แฉโจ๋สาวลดอ้วน แห่กินยาถ่าย

อมข้าวแล้วบ้วนทิ้ง "ล้วงคอ"ให้อ้วกก็มี


นักวิจัยแฉสาวรุ่นไทยแห่กินยาถ่ายเพื่อลดความอ้วน เผยยาถ่ายเม็ดละ 50 สตางค์ทั้งถูกและหาซื้อง่าย ผลสำรวจร้านขายยาพบโจ๋แห่ไปซื้อกันตรึม บางคนกิน 1-2 เม็ด แต่มีบางรายกินครั้งละเป็นกำมือ หวังให้ผอมสมใจ อีกทั้งยังใช้วิธีประหลาดกินอาหารแล้วก็ไม่กลืน อมๆคายๆ หรือไม่กินอิ่มก็ล้วงคอให้อ้วก ชี้อาจส่งผลถึงตายได้

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ผศ.ดร.จุลนี เทียนไทย อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิจัยภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) กล่าวถึงงานวิจัยเรื่อง ความไม่พึงพอใจในรูปร่าง และวิธีการให้ได้มาซึ่งภาพลักษณ์ รูปร่าง อุดมคติที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของวัยรุ่นไทย ภายในการประชุมวิชาการ "นักวิจัยรุ่นใหม่ พบเมธีวิจัยอาวุโส สกว." จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ร่วมกับ สกว. ว่า จากการเก็บข้อมูลวัยรุ่นหญิงชายอายุ 16-19 ปีจำนวน 400 รายในกรุงเทพฯ เพื่อศึกษาถึงภาพลักษณ์รูปร่างในอุดมคติของวัยรุ่นไทย แหล่งอิทธิพล ความไม่พึงพอใจในรูปร่างของตนเอง และดำเนินการของวัยรุ่นให้ได้มาซึ่งรูปร่างที่ต้องการ

"สามารถหาซื้อได้ง่าย"


น.ส.จุลนีกล่าวว่า ผลจากการวิจัยพบว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือพฤติกรรมเสี่ยงของวัยรุ่นหญิงที่ไม่พอใจในรูปร่างของตนเอง 9 ใน 10 คนจะหาทางจัดการกับรูปร่างของตนเอง โดยเลือกวิธีการอดอาหาร ทานยาลดความอ้วน และมีพฤติกรรมการกินที่ผิดวิธี เพื่อให้ได้มาซึ่งรูปร่างที่ต้องการ นอกจากนี้สิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่คือเรื่องการที่วัยรุ่นหญิงนิยมซื้อยาถ่ายมารับประทานเอง ซึ่งยาถ่ายที่ขายในประเทศไทยมีราคาถูกเพียงเม็ดละ 50 สตางค์ สามารถหาซื้อได้ทั่วไป

โดยจากการสอบถามร้านขายยาพบว่าวัยรุ่นหญิงนิยมซื้อยาถ่ายเพื่อไปลดความอ้วนมากที่สุด เท่าที่พบในกลุ่มตัวอย่างเริ่มจาก 1-2 เม็ดและเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ จนมีรายหนึ่งทานเป็นกำมือ นอกจากนี้วิธีที่วัยรุ่นหญิงเลือกใช้เพื่อลดความอ้วนควบคู่กันไปคือ พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ เช่น การอมๆ คายๆ อาหาร ล้วงคอให้อาเจียน ซึ่งวิธีการก็จะเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยังพบว่าวัยรุ่นเป็นโรคทานอาหารน้อยเกินไป จะส่งผลกระทบรุนแรงถึงขึ้นทำให้เสียชีวิตได้

"คาดไม่เกิน 5 ปีวัยรุ่นหญิงแห่ทำศัลยกรรม"


น.ส.จุลนีกล่าวว่า ปัจจุบันนี้วัยรุ่นชายก็ไม่พอใจในรูปร่างของตนเองเช่นกัน แต่ใส่ใจในการจัดการรูปร่างให้เป็นไปตามที่ต้องการมากเท่าวัยรุ่นหญิง โดย 87% ของฝ่ายชายที่ไม่พอใจในรูปร่างของตนเองกลับปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ส่วนที่เหลือเลือกวิธีการออกกำลังกาย หรือกินอาหารเสริมจำพวกโปรตีนแทน ภาพลักษณ์รูปร่างในอุดมคติของวัยรุ่นชายเน้นหล่อ ต้องสูง ผอม มีกล้ามเนื้อพอประมาณ ช่วงบนของร่างกายเหมือนทรงสามเหลี่ยมกลับหัว

ซึ่งเป็นลักษณะรูปร่างของชาวตะวันตก ส่วนวัยรุ่นหญิงทุกคนเน้น ต้องสูง ขาว ผอม หุ่นดี และสวยแบบสากล คือจมูกโด่ง ตาสองชั้น ริมฝีปากบาง ซึ่งในอนาคตไม่เกิน 5 ปี คาดว่าวัยรุ่นหญิงจะแห่ไปทำศัลยกรรมเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่รองลงมาจากหน้าตา คือเรื่องของบุคลิกภาพ

"อิทธิพลมาจากเพื่อนที่หยอกล้อกัน"


"งานวิจัยนี้ยังพบว่าทั้งวัยรุ่นชายและหญิงมีความเชื่อที่เป็นมายาคติที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยวัยรุ่นหญิงเชื่อว่าฝ่ายชายชอบผู้หญิงที่ผอม แต่ความจริง ผู้ชายชอบหญิงที่มีร่างกายสมส่วน เพราะผอมเกินไปจะทำให้ไม่มีหน้าอก ส่วนฝ่ายชายเชื่อว่าผู้หญิงชอบให้มีมัดกล้าม แต่ความจริงผู้หญิงจะดูที่นิสัยและบุคลิกมากกว่า โดยมองว่าคนที่มีกล้ามเป็นผู้ใช้แรงงาน ใช้แต่กำลังไม่ใช้สติปัญญา" น.ส.จุลนี กล่าว

น.ส.จุลนีกล่าวว่า แหล่งอิทธิพลของภาพลักษณ์ที่เป็นอุดมคติของวัยรุ่น เกิน 50% รับวัฒนธรรมมาจากตะวันตก โดยอันดับแรก 24.4% มาจากรูปภาพและบทความในนิตยสารต่างประเทศที่แปลมาเป็นภาษาไทย รองลงมาอันดับสอง 22.24% มาจากวิทยุโทรทัศน์ อาทิ ภาพยนตร์ ละคร ทั้งในและต่างประเทศ มิวสิควิดีโอ และรายการแฟชั่น อันดับที่สาม 19.36% มาจากกลุ่มเพื่อนฝูงที่หยอกล้อเปรียบเทียบรูปร่างตนเองกับเพื่อนด้วยกัน

"อยากให้จัดหลักสูตรการศึกษาเรื่องการจัดการรูปร่าง"


อันดับที่สี่ 17.23% จากสมาชิกในครอบครัวติชม ล้อเลียน อันดับที่ห้า 7.28% มาจากกระแสแฟชั่นนิยมจากอินเตอร์เน็ต และอันดับที่หก 4.24% จากอิทธิพลของเพศตรงข้ามในแง่ของคู่รัก นอกจากนี้ 5.22% มาจากความรู้สึกของตนเองที่มีต่อสภาพร่างกาย และ 1.34% ได้รับความรู้จากห้องเรียนและหน่วยงานจากสาธารณสุข

"วัยรุ่นได้เสนอแนวคิดเพื่อนำสู่การแก้ไขปัญหาเรื่องของภาพลักษณ์รูปร่างของวัยรุ่น โดยอยากให้บรรจุเนื้อหาการจัดการรูปร่างให้อย่างถูกวิธีให้อยู่ในหลักสูตรการศึกษา พร้อมทั้งสื่อมวลชนควรนำเสนอภาพลักษณ์ที่เป็นจริงของดาราไม่ใช่นำเสนอ ภาพลักษณ์ที่ผอมบางของนายแบบ นางแบบ และเน้นย้ำให้คนในสังคมหันมาชื่นชมและพอใจในรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล" น.ส.จุลนี กล่าว


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์