เฝ้าชมราชพิธีเสกสมรสเจ้าชายวิลเลียม-เคท

คุมเข้มความปลอดภัยงานราชพิธีเสกสมรส“เจ้าชายวิลเลียม”กับพระคู่หมั้น “น.ส.เคท มิดเดิลตัน”สื่อแทบลอยด์แฉอีก

วันนี้ 29 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   เมื่อวานนี้  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พระราชวังเซนต์เจมส์ของเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ แถลงว่า เจ้าชายวิลเลียม พระชนมายุ 28 พรรษา กับ น.ส.เคท มิดเดิลตัน พระคู่หมั้นวัย 29 ปี ได้เสด็จไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ สถานที่ประกอบราชพิธีเสกสมรส เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา เพื่อซ้อมใหญ่สำหรับการประกอบราชพิธีเสกสมรส หลังการซ้อมใหญ่สำหรับขบวนเสด็จ ซึ่งมีทหารกองเกียรติยศจากสามเหล่าทัพร่วมซ้อมด้วย ก่อนถึงวันจริง วันศุกร์ที่ 29 เม.ย.นี้
   
ในการนี้ เจ้าชายแฮร์รี ในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวก็ทรงร่วมซ้อมเคียงข้างพระเชษฐาของพระองค์ด้วย

ส่วนฝ่ายเจ้าสาว น.ส.เคท มิดเดิลตัน ก็สวมชุดลำลองเป็นกระโปรงและแจ๊คเก็ตคลุม พร้อมกับสมาชิกในครอบครัวของเธอ ส่วนผู้ที่ทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวก็คือ น.ส.ฟิลิปปา มิดเดิลตัน น้องสาวของเธอ ก็มาร่วมซ้อมใหญ่ โดยมีพระชั้นผู้ใหญ่อยู่ในมหาวิหารเพื่อซ้อมใหญ่ด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้ น.ส.เคท มิดเดิลตัน ได้เดินทางออกจากบ้านพักในหมู่บ้านบัคเกิลบูร์รี ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน ซึ่งอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับเธอที่เดินทางออกมาจากบ้านหลังนี้ในฐานะหญิงโสด เพราะเธอจะไปพักอยู่ที่โรงแรมกอริง โรงแรมหรูในลอนดอนซึ่งอยู่ติดกับพระราชวังบัคกิ้งแฮมในคืนวันพฤหัสบดี
   
ในหนังสือกำหนดการราชพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมกับน.ส.มิดเดิลตันที่นำออกเผยแพร่ก่อนวันงานนั้น
 
ได้ถือโอกาสขอบคุณทุกคนที่มาร่วมยินดีในงานฉลองราชพิธีเสกสมรส และหวังว่าจะเป็นวันที่มีความสุขสำหรับทุกคน ความปลาบปลื้มยินดีของหลายคนแสดงออกมาระหว่างการหมั้นของเราทั้งสอง ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อและประทับใจเราทั้งสองอย่างมาก ในหนังสือกำหนดราชพิธียังระบุว่า น.ส.เคท มิดเดิลตัน จะไม่พูดว่าสัญญาจะปฏิบัติตามว่าที่สามีของเธอ ในระหว่างกล่าวคำสาบาน แต่จะใช้คำว่า รัก ทะนุถนอม ให้เกียรติ และ ดูแลเขาตลอดไปแทน
   
หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ เดอะ นิว เอจ และ เดอะสตาร์ รายงานว่า นายคัล ทอมลินสัน นักแล่นเรือ
 
ซึ่งทำหน้าที่ดูแลพระคู่หมั้นของเจ้าชายวิลเลียม ช่วงมาฝึกงานเป็นกะลาสีเรืออยู่ที่บริษัทดำเนินธุรกิจแล่นเรือยอร์ช เปิดเผยว่า น.ส.เคท มิดเดิลตัน เคยมีความคิดที่จะจับเจ้าชายวิลเลียม ก่อนที่จะไปเข้าเรียนระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเซนต์ แอนดรูว์ในสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของเธอ นอกจากนั้น เขาเองก็ยังต้องมาคอยปลอบใจกับเพื่อนร่วมงานของเธอ ซึ่งหลงรักน.ส.เคท มิดเดิลตัน อย่างหัวปักหัวปำ โดยเขาต้องบอกให้เลิกคิดได้แล้ว เพราะน.ส.เคท มิดเดิลตัน มีจุดมุ่งหมายที่ใหญ่และสำคัญกับเธอมากคือ การจับเจ้าชายรัชทายาทและได้กลายเป็นเจ้าหญิงในอนาคต
   
สำหรับการรักษาความปลอดภัยในราชพิธีเสกสมรสครั้งนี้

แขกที่มาร่วมงาน 1,900 คนนั้น ส่วนใหญ่ก่อนที่จะเข้าไปในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์นั้น จะต้องถูกตรวจประวัติ บัตรผ่านและเครื่องตรวจโลหะด้านความปลอดภัย โดยวางกำลังตำรวจในเครื่องแบบไว้ 5,000 คน เพราะตำรวจกำลังเฝ้าติดตามผู้ก่อการร้ายชาวไอริช กลุ่มศาสนาหัวรุนแรง และ ผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านราชวงศ์ อย่างไรก็ตาม นางคริสตีน โจนส์ ผู้บัญชาการตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด กล่าวว่า ยังไม่พบภัยคุกคามจากการก่อการร้าย แต่ก็ต้องเฝ้าระวังเอาไว้เพื่อความปลอดภัย
   
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ได้ออกคำเตือนสำหรับชาวอเมริกันที่เดินทางไปประเทศในทวีปยุโรปว่า
 
คำเตือนเรื่องเฝ้าระวังการก่อเหตุร้ายจะยุติไปหลังเสร็จสิ้นวันราชพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมกับพระคู่หมั้น ไม่มีการต่ออายุออกไปอีก คำเตือนเรื่องการเฝ้าระวังการก่อการร้ายออกมาตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากมีข่าวว่า พวกก่อการร้ายวางแผนการโจมตีคล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นที่เมืองมุมไบประเทศอินเดียเมื่อปี 2551 มือปืนยิงกราดใส่ผู้คนมีผู้เสียชีวิตกว่า 160 ศพ โดยเป้าหมายอยู่ที่เมืองในทวีปยุโรป เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า จะไม่มีการขยายเวลาแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังการก่อการร้ายอีกต่อไปในขณะนี้
   
ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษแจ้งว่า มีโอกาสสูงถึง 70% ที่จะเกิดฝนตกในวันงานราชพิธี ซึ่งอาจจะเป็นฝนโปรยปรายกับฝนแล้ง

อากาศเย็นในระดับไม่เกิน 20 องศาเซลเซียส ส่วนที่สื่อรายงานว่า ซาราห์ เบอร์ตัน ผอ.ฝ่ายศิลป์ของดีไซเนอร์ชื่อดัง อเล็กซานเดอร์ แมคควีนนั้น เป็นดีไซเนอร์ผู้ถูกเลือกให้ทำหน้าที่ออกแบบชุดเจ้าสาวให้น.ส.เคท มิดเดิลตัน แต่ทางห้องเสื้อได้ปฏิเสธไปแล้วว่าไม่เป็นความจริง ดังนั้นจึงเว็บไซต์ข่าวคาดว่า ดีไซเนอร์ของอังกฤษอีกคนคือ โซฟี แครนสตัน ต่างหากที่เป็นคนออกแบบชุดเจ้าสาว แต่หนังสือพิมพ์เดลี่เมล์ รายงานว่า น.ส.เคท มิดเดิลตัน เป็นคนออกแบบชุดเจ้าสาวของเธอเอง

 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์