แนวคิดย้ายหาดใหญ่หนีวิกฤติน้ำท่วม

 

คมชัดลึก : เหตุวิกฤติน้ำท่วมใหญ่เมืองหาดใหญ่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายนับหมื่นล้านบาทซ้ำรอยปี 2543 นำมาสู่การตั้งคำถามของหลายฝ่ายถึงความเหมาะสมในการย้ายศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้แห่งนี้ ออกจากแอ่งกระทะไปปักหลักยังพื้นที่ที่เหมาะสมกว่าเหมือนเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาดีกว่าหรือไม่

 ต้องยอมรับว่า เพียงแค่ 2 วันที่ปริมาณน้ำหลากเข้าท่วมเมืองหาดใหญ่ ไม่เพียงสร้างความทุกข์เข็ญให้แก่ชาวบ้านนับแสนคนที่ต้องผจญกับความโหดร้ายที่มาแบบฉับพลัน ยังมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินกว่า 1 หมื่นล้าน ที่รัฐบาลต้องจัดเตรียมงบประมาณราว 2 หมื่นล้าน เพื่อบูรณาการ

 "ถ้าจะย้ายเมืองจริงๆ ทรัพย์สินกี่แสนล้านจะด้อยค่าลงทันที 60-70 เปอร์เซ็นต์ ทั้งอาคาร โรงแรม ศูนย์การค้า ที่ลงทุนไปแล้วใครจะผ่อนชำระต่อให้ ราคาที่ดิน 3 ล้านบาท จะลดลงเหลือ 8 หมื่นทันที ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการย้ายเมืองใครจะรับผิดชอบ" อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ระบุ

 ขณะที่การย้ายเมืองเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมก็จะเกิดคำถามอีกว่า จะย้ายไปที่ใด เพราะปีนี้ที่ราบสูงอย่าง จ.นครราชสีมา ยังถูกน้ำท่วม ดังนั้นการแก้ปัญหาน้ำท่วมควรคำนึงสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ

 "ผมมองว่า รักษาเมืองเดิมไว้ดีกว่า แล้วบริหารจัดการน้ำเสียใหม่ มีระบบระบายน้ำที่ดี ถ้าเกิดน้ำท่วมก็สามารถระบายน้ำได้ภายใน 1-2 วัน แต่หากจะย้ายเมืองจริงๆ ผมว่า คนที่ต้องถูกย้ายเมืองคงเข่าทรุดแน่" นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้กล่าวทิ้งท้าย

 เช่นเดียวกับมุมมองของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ที่บอกว่า การใช้คลองระบายตามธรรมชาติช้าเกินไป ทำให้เกิดน้ำท่วมขังสูง โดยเสนอแนะให้ทำคลองระบายน้ำ คลอง ร.1 ให้มีการจัดการที่ดีกว่านี้ ตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ตรงหัวคลองและปลายคลองระบายน้ำลงอ่าวไทยให้เร็วขึ้นคาดว่าไม่เกิน 24 ชั่วโมง

 "ถ้าเรามีระบบการจัดการระบายน้ำที่ดี ก็ไม่มีปัญหาที่จะต้องย้ายเมืองหาดใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ออกไปอยู่ที่อื่น" ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าว

 สอดรับกับความเห็นของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ที่ว่า ภูมิทัศน์ของ จ.สงขลา เป็นเมืองที่มีภูเขาล้อมรอบ ซึ่งภูมิประเทศก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาเป็น ควรจะมีการบริหารจัดการน้ำที่ดีขึ้นกว่านี้ก็พอ

 "อย่างที่ อาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีสึนามึ มีคนตายเป็นแสนๆ คน เขายังไม่เห็นต้องย้ายเมืองเลย ของเราแค่น้ำท่วมทำไมต้องย้าย ถ้าจะย้ายก็ต้องเกิดหนักๆ แบบภูเขาไฟระเบิดนั่นแหละที่ต้องย้าย"

 พร้อมกันนี้ ประธานมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยยังฝากเตือนประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม หากมีคนมาซื้อที่ดินหรือบ้านให้ขายให้ในราคาถูกๆ ก็อย่าไปขายให้เขา เพราะว่ากลุ่มคนพวกนี้จะหวังใช้โอกาสในช่วงนี้มาหลอกซื้อ

 ในความเห็นพ้องก็ยังมีความเห็นต่างในเชิงเสนอแนะจากอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ ว่า "คิดว่าพื้นที่เศรษฐกิจไม่ควรกระจุกอยู่ที่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเท่านั้น น่าจะมีการขยายศูนย์กลางเศรษฐกิจออกไปสู่พื้นที่อื่นๆ บ้าง ไม่กระจุกตัวอยู่ที่หาดใหญ่เท่านั้น อาจช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมได้บ้าง"

 "ส่วนตัวแล้วมองว่าค่อนข้างยากที่จะย้ายไป เพราะมันลำบาก น้ำท่วมมันไม่ได้ท่วมนาน อยากให้ช่วยกันคิดเรื่องวิธีการบริหารจัดการปัญหา การป้องกัน การรับมือมากกว่า" อาจารย์พิเศษของคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว

 ทางด้านมุมมองของนักการเมืองในพื้นที่อย่าง ศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ "อุทกภัยใหญ่ลักษณะนี้ ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติ นานๆ เกิดขึ้นสักครั้ง คงไม่ถึงกับต้องย้ายเมืองหนีน้ำ คาดว่าหลังน้ำลดจะสามารถฟื้นฟูให้หาดใหญ่กลับมาอยู่ในสภาพปกติได้ภายใน 7 วัน"

 สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.หาดใหญ่ ขณะนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด มากกว่าปี 2543 ถึง 2 เท่า และปริมาณน้ำได้เริ่มลดลงรวดเร็ว วิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์อีกคนหนึ่ง ยกความดีนี้ให้แก่อำเภอหาดใหญ่ ที่จัดการป้องกันเรื่องน้ำท่วมได้ดี มีการขุดคลอง ร.1, ร.3, ร.4 ตั้งแต่ปี 2548-2550 เพื่อระบายน้ำลงทะเลรองรับอนาคตไว้

 นอกจากคลองแล้ว ยังมีการสร้างแนวกำแพงกั้นตัวเมืองสูง 2.50 เมตร ป้องกันปริมาณน้ำอีกชั้นหนึ่ง รวมถึงการเตรียมการของทางการและชาวบ้านที่มีการเตือนล่วงหน้า ด้วยการทำธงสีต่างๆ เป็นสัญลักษณ์

 "ถ้าน้ำมาตามปกติก็สามารถจัดการได้ ไม่จำเป็นต้องย้ายเมืองหาดใหญ่ไปอยู่ที่อื่น" วิรัตน์ย้ำหนักแน่น

 บทสรุปของนักวิชาการ-นักการเมือง ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดย้ายเมืองหาดใหญ่ออกจากพื้นที่เดิม เพื่อป้องกันวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ในอนาคต ด้วยเหตุผลที่ว่า "ได้ไม่คุ้มเสีย" เนื่องด้วยธรรมชาติเป็นเหตุสุดวิสัย ดังนั้นการจัดระเบียบระบบระบายน้ำลงทะเลน่าจะเป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมที่สุด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์