหน่ายมากกว่าซื้อ เพื่อทำกำไรออกไปก่อน

ขณะที่นักลงทุนระยะสั้นควรจะเข้าไปในตลาดอนุพันธ์ ซึ่งขณะนี้ตลาดโกลด์ ฟิวเจอร์สมีความคึกคักมาก และมีแนวโน้มจะคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับว่า ธปท.ได้เข้าไปดูแลค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง เพื่อยับยั้งไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่ามาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ และไทยมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด รวมทั้งมีเงินทุนไหลเข้าในตลาดหลักทรัพย์ และจากการส่งออกทองคำที่มีปริมาณสูงขึ้นในช่วงนี้ และมีราคาสูงขึ้น เนื่องจากราคาทองในตลาดโลกพุ่งทำสถิติสูงสุด เมื่อได้เงินเป็นดอลลาร์มาก็นำมาแลกเป็นเงินบาท ทำให้ความต้องการเงินบาทมีมาก


นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในระยะนี้มีปัจจัยหลักมาจากค่าเงินในภูมิภาคที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นตามการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ผู้ประกอบการส่งออกเข้ามาเทขายดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง และอีกปัจจัยคือราคาทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้ กดดันให้ร้านทองและนักลงทุนทองนำทองคำมาขาย แลกเป็นเงินบาทกลับเข้ามา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์