เผยหนึ่งปีครึ่งพันกินอาหารสุกๆดิบๆพยาธิขึ้นสมองเสี่ยงอัมพาต

ผอ.สำนักระบาดฯ เผยแต่ละปีมีผู้ติดเชื้อจากการกินอาหารสุกๆ ดิบๆ กว่าครึ่งพัน ตายมากถึง 10%

เตือนหากเชื้อเข้ากระแสเลือดอาจตายได้ฉับพลัน 1-2 วัน แถมพยาธิขึ้นสมองเสี่ยงอัมพาต แนะกินอาหารปรุงสุกเท่านั้น
ความคืบหน้ากรณี นายสมพงษ์ จิตรเที่ยง หรือ "หลวงไก่" ศิลปินนักร้องชื่อดัง ล้มป่วยกะทันหันด้วยอาการของพยาธิตัวตืดหมูขึ้นสมอง หลังมีพฤติการณ์ชอบกินอาหารประเภทสุกๆ ดิบๆ นั้น
 

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผอ.สำนักระบาดวิทยา กล่าวว่า

คนไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากพยาธิสูง เพราะชอบกินอาหารสุกๆ ดิบๆ อาจได้รับอันตรายจากพยาธิตัวตืดหมู แล้วยังมีพยาธิในหอยโข่งที่ทำให้มีอาการปวดหัว แต่ละปีมีคนไข้มารับการรักษาจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีแบคทีเรียที่อยู่ในเนื้อหมูที่ปรุงไม่สุก หากได้รับเชื้อแล้วจะเข้าสู่กระแสเลือดทำให้เสียชีวิตภายใน 1-2 วัน แต่ละปีมีผู้ติดเชื้อประมาณ 400-500 ราย และเสียชีวิตถึง 10% แต่อาการพยาธิขึ้นสมองเกิดขึ้นน้อยมาก ทั้งนี้ พยาธิสามารถเกิดขึ้นในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อ สำหรับพยาธิตัวตืดหมูมีลักษณะเป็นเม็ดสาคูที่เนื้อหมู ตับ เมื่อการกินอาหารดิบๆ ที่มีไข่พยาธิอยู่ ก็จะเข้าไปฝังตัวอยู่ในผนังลำไส้ และมีโอกาสหลุดเข้าสู่กระแสเลือด แล้วฝังตัวอยู่ตามส่วนร่างๆ ของร่างกาย หากพยาธิเข้าสู่สมองก็อาจทำให้เป็นอัมพาตได้
 
เมื่อพยาธิเข้าสู่ลำไล้จะไปเกาะที่ผนังลำไส้

และเข้าสู่กระแสเลือดกระจายไปตามอวัยวะต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อ ทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อ และยังรวมถึงอวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ตา และสมอง แต่การเกิดพยาธิที่สมองนั้นน้อยมาก หากเกิดขึ้นแล้วร่างกายก็พยายามกำจัดด้วยการเอาแคลเซียมไปบล็อกไว้ ส่วนพยาธิก็สร้างถุงน้ำขึ้นมา ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้เส้นประสาทสำคัญๆ อาจไปกดทับทำให้เกิดอาการชักเป็นอัมพาตได้" นพ.คำนวณ กล่าว
 

 ผศ.นพ.กำธร มาลาธรรม หน่วยโรคติดเชื้อและระบาดวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงวงจรชีวิตของพยาธิว่า

ปกติพยาธิอาศัยอยู่ในสัตว์ แต่สามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ 2 กรณี คือ ไข่พยาธิและตัวจี๊ดของพยาธิ โดยไข่พยาธิจะเข้าสู่ร่างกายด้วยการกินผักดิบ ซึ่งเกิดจากผักที่ใส่ปุ๋ยคอกที่ทำจากขี้หมู หรือขี้วัว อาจมีไข่พยาธิปนเปื้อนอยู่ โดยธรรมชาติของไข่พยาธิ เมื่อฝักตัวมาแล้วก็ต้องหาที่อยู่ พอมาอยู่ร่างกายคนที่ไม่ใช่หมู หรือวัวที่เป็นที่อยู่ของมัน จะฟอร์มตัวเป็นซีสต์ฝังอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายและเจริญเติบโตไม่เต็มที่ หากพยาธิไปฝังอยู่ในสมองก็จะทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น อาการชัก แต่หากพยาธิไปฝังอยู่ตามกล้ามเนื้อก็จะไม่แสดงอาการ

ส่วนกรณีพยาธิเป็นตัวจี๊ดที่กำลังจะโตนั้น เข้าสู่ร่างกายด้วยการกินเนื้อที่เป็นเม็ดสาคู สุกๆ ดิบๆ พยาธิก็จะเข้าไปเจริญเติบโตในลำไส้ จะไม่ขึ้นสมอง หรือฝังอยู่ในกล้ามเนื้อ

การกินไข่พยาธิ จะทำให้พยาธิไปฝังตัวตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

และเป็นพิษต่อมนุษย์ โดยเฉพาะพยาธิที่ฟอร์มตัวเป็นซีสต์ฝังอยู่ในสมอง หากกินตัวจี๊ดของพยาธิจะอาศัยอยู่ในลำไส้เท่านั้น จึงควรล้างผักให้สะอาดด้วยน้ำเยอะๆ หากกินผักสุกจะปลอดภัยกว่า" ผศ.นพ.กำธร กล่าว
 

 ทั้งนี้ วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี ระบุว่า

พยาธิเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทปรสิต ดำรงชีวิตอยู่ได้โดยการแย่งและดูดซึมสารอาหารจากร่างกาย และสืบพันธุ์ในร่างกายของคนและสัตว์ บางชนิดก็ไม่ก่อความเดือดร้อนต่อร่างกายคนและสัตว์ที่มันอาศัยอยู่ เพียงแต่แย่งดูดซึมอาหารเท่านั้น บางชนิดก็ก่อให้เกิดพยาธิสภาพรุนแรงถึงชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษา
 

 สำหรับพยาธิก่อโรคในคนจำแนกได้ 3 กลุ่มใหญ่ คือ

พยาธิตัวกลม พยาธิตัวตืด และพยาธิใบไม้ โดยพยาธิตัวกลมมีลำตัวไม่แบ่งเป็นปล้องๆ รูปร่างทรงกระบอก หัวท้ายเรียวแหลม เช่น พยาธิไส้เดือนกลม พยาธิเส้นด้าย พยาธิปากขอ พยาธิตัวจี๊ด ซึ่งพบผู้ป่วยจากพยาธิเส้นด้ายมากที่สุดจากบริโภคอาหารดิบ หรือปรุงสุกๆ ดิบๆ จากเนื้อสัตว์และหอยชนิดต่างๆ และรวมถึงได้รับพยาธิจากการใช้มือที่ไม่สะอาดแล้วมาหยิบอาหารรับประทาน

ส่วนพยาธิตัวตืดมีลำตัวแบน แบ่งเป็นปล้องๆ เช่น พยาธิตัวตืดหมู พยาธิตัวตืดวัว ซึ่งพบผู้ป่วยจากพยาธิตัวตืดหมูและพยาธิตัวตืดวัวมากที่สุด และพยาธิใบไม้ มีลำตัวแบนไม่แบ่งเป็นปล้อง เช่น พยาธิใบไม้ในเลือด พยาธิใบไม้ในตับ ติดต่อได้ง่ายจากการบริโภคอาหารประเภทปลา และสัตว์น้ำจืดที่ปรุงไม่สุก


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์