เปิดใจ!!ฮีโร่รถบรรทุก หมาตัดหน้ารถยังไม่กล้าชน อาจจะตกงาน!!

เปิดใจ!!ฮีโร่รถบรรทุก หมาตัดหน้ารถยังไม่กล้าชน อาจจะตกงาน!!


เป็นคลิปที่ฮือฮามากในโลกโซเชียล กับคลิปที่รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ที่หักหลบรถจักรยานยนต์ล้มข้างหน้า จนกระทั่งรถตัวเองลงข้างทางไปฟาดเสาไฟฟ้าและพลิกคว่ำ ทำให้เด็กชายวัยรุ่น 2 คนที่รถล้มอยู่ข้างหน้ารอดตายหวุดหวิด บรรดาชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมและยกให้เป็นฮีโร่เลย

ล่าสุด รายการ "ข่าวมื้อเช้า" ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 ได้สัมภาษณ์เปิดใจ นายประสิทธิ์ โดยเจ้าตัวเล่าว่า วันที่เกิดเหตุกำลังขับรถอยู่บนถนนพหลโยธินช่วง อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าไป จ.สระบุรี ระหว่างทางสังเกตเห็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับตามหลังมาในลักษณะคล้ายขับแข่งกัน ก่อนที่รถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุเร่งแซงรถตนเองขึ้นทางด้านขวาและขึ้นไปขับนำหน้า แต่คาดว่าถนนข้างหน้าคงเป็นลูกคลื่นทำให้รถจักรยานยนต์ที่มีเด็กชายวัยรุ่น 2 คนอายุประมาณ 15-16 ปี ขับขี่อยู่เกิดเสียหลักล้มลง

"นาทีนั้นไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่ทันได้คิด แต่กระทืบเบรกก่อนแต่เบรกไม่อยู่จึงหักซ้ายลงข้างทาง ก่อนที่จะเกิดเหตุตามที่ปรากฏในคลิป ส่วนลูกพ่วงพลิกตะแคง แต่ส่วนหัวลากกลับขึ้นมาบนถนนอีกครั้ง จึงประคองพวงมาลัยไม่ให้ชนเด็กทั้ง 2"

โดยหลังเหตุการณ์เมื่อตั้งสติได้ลงมาดูสภาพรถแต่ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์และเด็กทั้ง 2 คน ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว จากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งเถ้าแก่เจ้าของรถ และแจ้งประกันมาตรวจสอบ

เมื่อถามว่าการตัดสินใจหักหลบไม่เกรงว่าตนเองจะเป็นอันตรายเองหรือ ?
นายประสิทธิ์บอกว่า ตนเองขับรถมานานหลายปี ที่ผ่านมาแม้กระทั่งสุนัขวิ่งตัดหน้ารถก็ไม่กล้าชน จะเบรกและหลบ ตนไม่ได้คิดอะไรเพราะไม่มีเวลาคิดถึงผลที่ตามมา สิ่งที่ทำเป็นไปโดยสัญชาตญาณ หากวันนั้นตัดสินใจชน วันนี้จะยิ่งไม่สบายใจมาก แต่มาถึงตอนนี้แม้จะกระทบเดือดร้อนด้านอื่น ๆ แต่ก็รู้สึกสบายใจที่ตัดสินใจหลบ

ส่วนค่าเสาไฟฟ้าที่เสียหายประมาณ 6 แสนบาท รวมทั้งค่าซ่อมรถทางประกันรถยนต์มีความคุ้มครอง เนื่องจากรถมีประกันภัยชั้น 1 ส่วนความช่วยเหลืออื่น ๆ ที่ปรากฏเป็นข่าวตนเองไม่เคยได้รับการติดต่อแต่อย่างใด โดยหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวต้องนำรถเข้าซ่อมที่อู่คาดว่าใช้เวลาราว 2 เดือน ทำให้ระหว่างนี้ตนเองจะต้องตกงาน เพราะไม่มีรถบรรทุกวิ่งทำงาน และเถ้าแก่เจ้าของรถเองก็ยังไม่ได้บอกว่าจะทำอย่างไรเพราะยังไม่ได้คุยกัน โดยปัจจุบันทำงานขับรถบรรทุกคันดังกล่าวรับ-ส่งสินค้าทุกวัน มีรายได้ประมาณ 18,000-19,000 บาทต่อเดือน หากไม่มีรถบรรทุกขับก็ขาดรายได้ และคงต้องนำเงินเก็บมาใช้จ่ายไปก่อน ส่วนเงินค่าปรับ 1,000 บาท ที่ถูกตำรวจปรับข้อหาขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย ตนเองได้นำเงินเถ้าแก่จ่ายไปก่อน แต่ไม่ทราบว่าจะถูกหักเงินคืนภายหลังหรือไม่

ขณะที่ช่วงท้ายการสัมภาษณ์ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองผู้อำนวยการสำนักกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มอบกระดิ่งประทานจากพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และเสื้อคนดีที่เรายกย่อง พร้อมของที่ระลึกจากโครงการในพระดำริฯ ให้แก่นายประสิทธิ์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำความดีครั้งนี้ โดยเป็นการเสียสละตนเองเพื่อรักษาชีวิตผู้อื่น ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มให้แก่นายประสิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง



ขอบคุณคลิปจาก > >youtube >> Workpoint News ข่าวเวิร์คพอยท์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์