เปมิกาจุกอีก ขาดสอบ 3 วิชา

หลังจากที่นางอลิสา ทมทิตชงค์ ภรรยาของ นพ. ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์


มอบหมายให้ทนายความ ยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เรียกค่าเสียหายจาก น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต นิสิตชั้นปี 4 คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฐานแสดงตนทำนองชู้สาวกับ นพ.ประกิตเผ่า เป็นจำนวนเงิน 27 ล้านบาท

ความคืบหน้า ที่อาคารจามจุรี 4 ชั้น 2 เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (14 มี.ค.)


นายสมโภชน์ เอี่ยมสุภาษิต คณบดีคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.เปมิกาถูกฟ้องเรียกค่าเสียว่า ขณะนี้ศาลยังไม่ตัดสิน ทางคณะก็คงยังไม่ดำเนินการอะไร แต่ในฐานะลูกศิษย์กับอาจารย์ ก็มีความห่วงใยในฐานะอาจารย์คนหนึ่ง


สิ่งที่จะทำได้คือ ติดต่อ น.ส.เปมิกาให้มาพบกับอาจารย์ที่คณะจิตวิทยาอีกครั้ง


เพื่อสอบถามความคิดเห็นว่า คิดอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทางอาจารย์ถึงจะให้คำแนะนำได้ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา น.ส.เปมิกาโทรศัพท์ติดต่อมา แต่ตนไม่ได้อยู่ที่คณะ และไม่ทราบว่าติดต่อเรื่องอะไร ซึ่งได้นัดหมายให้โทร.มาหาอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อ

คณบดีคณะจิตวิทยา กล่าวต่อว่า


ที่ผ่านมาทางคณะก็ได้ให้คำแนะนำกับ น.ส.เปมิกาให้ระมัดระวังคำพูด เพราะยังมีสถานภาพเป็นนิสิตจุฬาฯ อยู่ ขอให้แยกแยะระหว่างสถาบันการศึกษากับเรื่องส่วนตัว ทั้งต้องรักษาการเรียนด้วย เท่าที่ทราบ น.ส.เปมิกาขาดสอบ 3 วิชา เข้าใจว่าเป็นช่วงที่เกิดเรื่องพอดี ซึ่งหากขาดสอบก็ตกหรือเอฟโดยอัตโนมัติ แต่ น.ส.เปมิกามีสิทธิทำคำร้อง เพื่อชี้แจงเหตุผลที่ขาดสอบต่อกรรมการสภาจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย

อย่างไรก็ตาม โอกาสจบในปีนี้ค่อนข้างยาก


ที่ผ่านมา น.ส.เปมิกาก็เคยขาดสอบ เพราะสุขภาพไม่ดี ต้องมีใบรับรองแพทย์มายืนยัน และทางคณะก็ตรวจสอบกับทางแพทย์อีกครั้ง สำหรับ น.ส.เปมิกาเคยเรียนกับตนวิชาสถิติจิตวิทยา เมื่อตอนปี 2 ซึ่งเมื่อสอบเสร็จ น.ส. เปมิกาเกิดเป็นลม ทำให้จำนิสิตคนนี้ได้ ส่วนผลการเรียนค่อนข้างดี เกรดเฉลี่ย 3 กว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า การถูกฟ้องร้องดังกล่าว จะส่งผลต่อการรับพระราชทานปริญญาบัตรหรือไม่


คณบดีคณะจิตวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงข้อกล่าวหา ซึ่งยังไม่มีใครรู้ว่าความจริงคืออะไร ควรให้ น.ส.เปมิกาและ นพ.ประกิตเผ่าได้ชี้แจงก่อน หากศาลตัดสินว่า น.ส.เปมิกา ผิดจริง ทางคณะก็คงไม่ปล่อยไว้ เราจะไม่เข้าข้างคนผิด และไม่อยากให้เป็นตัวอย่างไม่ดี จุฬาฯมีจุดยืนในการสร้างนิสิตให้มีคุณธรรม จริยธรรม และศาสตร์ทางด้านจิตวิทยา หากไม่มีคุณธรรมจริยธรรมก็จะเป็นอันตรายมาก

ต่อข้อถามว่าจนถึงขณะนี้ ถือว่ากระทบต่อภาพพจน์ ชื่อเสียงของสถาบันหรือไม่


นายสมโภชน์ตอบว่า ประชาชนคงแยกแยะได้ ว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องของสถาบัน โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่เกี่ยวกับสถานศึกษา และเชื่อว่าปัญหานี้ทุกสถาบันก็มีเช่นกัน เพียงแต่ไม่เป็นที่เปิดเผย จุฬาฯ รู้ดีว่ามีหน้าที่อะไรและทำอะไรอยู่ ถ้าศาลตัดสินแล้วจุฬาฯไม่ทำอะไร ค่อยมาต่อว่ากันอีกที ทั้งนี้ตนมองว่ากรณีที่เกิดขึ้นก็มีส่วนดีเช่นกัน เพราะตรงกับศาสตร์ที่เราสอน จะได้นำกรณีนี้ เป็นกรณีศึกษามาวิเคราะห์กันในชั้นเรียนว่า เกิดอะไรขึ้นและสังคมคิดอย่างไร


ด้านคุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ อธิการบดีจุฬ ลงกรณ์มหาวิทยาลัย


กล่าวถึงกรณีของ น.ส.เปมิกาว่า ถือเป็นกรณีพิเศษไม่ค่อยเกิดขึ้นนัก แต่ก็เป็นเรื่องปกติของคนหมู่มาก ทางคณะจิตวิทยาก็ดูแลอย่างใกล้ชิด เรียกตัว น.ส.เปมิกาเข้ามาพูดคุย ส่วนการฟ้องร้องต่อศาลเป็นเรื่องส่วนตัวของ น.ส.เปมิกา ขณะนี้ทางจุฬาฯ พูดอะไรไม่ได้ เพราะไม่รู้ข้อเท็จจริง ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของศาล

ส่วนคดีความจะมีผลต่อการรับพระราชปริญญาบัตรหรือไม่นั้น

ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งไม่ได้มีข้อกำหนดว่า มหาวิทยาลัยจะต้องดำเนินการอย่างไร จึงอยากขอให้ศาลตัดสินก่อนจะดีกว่า



ที่กองปราบปราม


พ.ต.อ.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบก.ป. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนหาแหล่งที่มาของสารเอฟริดรีนที่ตรวจพบในร่างกาย นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนเพิ่งจะสามารถเข้าไปดำเนินการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ ภายหลังศาลได้มีคำพิพากษาออกมาแล้ว เบื้องต้นได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนประสานไปยังพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ


เพื่อขอสำนวนคดีที่ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต


เพื่อนสาวคนสนิทของ นพ.ประกิตเผ่าที่เข้าร้องเรียนไว้มาตรวจสอบ ว่า ได้ดำเนินการในเรื่องใดไปบ้างและเรื่องใดที่ยังไม่ได้ ดำเนินการทั้งหมดคงต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย และใช้ความรอบคอบในการตรวจสอบประเด็นต่างๆ เนื่องจากเป็นกรณีที่ละเอียดอ่อน

ส่วนการเชิญตัว น.ส.เปมิกามาพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 15 มี.ค.นั้น


ทราบว่าทาง น.ส.เปมิกายังไม่ได้ติดต่อกลับมาว่าจะเข้าพบพนักงานสอบสวนหรือไม่ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของพยาน อย่างไร ก็ตาม หาก น.ส.เปมิกาไม่มาพบ ก็ต้องพิจารณากันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ส่วนความเคลื่อนไหว ที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์


ตลอดทั้งวัน ไม่ปรากฏสมาชิกในครอบครัว ทมทิตชงค์ เดินทางไปเยี่ยม นพ.ประกิตเผ่าแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถาบันคนหนึ่งเปิดเผยว่า การอนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยม นพ.ประกิตเผ่านั้นขึ้นอยู่กับแพทย์เจ้าของไข้ และต้องดูด้วยว่าญาติหรือคนรู้จักที่จะเข้าไปเยี่ยมจะมีผลดีต่อการรักษาพยาบาลหรือไม่ ถ้าเห็นว่าบุคคลนั้น จะทำให้ นพ.ประกิตเผ่าอารมณ์แปรปรวนขึ้นมาอีก ก็จะไม่อนุญาตเด็ดขาด


ส่วนการดูแลรักษาพยาบาล


ทางสถาบันได้จัดให้ นพ.ประกิตเผ่าอยู่ในห้องแอร์อย่างสบาย มีคอมพิวเตอร์ให้เล่นคลายเหงา มีพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด สำหรับอาการโดยทั่วไปของ นพ.ประกิตเผ่าวันนี้ ค่อนข้างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ สามารถพูดคุยเล่นได้เหมือนปกติ และหลังจากที่มีข่าวเรื่องของ นพ.ประกิตเผ่าเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีญาติคนไข้ที่ป่วยทางจิตติดต่อขอพาญาติเข้ารักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์เป็นจำนวนมาก


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์