เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เคท มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์
จะเริ่มต้นชีวิตแต่งงานอย่างจริงจังในสัปดาห์หน้าโดยมีหน้าที่ความรับผิดชอบเดียวที่ต้องปฏิบัติอย่างจริงจังนับจากนี้ ซึ่งเธอเองก็รู้อยู่นั่นคือการมีทายาท แอนดรูว์ มอร์ตัน ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติเจ้าหญิงไดอานา พระมารดาของเจ้าชายวิลเลียม และตอนนี้กำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับคู่แต่งงานบันลือโลกคู่นี้บอกว่า "หากเคทไม่ตั้งครรภ์ภายในเวลา 9 เดือนนับจากนี้ จะเป็นการฝ่าฝืนธรรมเนียมปฏิบัติของราชวงศ์ที่ดำเนินมายาวนานถึง 200 ปี"
แพดดี้ ฮาร์เวอร์สัน เลขาธิการฝ่ายการสื่อสารของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์บอกว่า "สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงคือเจ้าชายวิลเลียมไม่ใช่รัชทายาทลำดับที่ 1 แต่พระองค์เป็นลำดับที่ 2 จึงไม่ถือว่าต้องปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นหลัก แต่งานหลักของพระองค์คือเป็นนักบินหน่วยค้นหาและกู้ภัยของกองทัพอากาศเต็มเวลา"
ภายใต้กฎการสืบสันตติวงศ์ลูกชายคนแรกของทั้ง 2 จะกลายเป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 ต่อจากเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แต่หากเป็นผู้หญิง ลำดับการสืบสันตติวงศ์ของเธอจะอยู่ภายหลังน้องชาย
วันเดียวกันเอเอฟพีรายงานว่ามีชาวอังกฤษ 24 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 62 ล้านคน
ที่รับชมการถ่ายทอดสดพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมกับ เคทผ่านทางโทรทัศน์ มากกว่า 21.7 ล้านคนที่รับชมงานแต่งงานของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับเจ้าหญิงไดอานาพระบิดาและพระมารดาของเจ้าชายวิลเลียม ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่ามีชาวอเมริกัน 22.7 ล้านคนจากประชากรของสหรัฐอเมริการาว 310 ล้านคนที่ชมการถ่ายทอดสดพิธีเสกสมรสจากการสำรวจของนีลเส็น บริษัทสำรวจเรตติ้ง ซึ่งน้อยกว่าคนอเมริกันที่ชมการถ่ายทอดสดพิธีฝังพระศพของเจ้าหญิงไดอานาเมื่อเดิอนกันยายนปี 2540 ซึ่งมีถึง 33.2 ล้านคน อย่างไรก็ตาม จำนวนคนดูถ่ายทอดสดงานเสกสมรสในสหรัฐนี้ไม่รวมตัวเลขของผู้ที่รับชมผ่านทางสถานีโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกหรือเคเบิลทีวีและผู้ที่รับชมผ่านอินเตอร์เน็ตที่คาดว่ามีอีกหลายล้านคน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
