แจงเหตุงดให้เช่าเหมารถ บขส. คนแน่น ไม่เกี่ยวสกัดผู้ชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือสถานีขนส่งหมอชิต 2 เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (16 เม.ย.) มีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ กันอย่างหนาแน่น ส่งผลให้การจราจรบริเวณหมอชิต 2 ค่อนข้างติดขัด

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการและรักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า จากการตรวจสถานีปลายทางตั้งแต่พิษณุโลก นครสวรรค์ ถึงกรุงเทพฯ มีประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ จำนวนมาก ประมาณการว่า จะมีผู้โดยสารราว 150,000 คน เดินทางมาในคืนวันนี้ และจะเพิ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) เป็นไม่ต่ำกว่า 250,000 คน ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่รถโดยสารจะเข้าสถานีขนส่งหนาแน่นที่สุด คือ 04.00-06.00 น. ซึ่งมักเป็นช่วงเปลี่ยนกะของรถแท็กซี่ จึงได้ประสานไปยังบริษัทและสหกรณ์แท็กซี่ ขอให้เปลี่ยนช่วงเวลาเปลี่ยนกะรถ และส่งแท็กซี่เข้ามารับผู้โดยสารภายในสถานีขนส่ง โดยจะมีการจัดช่องทางให้หลายเส้นทาง ได้แก่ เส้นทางขาเข้า ขาออก และบริเวณลาน 35 ไร่

นายวุฒิชาติ กล่าวว่า นอกจากนี้ จะเร่งประชาสัมพันธ์และให้เจ้าหน้าที่ตรวจตรากลุ่มมิจฉาชีพรถสาธารณะที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่ให้มาหลอกลวงประชาชนด้วย จึงอยากขอให้ประชาชนอดใจรอ หากรถขาดช่วง ซึ่งทาง บขส.จะเร่งหารถเข้ามาบริการโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบการจองตั๋ว มั่นใจว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

สำหรับคำสั่งไม่อนุญาตให้เช่าเหมารถของ บขส.ในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารหนาแน่น หากเปิดให้เช่ารถอาจไม่เพียงพอในการให้บริการ ไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมือง หรือการสกัดกั้นการจัดการชุมนุมแต่อย่างใด ทั้งนี้ จะกลับมาอนุญาตให้เช่ารถอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. เป็นต้นไป ในช่วงนี้รายได้หลายสิบล้านบาทของ บขส. มาจากการเช่าเหมารถ เพราะประชาชนไว้ใจเช่ารถของรัฐมากกว่าเอกชน รักษาการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าว

ส่วนที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีผู้โดยสารเดินทางกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แต่ยังไม่หนาแน่นมากนัก ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เตรียมขบวนรถเร็วพิเศษเพิ่มจากปกติอีก 12 ขบวน เพื่อรองรับผู้โดยสารจากสถานีศิลาอาสน์ ศรีสะเกษ อุดรธานี และอุบลราชธานีวันละ 4 ขบวนต่อเส้นทาง ช่วงวันที่ 16 18 เมษายน ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้าง เพราะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 120,000 คน

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้เป็นช่วงวันหยุดนานถึง 5 วัน คนไทยจำนวนไม่น้อยเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ และบางส่วนเดินทางกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด และได้เข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติประมาณร้อยละ 10 ซึ่งคาดว่า ตลอดเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะมีผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นประมาณ 70,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่เดินทางออกไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ ทำให้จำนวนเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำบินตรงออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศมีจำนวนมากกว่าปกติ ในขณะที่ต่างชาติไม่ได้เดินทางเข้ามาในประเทศมากนัก เพราะไม่ใช่ช่วงวันหยุดของต่างชาติ แต่เป็นวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ของคนไทย และที่ผ่านมาสถานการณ์การเดินทางปกติ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

นายเสรีรัตน์ กล่าวเปรียบเทียบตัวเลขผู้มาใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า ปกติคนไทยจะเดินทางออกนอกประเทศเฉลี่ยวันละ 7,500-8,000 คนต่อวัน และชาวต่างชาติเดินทางออกไปประมาณ 25,000 คนต่อวัน แต่ ในวันที่ 11 เมษายน 2550 คนไทยออกเดินทางไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 11,000 คน และเพิ่มเป็น 18,000 คนในวันที่ 12 เมษายน 2550 ในขณะที่ต่างชาติที่เดินทางออกนอกประเทศยังคงมีจำนวนเท่าเดิม

คนไทยที่เดินทางออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ จะเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้ามาตั้งแต่วันนี้ โดยเครื่องบินเที่ยวขากลับประเทศ หากเป็นกลุ่มคนไทยที่ออกไปทัวร์ยุโรปจะทยอยเดินทางกลับเข้ามาช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) เป็นต้นไป ส่วนกลุ่มคนไทยที่ออกไปทัวร์ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี จะทยอยเดินทางเข้ามาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตั้งแต่ช่วงเย็นวันนี้เป็นต้นไป

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะคอยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารระบายออกจากอาคารผู้โดยสารได้อย่างสะดวก และเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยรถบริการต่าง ๆ และมีการบริหารจัดการระบบการจราจรที่ผู้มาคอยรับญาติจอดรถกีดขวางการจราจรภายในท่าอากาศยาน ให้ไม่มีการจอดรถกีดขวางการจราจร นายเสรีรัตน์ กล่าว