เปิดภาพสุดท้ายก่อนชายวัย74 โดดสะพานกรุงเทพ สลด คำพูดสุดท้าย ที่พูดกับลูก

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 ม.ค. ร.อ.ต.ไพรวิทย์ ปรือทอง รอง (สอบสวน) สน.บางคอแหลม รับแจ้งเหตุมีผู้กระโดดสะพานกรุงเทพ ช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. และสูญหายภายในน้ำ หลังรับแจ้งจึงเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรองเท้าแตะและโทรศัพท์มือถือ ถูกวางไว้บริเวณสะพาน แต่ไม่พบเจ้าของ คาดว่าจะเป็นของชายที่กระโดดลงไปจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาทางญาติ นายพิศาร วิริยะสกุลกิจ อายุ 45 ปี เดินทางเข้ามาติดต่อที่สน.บางคอแหลม เพื่อแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าผู้ที่โดดสะพานนั้น ทราบชื่อคือนายสนั่น วิริยะสกุลกิจ อายุ 74 ปี ผู้เป็นบิดา เป็นผู้โดดสะพานดังกล่าว

จากการสอบถามนายพิศาร (ลูกชาย) เปิดเผยว่า ตนทำหน้าที่ขับแท็กซี่หลังจากเลิกงานก็ซื้อกับข้าวไว้ให้พ่อกิน โดยเจอกับพ่อล่าสุดเมื่อตอนตี 3 ซื้อกับข้าวไปให้ แต่ผู้ตายบอกว่า "ไม่รู้จะได้กินรึป่าว" ในตอนนั้นตนไม่ได้คิดอะไร คิดว่าพ่อพูดเล่น จึงกลับห้องของตน แต่พอเช้ามาเห็นพ่อไม่ออกไปกินกาแฟร้านประจำ จึงติดต่อน้องชายคนเล็กให้ไปหาที่ร้านกาแฟ จึงทราบว่าพ่อมาที่ร้านกาแฟในช่วงเช้า มาฝากเงินและกุญแจห้อง พร้อมบอกกับเจ้าของร้านกาแฟว่า "จะไปโดดน้ำตาย"

น้องชายคนเล็กรีบโทรหาพ่อ พ่อรับสายและบอกว่า "กำลังจะโดดน้ำตาย" จากนั้นเสียงก็เงียบไปและวางสาย ตนจึงรีบขับรถออกมาหาที่สะพานกรุงเทพ ในขณะนั้นจึงฟังวิทยุ จส.100 ไปด้วย แต่ไม่เห็นมีคนแจ้งว่ามีคนโดดน้ำ ตนคิดว่าพ่ออาจจะไม่น่าจะโดดน้ำ เพราะพ่ออาจปีนไม่ไหว จากนั้นจึงโทรหาพ่ออีกครั้ง แต่ไม่มีคนรับสาย เมื่อถึงสะพานกรุงเทพเห็นตำรวจรุมที่จุดเกิดเหตุ เมื่อไปดูเห็นร้องเท้าและโทรศัพท์ จึงมั่นใจว่าเป็นของพ่อตนเอง

นายสิทธิโชติ อ่อนตา อายุ 47 ปี คนขับรถแท็กซี่ บอกกับผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" ว่า ช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. ตนรับนายสนั่นขึ้นมาจากวัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม 3 โดยนายสนั่นถามตนว่า "รู้จักสะพานกรุงเทพไหม" ตนตอบว่า รู้จัก จึงขึ้นรถมา ต่อมาตนจึงถามว่า จะไปไหน นายสนั่นตอบว่า "จะกลับบ้าน" ตนจึงชวนคุยเรื่องทั่วไป นายสนั่นก็เริ่มเล่าให้ฟังว่าป่วย เคยผ่าตัดสมองมานานแล้ว จากนั้นก็โทรศัพท์ และบอกกับปลายสายว่าฝากกุญแจและเงินไว้ที่ร้านกาแฟ

จากนั้นเมื่อถึงสะพานกรุงเทพ นายสนั่นขอลงกลางสะพานแต่ตนจอดไม่ได้ จึงไปได้จอดที่ตีนสะพานแทน โดยตนถามนายสนั่นอีกครั้งว่า "มาทำอะไรที่สะพานกรุงเทพ" นายสนั่นตอบมาว่า "เดี๋ยวก็รู้" จากนั้นตนจึงคิดค่าโดยสารเพียง 75 บาท แต่นายสนั่นยื่นค่าโดยสารให้ 200 บาท และบอกให้เอาไปใช้ ก่อนจะลงรถไป ตนรู้สึกสังหรณ์ใจจึงตัดสินใจวนรถขึ้นไปบนสะพานอีกครั้ง เห็นนายสนั่นเดินย้อนขึ้นสะพานไป แต่ตนไม่สามารถจอดรถได้ ก็เห็นเพียงเดินขึ้นสะพานอย่างช้าๆ ก่อนที่ตนจะเปิดฟัง จส.100 และทราบว่ามีคนโดดน้ำที่สะพานกรุงเทพ ตนจึงคิดว่าเป็นผู้โดยสารที่ตนมาส่ง จึงโทรหาจส.100 เพื่อเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุ เพราะนายสนั่นป่วยผ่าตัดสมองมาหลายปี ไม่มีเรี่ยวแรงและบ่นอยากฆ่าตัวตายมาโดยตลอด เบื้องต้นจึงรอให้เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำงมหาร่างต่อไป และคาดว่าอาจจะไม่ใช่วันนี้ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวและแรงมาก ไม่สามารถลงงมได้