เฟดส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย

ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ส่งสัญญาณว่า เห็นแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงจะสิ้นสุดในปีนี้ และกำลังเตรียมยุทธศาสตร์หลังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ส่วนเศรษฐกิจจีนกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้งในครึ่งหลังของปีนี้ โดยขยายตัวได้ถึงร้อยละ 7.9
   
เฟดปรับเพิ่มแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2552 และ 2553 โดยคาดว่า ช่วงครึ่งหลังของปีนี้เศรษฐกิจจะดีขึ้น

ส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งปีหดตัวน้อยลงเหลือร้อยละ 1-1.5 เฟดไม่ได้ระบุตัวเลขคาดการณ์สำหรับเศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังของปีนี้แต่คาดว่าต้องขยายตัวมากพอที่จะชดเชยไตรมาสแรกของปีนี้ที่หดตัวร้อยละ 5.5 และไตรมาส 4 ของปี ก่อนที่หดตัวร้อยละ 6.3 ส่วนปี 2552 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.1-3.3
   
นายจอช ไฟน์แมน เศรษฐกรของดีบีแอดไวเซอร์ส บริษัทจัดการลงทุนของดอยท์ แบงก์ชี้ว่า หากการประมาณการของเฟดเป็นจริง ภาวะเศรษฐกิจถดถอยน่าจะสิ้นสุดได้ในปีนี้
   
เฟดแถลงด้วยว่า ยังคงให้ความสำคัญต่อการยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เหมาะสม หลังจากหลายฝ่ายแสดงความวิตกว่า เฟดไม่มียุทธศาสตร์เลี่ยงการเกิดภาวะเงินเฟ้อสูงในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังจากออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ นายจอห์น อ๊อก จากวอลล์สตรีทดอทคอมเชื่อว่า เฟด   ส่งสัญญาณว่า กำลังหายุทธศาสตร์ก้าวออกจาก นโยบายคงอัตราดอกเบี้ยไว้ต่ำมากเกือบแตะระดับร้อยละ 0 แต่คงไม่ดำเนินการแบบฉับพลัน เพียงแต่เตือนให้ตลาดทราบล่วงหน้าว่านโยบายผ่อนปรนทางการเงินจะไม่ใช่นโยบายถาวร
   
ส่วนรัฐบาลจีน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อยละ 7.9 ในไตรมาส ที่ 2 ของปีนี้

ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นสำหรับมหาอำนาจเอเชียที่ได้รับอานิสงส์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก ทะยานขึ้นแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง หลังจากเติบโตเพียงร้อยละ 6.1 ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นการเติบโตที่ช้าที่สุดในรอบมาก กว่า 10 ปี ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพีของจีน โตร้อยละ 7.1 ในครึ่งแรกของปี 2552 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์