แชร์ลูกโซ่โผล่อีก ตุ๋นเหยื่อ หลอกขายสินค้า

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 มี.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อำนวย ฉ่ำมะนา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี หลังทราบว่ามีชาวบ้านแจ้งความว่าได้ถูกบริษัทติดประกาศรับสมัครงานตามตู้โทรศัพท์สาธารณะต่างๆ ในตัวเมืองกาญจนบุรี แต่กลับเสนอขายสินค้าประเภทเครื่องสำอางและต้องเสียค่าสมาชิกในลักษณะแชร์ลูกโซ่ โดย 1 ในผู้เสียหายคือนายประสาน ลักขณาทรัพย์ทวี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180/4 ต.บ้านใต้ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี
  

ทั้งนี้ นายประสานให้การถึงเรื่องราวก่อนตกเป็นเหยื่อว่า

ที่บ้านเปิดร้านขายของชำเล็กๆ จึงอยากหางานทำเพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว  กระทั่งวันที่  6  ก.พ.ที่ผ่านมาพบข้อความติดประกาศตามตู้โทรศัพท์สาธารณะในตัวเมืองกาญจนบุรีเต็มไปหมดมีใจความว่า “รับสมัครด่วน บริษัท ขยายกิจการเปิดรับสมัคร ประจำออฟฟิศ สาขากาญจนบุรี คุณสมบัติเป็นชาย-หญิง อายุ 18-45 ปี วุฒิ ป.6-ปริญญาตรี รายได้ 7,500-15,000 บาท ไม่ต้องมีประสบการณ์ มีเบี้ยเลี้ยง มีโบนัส และท่องเที่ยวทุก 3 เดือน” หลังอ่านข้อความรู้สึกสนใจจึงติดต่อไปตามเบอร์โทรศัพท์ที่เขียนไว้ จากนั้นพนักงานที่อ้างเป็นคนของบริษัทได้นัดให้มาสมัครงานที่สำนักงานใน จ.นนทบุรี
 

เหยื่อบริษัทต้มตุ๋นให้การอีกว่า

กระทั่งบริษัทจัดรถปิกอัพมารับ ปรากฏว่าในรถมีชาวบ้านใน จ.กาญจนบุรี นั่งไปด้วยอีก 7-8 คน เมื่อไปถึงพนักงานพาขึ้นไปชั้น 3 ของบริษัท ในห้องมีชาวบ้านที่เดินทางมาจากหลายจังหวัดนั่งอยู่อีกหลายคน โดยมีเจ้าหน้าที่นำใบสมัครมาให้กรอก แต่ไม่มีรายละเอียดว่าเป็นงานอะไร จากนั้นมีวิทยากรพูดแนะนำให้ซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอาง เช่น ครีมกันแดด ครีมทาผิว เป็นต้น โดยขายเป็นชุด ชุดละ 2,700 บาท คนที่ซื้อต้องเสียค่าสมัครสมาชิกคนละ 200 บาท รวม 2,900 บาท พร้อมกันนี้มีการแนะนำให้ไปหาสมาชิก หากใครหาได้และมีการสั่งซื้อสินค้า 1 ชุด ก็จะได้ค่าตอบแทน 500 บาท แต่คนหนึ่งซื้อสินค้าได้เพียง 7 ครั้งเท่านั้น
 

นายประสานให้การต่อว่า

ปรากฏว่าหลังตัดสินใจซื้อสินค้าไป 1 ชุด ทางบริษัทบอกว่าจะติดต่อกลับเพื่อเรียกตัวเข้าทำงาน แต่กลับเงียบหาย อีกทั้งเมื่อตรวจดูเครื่องสำอางที่ซื้อมาพบว่าไม่มีเครื่องหมาย อย. เลยคิดว่าคงถูกหลอกแน่นอน จึงติดต่อไปยังบริษัทเพื่อขอคืนสินค้า แต่ทางพนักงานพยายามบ่ายเบี่ยงตลอด จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกระทั่งบริษัทยอมคืนเงินให้เพียง 2,500 บาท แต่กว่าจะได้ก็ต้องเสียรู้และเสียเวลาไปนาน และเชื่อว่ามีคนตกเป็นเหยื่ออีกหลายคน
 

ด้าน พ.ต.ท.อำนวย ฉ่ำมะนา พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เปิดเผยความคืบหน้าด้านคดีว่า

หลังได้รับแจ้งความจากนายประสาน ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนหอบเอกสารทั้งหมดเข้าพบพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อขอคำชี้แนะ โดยทางอัยการได้ตรวจสำนวนคดีแล้วแนะนำว่าคดีดังกล่าวเป็นความผิดทางแพ่ง ไม่สามารถดำเนินการทางอาญาได้ จึงแจ้งให้นายประสาน ในฐานะผู้เสียหายทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนชาวบ้านให้ระวังตกเป็นเหยื่อบริษัทเหล่านี้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์