แท๊กซี่คนดีเก็บเช็ค140ล้านบ. ส่งคืนเจ้าของนักธุรกิจญี่ปุ่น

โชเฟอร์แท๊กซี่พลเมืองดี เก็บเช็คเงินสด 140 ล้านบาท ส่งคืนเจ้าของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น



(8มิย.) ที่สถานีวิทยุ สวพ.91 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร Mr.yee deng อายุ 45 ปี นักธุรกิจชาว ญี่ปุ่น พร้อมหุ้นส่วน Mr. Ho Mick kindshita และMr. Aki okuda อายุ 68 ปี

ซึ่งทั้งหมดได้เข้ามาร่วมลงทุนธุรกิจผลิตเมล็ดพาสติกในไทย

และเมื่อวานนี้ วันที่ 7 มิ.ย.ทั้งหมด ได้นั่งรถแท๊กซี่จากหน้าโรงแรม ดิแอมเมอร์รัล รัชดา เพื่อไปลงซอยทนิญะ ถนนสุรวงศ์ ขณะลงจากรถทั้ง 3 คนได้ลืม แฟ้มเอกสารสีชมพู โดยข้างในบรรจุเช็ค จำนวน 3 ฉบับ คิดเป็นเงินไทยมูลค่า กว่า 140 ล้านบาท

หลังเกิดเหตุทั้งหมดได้เข้าแจ้งความที่สน.บางรัก

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการติดต่อประสานไปยังสถานีวิทยุ สวพ.91 ว่าให้ เจ้าของรถแท๊กซี่สีฟ้า ทะเบียน ทร 617 กทม. ซึ่งเป็นรถคันที่นักธุรกิจชาว ญี่ปุ่นใช้บริการ

ให้เจ้าของรถคันดังกล่าวประสานกับมายัง สถานีวิทยุ

ต่อมานายสุ เทพ กาศักดิ์ อายุ 41 ปี โชว์เฟอร์แท๊กซี่ดังกล่าวได้ติดต่อเข้ามายังรายการพร้อมทั้งนำเอกสารทั้งหมดมามอบให้ที่ สถานีวิทยุ สวพ.91 หลังจากนายสุเทพได้นำเอกสารทั้งหมดมาคืนให้

Mr. Ho Mick kindshita เจ้าของเอกสารทั้งหมด เปิดเผยว่า

ขอบคุณนายสุเทพ ที่มีน้ำใจนำของมาคืน ซึ่งถือเป็นคนที่ซื่อสัตย์ สำหรับตน ได้มาเมืองไทยทุกเดือน รู้สึกซาบซึ่งกับเหตุที่เกิดขึ้น จากนนั้นได้มอบเงิน 3000 บาทให้แกนายสุเทพ เพื่อเป็นน้ำใจในการกระทำความดี ต่อมา Mr. Ho Mick kindshita พร้อมเพื่อน ได้เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อขึ้นเครื่องบินกลับประเทศญี่ปุ่น ในวันนี้

ด้านนายสุเทพ กาศักดิ์ อายุ 41 ปี

โชว์เฟอร์แท็กซี่พลเมืองดี กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้รับผู้โดยสาร 3 คนซึ่งทราบว่าเป็นชาวต่างชาติ มาจากโรงแรม ดิแอมเมอร์รัล รัชดา เพื่อไปลงที่ซอยทนิญะ ถนนสุรวงศ์ จากนั้นก็ได้ขับรถไปตามปกติ ขณะที่มีผู้โดยสารกำลังจะโบกรถใช้บริการตนได้หันไปเห็นเอกสาร ที่ตั้งอยู่เบาะหลัง จึงเก็บเอกสารดังกล่าวไว้ กระทั่งหมดเวลาวิ่งรถ ตนจึงนำเอกสารทั้งหมด ให้กับญาติ เพื่อให้ญาตินำไปส่งไว้ที่ สวพ.91



ปกติเวลาผมเจอของในรถ ผมจะเอาไปฝากไว้ที่ สวพ.91 ตลอด

จะเป็นชิ้นใหญ่ชิ้นเล็กผมก็ไม่เลยทิ้งหรือเก็บเป็นสมบัติส่วนตน เพาะผมคิดอยู่เสมอว่า เจ้าของเขาจะเดือดร้อน อย่างกรณีนี้ผมก็นำไปส่งตามปกติไม่ได้คิดอะไร กระทั่งวันนี้ ทางสวพ.91 ได้โทรมาหาผม

พร้อมบอกให้ผมไปแสดงตัว

เพราะผมสามารถเก็บเงินได้ถึง 140 ล้านบาท ผมรู้สึกตกใจมาก จากนั้นก็เดินทางมาที่สวพ.91 และทำการส่งมอบของคืนเจ้าของ จากนั้นผมได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 3000 บาท ซึ่งผมคิดว่ามันน่าภูมิใจมาก

นายสุเทพกล่าวต่อว่า ตนขับแท็กซี่มาหลายปีแล้ว

รถที่ขับอยู่ก็ผ่อนเดือนละ 16000บาท ทุกวันนี้แบ่งเช่าห้องกังเพื่อนย่านห้วยขวาง ในแต่ละเดือนที่ทำเงินได้ จะต้องส่งเงินส่วนหนึ่งไปให้ลูกๆ 3 คน ที่กำลังเรียนชั่นประถมที่ต่างจังหวัด ซึ่งภรรยาตนเป็นคนดูแลอยู่ ในทุเดือนถือว่าต้องประหยัดมาก เพื่อที่จะใช้ให้เพียงพอกับชีวิตประจำวัน ก่อนจะใช้เงิน เราต้องนึกถึงครอบครัวก่อนว่าเดือนนี้จะมีจ่ายรึเปล่า

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ถึงแม้จะเกิดมาฐานะไม่ดี

แต่ไม่เคยย้อท้อที่จะทำงาน ยังคงเดินหน้าประกอบอาชีพนี้ต่อไปให้ดีที่สุด เพื่อลูกเพื่อครอบครัว ตอนนี้โชคดีที่ลูกๆยังเล็กอยู่ทั้ง 3 คน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ลูกโตขึ้น คงต้องจ่ายค่าเล่าเรียนเพิ่มขึ้นเป็นสาม เท่าตัว นั้นหมายความว่า ตนต้องขยันทำงานให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย

เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ตนไม่คิดที่จะรวยทางลัด

หรือละทิ้งความรับผิดชอบในการนำของไปส่งคืน ทุกอย่างจะคงเป็นไปตามระบบเหมือนเดิม ตนยังคงทำงานหาเงินเพื่อครอบครัว ถ้าเจอของผู้โดยสารในรถ ถึงจะเป็นเงินสด หลายร้อยล้านบาท ตนก็ต้องส่งคืนเจ้าของ ไม่หวังอยากได้ในของคนอื่นเด็ดขาด

ผมอยากจะบอกเพื่อนๆแท็กซี่ ทุกคนให้มั่นคงในความดี อย่างเอนเอียงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า

ให้เคารพต่อผู้โดยสารเพราะเขาเหล่านั้นใช้บริการเราและ ให้เงินเรา หากเขาลืมของไว้ในรถเรา ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เงิน แต่เป็นเอกสารที่สำคัญมากๆ เราก็ต้องนำไปคืน อยากให้นึกถึงอกเขาอกเรา ไม่อยากให้คิดเห็นแก่ตัว ละเลยความรับผิดชอบที่จะพยายามนำไปคืน หรือ ทิ้งขว้างเอกสารนั้นๆไป นายสุเทพกล่าว



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์