แฉกยศ.ทวงมั่ว ทั้งที่ลูกตายไปกว่า26ปี อ้างกู้ยืมเรียน6.5หมื่น

พิลึกกองทุน กยศ. ทำหนังสือทวงหนี้เด็กที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ 26 ปีก่อนพ่อโวยลูกตายตั้งแต่เพิ่งตั้งไข่ จะไปกู้เงินได้ยังไง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบด่วน

 โดยเรื่องพิสดารครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อช่วงสายวันที่ 9 ก.พ.

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก พ.ท.ประจิน ฉัตรจอหอ อายุ 62 ปี อดีตทหาร สังกัดกองทัพน้อยที่ 2 ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ว่า ได้รับหนังสือจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แจ้งให้ น.ส.ณาตยานี ฉัตรจอหอ บุตรสาว เร่งชำระหนี้กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นยอดเงินรวมกว่า 65,000 บาท เนื่องจาก น.ส.ณาตยานี ได้กู้เงินกองทุนฯตามยอดเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้จ่าย แต่ความเป็นจริงแล้ว น.ส.ณาตยาณี ฉัตรจอหอ ที่ทางกองทุนฯกล่าวอ้างถึงนั้น ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2524 หรือเมื่อ 26 ปีก่อน พร้อมกันนี้ พ.ท.ประจินได้นำสูติบัตรและใบมรณะบัตรของ ด.ญ.ณาตยาณี ฉัตรจอหอ บุตรสาว รวมถึงหนังสือแจ้งชำระหนี้กองทุนกู้เงินยืมเพื่อการศึกษามาให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบ
 

พ.ท.ประจินกล่าวต่อไปว่า

หนังสือทวงหนี้ฉบับนี้ได้รับจากบุรุษไปรษณีย์มาส่งให้ที่บ้านเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยนางสมบูรณ์ ฉัตรจอหอ ภรรยา เป็นผู้เซ็นชื่อรับไว้ หนังสือดังกล่าวจ่าหน้าซองถึง น.ส.ณาตยานี ฉัตรจอหอ บ้านเลขที่ 116 หมู่ 2 ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.นครราชสีมา รหัสไปรษณีย์ 30000 ซึ่งเป็นชื่อและนามสกุลของบุตรสาวตน และที่อยู่ก็ถูกต้องทุกอย่าง หัวหนังสือทวงหนี้ระบุว่ามาจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา อาคาร 2 ชั้น 16 เลขที่ 63 ซอยทวีมิตร ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 และมีตรา กยศ.ประทับ ลงเลขที่ กค 5110/ก.4871 เลขที่บัตรประชาชน 3300100632311 ลงวันที่ 17 มกราคม 2551 เรื่อง ขอให้ชำระหนี้และบอกเลิกสัญญาเนื้อหาในหนังสือทวงหนี้ระบุว่า เรียน นางสาวณาตยานี ฉัตรจอหอ ตามที่ท่านได้ทำสัญญากู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ซึ่งเป็นเงินของแผ่นดินเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 65,000 บาท (หกหมื่นห้าพันบาทถ้วน) ปรากฏว่าท่านไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญากู้ยืมเงินกองทุน โดยผิดนัดไม่ชำระหนี้เงินกู้ยืมภายในระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญา ซึ่งขณะนี้ท่านมียอดหนี้คงเหลือตามสัญญาเป็นจำนวนเงิน 65,000 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2550) และท่านมียอดหนี้ที่คงค้างและต้องชำระงวดแรกดังนี้ 1. เงินต้นจำนวน 15,600 บาท 2. ดอกเบี้ยจำนวน 4,186.66 บาท 3. เบี้ยปรับ จำนวน 7,010.57 บาท 4. ค่าธรรมเนียมการโอนเงินจำนวน 10 บาท รวมเป็นเงินที่ต้องชำระทั้งสิ้น 26,807.23 บาท (สองหมื่นหกพันแปดร้อยเจ็ดบาทยี่สิบสามสตางค์)
 

ดังนั้น กองทุนฯขอให้ท่านติดต่อชำระเงินต้นที่คงค้างพร้อมดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ รวมทั้งค่าธรรมเนียมการโอนเงินจำนวนดังกล่าวข้างต้นให้แก่กองทุนฯ ที่ บมจ. ธนาคารกรุงไทย สาขาใดก็ได้ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2551 หากท่านมิได้ชำระเงินที่ค้างชำระดังกล่าวให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าหนังสือฉบับนี้ เป็นการแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญา และท่านจะต้องชำระหนี้กู้ยืมตามสัญญาทั้งหมด พร้อมดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ รวมทั้งค่าธรรมเนียมการโอนเงินคืนทันที มิฉะนั้นกองทุนฯ จำเป็นต้องดำเนินคดีกับท่านและผู้ค้ำประกัน แต่ถ้าท่านได้ชำระหนี้ดังกล่าวก่อนได้รับหนังสือนี้แล้ว หรือมีข้อผิดพลาดประการใด กองทุนฯขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย หากมีข้อสงสัยประการใดท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ปรากฏด้านล่างนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและดำเนินการชำระหนี้ต่อไป ขอแสดงความนับถือ ลงชื่อ นายธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โครงการจัดตั้งฝ่ายบริหารหนี้ โทรศัพท์ 0-2610-4388 ต่อ 853, 856 โทรสาร 0-26431-470
 

อดีตนายทหารที่สูญเสียบุตรสาว แถมยังต้องตกเป็นลูกหนี้กองทุนเงินกู้ฯของรัฐบาล โดยไม่เคยได้แตะต้องเศษเงินแม้แต่สลึงเดียว กล่าวต่อไปว่า

 หลังจากได้รับหนังสือทวงหนี้ของบุตรสาวดังกล่าว รู้สึกตกใจมากที่จู่ๆบุตรสาวที่เสียชีวิตไปนานแล้วต้องมาตกเป็นลูกหนี้กองทุนฯ จึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยังฝ่ายบริหารหนี้ ตามหมายเลขที่ระบุไว้ในหนังสือทวงหนี้ แต่ก็ไม่มีใครรับสาย และไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมาในวันที่ 7 ก.พ. ได้เดินทางไปติดต่อขอดูหลักฐานการกู้ยืมเงิน จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา เขต 1 แต่ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าได้ส่งหลักฐานไปยังกองทุน กยศ. ที่กรุงเทพฯหมดแล้ว จึงนำหลักฐานใบทวงหนี้ดังกล่าวไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา มี พ.ต.ท.จำนงค์ สายป้อง พงส.(สบ3) เป็นผู้รับแจ้ง
 

“เหตุผลที่แจ้งความเพื่อต้องการให้ตำรวจบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่า บุตรสาวไม่เคยไปกู้ยืมเงินกองทุน กยศ. แต่อย่างใด เพราะเสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2524 หลังจากเกิดมาได้เพียง 1 ปี 6 เดือนเท่านั้น ยังไม่ทันได้เข้าเรียนอนุบาลด้วยซ้ำ และคนตายไปตั้ง 26 ปีแล้ว จะไปขอกู้เงินกองทุนฯได้อย่างไร ไม่ทราบว่า หนังสือทวงหนี้ดังกล่าวนี้เป็นของกองทุน กยศ.จริงหรือไม่ แต่ทำไมมีชื่อ และที่อยู่อย่างถูกต้อง รวมทั้งระบุวงเงินกู้ยืมของบุตรสาวถึง 65,000 บาท พยายามติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความกระจ่าง จึงต้องร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน  เผื่อว่าจะมีความชัดเจนมากกว่านี้ หรืออาจจะเป็นฝีมือของกลุ่มมิจฉาชีพ นำหลักฐานของบุตรสาวไปแอบอ้างกู้เงินก็เป็นได้” พ.ท.ประจิน กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์