เบนซินลด50สต.วันนี้พลังงานดึง180ล้านอุ้มน้ำมันม่วง

ผู้ใช้รถโล่งอก ราคาเบนซินปรับลง 50 สตางค์ "เชลล์-เอสโซ่" ยอมรับดีเซลลง 50 สตางค์ ส่งผลราคาเท่ากันทุกปั๊ม พลังงานดึงเงินกองทุน 180 ล้านบาท อุดหนุนน้ำมันม่วง

ผู้ค้าน้ำมันทุกรายประกาศปรับลดราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง 50 สตางค์ต่อลิตร

โดยบริษัท เชลล์ประเทศไทย จำกัด และบริษัท เอสโซ่ จำกัด ได้ปรับลดราคาดีเซลลง 50 สตางค์ต่อลิตรด้วย ทำให้ราคาดีเซลลดลงมาเท่ากับผู้ค้ารายอื่น มีผลในวันที่ 22 มีนาคมนี้ ซึ่งราคาน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะเป็นดังนี้ เบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 34.09 บาท เบนซิน 91 ราคาลิตรละ 32.99 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ราคาลิตรละ 30.09 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 29.29 บาท แก๊สโซฮอล์อี 20 ลิตรละ 28.09 บาท ส่วนดีเซลอยู่ที่ 30.94 บาท
 

 นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลงมา เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ และนักลงทุนเทขายทำกำไรในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า และปริมาณสำรองน้ำมันดิบและเบนซินของสหรัฐมีสูง รวมทั้งโรงกลั่นของอินโดนีเซียกลับมาเปิดหลังปิดชั่วคราว ทำให้ ปตท.สามารถประกาศลดราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลงให้แก่ผู้บริโภคได้ 50 สตางค์ต่อลิตร ส่วนน้ำมันดีเซลยังไม่สามารถปรับลดราคาขายปลีกลงได้ เนื่องจาก ปตท.ยังคงรับภาระขาดทุนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา กว่า 1,000 ล้านบาท
 

 พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า

เป็นข่าวดีที่ราคาน้ำมันตลาดโลกอ่อนตัวลง ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานช่วยลดผลกระทบแก่กลุ่มประมงโดยฟื้นโครงการชดเชยราคาน้ำมันม่วงสำหรับเรือประมงชายฝั่ง ที่ราคาต่ำกว่าดีเซล 5-7 บาท หลังจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ยกเลิกการอุดหนุนราคาน้ำมันม่วงมาระยะหนึ่ง
 

 ด้าน ดร.พรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า

กระทรวงพลังงานใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาลดราคาน้ำมันดีเซล 2 บาทต่อลิตร เพื่ออุดหนุนราคาน้ำมันม่วงให้ถูกกว่าน้ำมันดีเซลปกติ โดยมีผลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละเดือนจะมีความต้องการใช้ดีเซลผ่านโครงการนี้ประมาณ 15 ล้านลิตรต่อเดือน กำหนดเวลาช่วยเหลือ 6 เดือนนับจากนี้เป็นต้นไป คิดเป็นเม็ดเงินที่กองทุนจะต้องเข้าไปช่วยเหลือเดือนละ 30 ล้านบาท รวม 6 เดือนจะต้องใช้เงินในการช่วยเหลือ 180 ล้านบาท


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์