เร่งล่าแก๊งขโมยศพป่าช้าอุดรฯเชื่อนำไปทำพิธีไสยศาสตร์

อุดรธานี 16 เม.ย.58-ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (16 เม.ย.)

เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ป่าช้าบ้านโนนสา ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม หลังมีข่าวว่า มีผู้เข้าไปขโมยศพชาย-หญิง ที่เรียกว่าเสียชีวิตลักษณะ “ตายโหง” ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ญาติผู้ตายเชื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ พร้อมแจ้งความตำรวจ สภ.ประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้าย พบว่าเคยเกิดเหตุคนร้ายเข้าไปขโมยศพลักษณะนี้มาแล้วที่ป่าช้า ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี

พ.ต.ท.จำลอง ปัญจะนะ สว.สส.สภ.ประจักษ์ศิลปาคม นำตำรวจเข้าตรวจสอบในพื้นที่ป่าช้าบ้านโนนสา

 พร้อมกับ นายวิเชียร บุญพา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโนนสา และแม่ของศพที่ถูกขโมยไปทั้ง 2 ศพ จุดแรก ตรวจจุดที่ฝังศพของบุตรสาว อายุ 26 ปี เสียชีวิตขณะตั้งครรภ์อายุ 5 เดือน ที่เรียกกันว่า “ตายทั้งกลม” แพทย์ผ่าเอาศพลูกจากครรภ์ ออกก่อนมาประกอบพิธีทางศาสนา โดยเก็บศพทั้งแม่และลูกไว้ในเบ้า ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.57 คนร้ายทุบเบ้าปูนทะลุด้านศีรษะออก แล้วขโมยเอาศพเฉพาะส่วนศีรษะไป ส่วนศพของลูกที่วางไว้ข้างร่างของผู้ตาย คนร้ายไม่ได้นำไปด้วย

ส่วนศพที่ 2 เป็นจุดฝังศพของบุตรชายอายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกยิง ในงานงิ้วศาลเจ้าปู่-ย่า อ.กุมภวาปี

โดยศพถูกนำใส่ในโลงไม้นำมาฝังในป่าช้า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.57 คนร้ายลักลอบขุดหลุมศพ แล้วยกเอาศพที่อยู่ในโลงออกไป ซึ่งสภาพของป่าช้า คนร้ายจะต้องยกศพออกมาใส่รถด้านนอก

ชาวบ้านต่างสาปแช่งผู้ที่เข้ามาก่อเหตุขโมยศพไปจากป่าช้า และขอให้ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายที่เข้ามาขโมยศพทั้ง 2 ให้ได้

ระบุตั้งแต่เกิดมาไม่เคบพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไหนพ่อแม่พี่น้องจะเสียใจ เพราะอยากทำบุญให้ลูกหลานก็ไม่ได้ทำ เขาต้องการที่จะได้ศพกลับคืนมา เพื่อจะได้ทำพิธีตามความเชื่อของคนอีสาน นอกจากนี้ชาวบ้านยังกลัวว่า เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น มีการนำศพตายโหงออกจากป่าช้าที่ฝังเก็บไว้ โดยยังไม่มีการทำพิธีตามความเชื่อของคนอีสาน ที่ต้องเก็บศพที่ตายโหงไว้ 3 ปี ก่อน เพื่อให้ผู้ตายได้เย็นลง จึงจะนำมาเผา เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น กลัวว่าจะเกิดเรื่องอาเพศขึ้นในหมู่บ้าน.-สำนักข่าวไทย