เชียงใหม่อันตรายอุตุฯเตือน 8 จังหวัดระวังน้ำท่วม

เชียงใหม่อันตรายอุตุฯเตือน 8 จังหวัดระวังน้ำท่วม

7 กรกฎาคม 2550 18:15 น.

อธิบดีกรมชลฯ สั่งให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ลุ่มน้ำทางภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมแผนรองรับฤดูน้ำหลาก เดินหน้ารื้อฝายแม่น้ำปิงสร้างประตูระบายน้ำแทน ชาวบ้านค้านแหลกชี้สร้างปัญหาน้ำแล้งถึง 8 เดือนในรอบปี อุตุฯ เตือน 8 จังหวัดระวังอันตรายน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากใน 1-2 วันนี้

ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ร่วมประชุมกับตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ช่วงฤดูน้ำหลาก ซึ่งมีการจัดทำแผนรองรับไว้แล้ว ทั้งการตรวจสอบสถานการณ์น้ำ ระบบการแจ้งเตือนภัย และโครงการขุดลอกและขยายความกว้างของลำน้ำปิง ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการอยู่ รวมทั้งในระยะยาวที่จะรื้อฝายกลางลำน้ำปิงทั้ง 3 แห่งออก และสร้างประตูระบายน้ำแทน ซึ่งอธิบดีกรมชลประทาน ยืนยันว่า โครงการนี้จะสามารถลดปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังต้องรอฟังความเห็นของประชาชนด้านท้ายน้ำที่คัดค้านโครงการนี้ เพราะเกรงจะขาดแคลนน้ำ ซึ่งจะต้องเร่งทำความเข้าใจ

อธิบดีกรมชลประทานยังสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำตามลุ่มน้ำสำคัญของภาคเหนืออย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีฝนตกชุก และหากจำเป็น ให้เสนอแผนการพร่องน้ำจากเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการได้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมในช่วงฝนตกหนัก นอกจากนี้ ยังให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดน้ำท่วม


นายสามารถ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า โดยภาพรวมน้ำท่วมในทุกพื้นที่เป็นปัญหาสำคัญของชาติที่ต้องเฝ้าระวังรองจากภัยแผ่นดินไหว โดยได้กำชับทุกพื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วมว่าต้องดูแล ปีนี้ให้ความสำคัญต่อปัญหาน้ำท่วมมากกว่าการเน้นการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในปลายปี ในส่วนของ จ.เชียงใหม่ กรมชลประทานมีโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำและรื้อฝาย 3 ฝาย ในแม่น้ำปิง ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กำชับให้ทำความเข้าใจกับประชาชน โดยให้ถือเสียงส่วนใหญ่ของชาวบ้านเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม การประชุมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเชียงใหม่วันนี้ มีตัวแทนชาวบ้านยืนยันในที่ประชุมว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างประตูระบายและรื้อฝาย 3 ฝายในแม่น้ำปิง เพราะมองว่าเป็นความพยายามจะแก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงใหม่ที่เกิดขึ้นราว 4 วันในรอบปี แต่จะสร้างปัญหาน้ำแล้งถึง 8 เดือนในรอบปี ซึ่งกรมชลประทานกำหนดจะประชุมประชาชนครั้งใหญ่ เพื่อสรุปทิศทางของโครงการนี้ในกลางเดือนกรกฎาคมนี้อีกครั้ง

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีความเห็นว่า คำสั่งของโครงการนี้เป็นการละเมิดสิทธิประชาชนและเสนอให้ ครม.ยกเลิกโครงการนี้ว่า กรรมการสิทธิฯ มักมีความเห็นเฉพาะการพิทักษ์สิทธิ แต่ไม่มองถึงการพัฒนาว่าจะต้องมีควบคู่กันไป และต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้ได้ประโยชน์จากการคุ้มครองและผู้ที่จะเสียประโยชน์ด้วย


ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรง" ฉบับที่ 4 ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ส่งผลให้ทุกภาคของประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะ จ.ตาก กาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 2-3 วันนี้ไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง และ ตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม.ต่อ ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง 60% มีในตกหนักใน จ.มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และ สุรินทร์

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป 70% ฝนตกหนักใน จ.อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และ ราชบุรี ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง 70% มีฝนตกหนักถึงหนักมาก จ.ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และ ตราด ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป 70% มีฝนตกหนัก จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง 70% มีฝนตกหนัก จ.ระนอง พังงา และ ภูเก็ต ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง


ฝายน้ำล้นกั้นแม่น้ำปิงพังขาดกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้ามืดวันที่ 7 กรกฎาคม เกิดเหตุฝายน้ำล้นกั้นแม่น้ำปิง โครงการชลประทานท่อทองแดง ตั้งอยู่หมู่ 1 ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ถูกน้ำในแม่น้ำปิงไหลเซาะด้านล่างทำให้หินยุบตัว พังขาดกลางเป็นระยะทางยาวกว่า 20 เมตร ทำให้น้ำเหนือฝายไหลลงใต้อย่างเชี่ยวกราก ทั้งนี้ ฝายดังกล่าวเป็นฝายหินทิ้ง กั้นขวางแม่น้ำปิงยกระดับน้ำเหนือฝายสูงกว่าใต้ฝายประมาณ 4 เมตรเศษ ส่งผลให้ปลาในกระชังที่เกษตรกรเลี้ยงอยู่ทั้งเหนือฝายและใต้ฝายได้รับผลกระทบทันทีจากกระแสน้ำที่ขุ่นแดงและระดับลงปลาในกระชังขาดออกซิเจน ปลาเกิดอาการน็อคตายเป็นจำนวนมาก ต้องนำมาขายในราคาถูก 3 กิโลกรัม 100 บาท เกษตรกรขาดทุนไปตามๆ กัน

นายเรืองศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนครชุม ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาทับทิมในกระชังในแม่น้ำปิงจำนวน 120 กระชัง และอยู่ใกล้กับฝายดังกล่าว เปิดเผยว่า ขาดทุนทันทีประมาณ 2 ล้านบาท เพราะปลาที่เลี้ยงได้ประมาณเกือบ 4 เดือน ใกล้จะจับได้ก็มาตายทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีกระชังของเกษตรกรรายอื่นๆ อีกหลายรายก็ได้รับความเสียหายเป็นล้านเช่นกัน เช่นเดียวกับ นางวันยิหวา ชูด้วง และนายนิคม ภูสืบพงษ์ ซึ่งเลี้ยงปลาทับทิมใกล้กันที่หมู่ 2 ต.หนองปลิง ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน ต้องรีบตักปลาในกระชังออกเร่ขายในราคา 3 กิโลกรัม 100 บาท รวมค่าเสียหายหลายล้านบาท โดยมีบางคนตั้งข้อสังเกตว่า เป็นอาถรรพณ์เลข 7 กล่าวคือ เป็นวันที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 ทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่วเมืองกำแพงเพชร


ส่วนนางชิดชนก นิคม พนักงานการเงินและบัญชี 7 ทำการแทนผู้จัดการประปากำแพงเพชร กล่าวว่า ฝายน้ำล้นท่อทองแดงที่พังส่งผลให้ระดับน้ำในบริเวณโรงสูบน้ำแรงต่ำลดลง จึงไม่สามารถสูบน้ำจ่ายให้ผู้ใช้น้ำประปาได้ตามปกติ น้ำประปาบางแห่งไหลอ่อน ซึ่งสำนักงานกำลังเร่งซ่อมแซมแก้ไขเพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้โดยเร็ว

นายอนันต์ โฆษิตพิพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงที่ 2 โครงการชลประทานท่อทองแดง กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาทำนายว่า ปีนี้ฝนจะตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำมาก ดังนั้นชลประทานท่อทองแดงจึงซ่อมแซมฝายก่อนช่วงหน้าฝนเป็นระยะเวลา 2 เดือนแล้ว โดยการนำหินขนาดใหญ่มาทิ้งทำเป็นตัวฝาย และขณะนี้เหลือเพียงไม่กี่สิบเมตรก็จะแล้วเสร็จ แต่มาเกิดฝายพังเสียก่อน คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 2 เดือน ดังนั้น จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังเกษตรกรที่ต้องใช้น้ำในการเพาะปลูกพืชทุกชนิด รวมไปถึงการทำประมงเลี้ยงปลาในกระชัง ขอให้ระงับไปก่อน เพราะน้ำอาจขาดแคลน เนื่องจากน้ำในแม่น้ำปิงไม่สามารถไหลเข้าคลองส่งน้ำท่อทองแดงได้ เกษตรกรใช้น้ำในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร พิจิตร และสุโขทัยบางส่วน รวมเนื้อที่ 3 แสนไร่ ขอให้ใช้น้ำอย่างประหยัด


ขณะที่ จ.กาญจนบุรี มีฝนตกหนัก นายไชโย ฤทธิรงค์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จ.กาญจนบุรี เกิดฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และตกหนักในพื้นที่ อ.สังขละบุรี มีปริมาณถึง 64 มิลลิเมตร แต่ยังไม่ได้รับรายงานมีน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพืชผลทางการเกษตรเสียหายแต่อย่างใด จังหวัดได้สั่งการไปยังทุกอำเภอให้เตรียมพร้อมรับมือ และให้ติดตามสถานการณ์และพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยจากโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะ อ.บ่อพลอย อ.ห้วยกระเจา อ.เลาขวัญ และให้ทุกอำเภอรายงานสถานการณ์ให้จังหวัดทราบตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือจากเครือข่ายมือถือทั้ง 3 เครือข่าย คือ ดีแทค เอไอเอส และทรู เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งจะเปิดส่งข้อมูลเร็วๆ นี้ เพื่อให้ชาวเชียงใหม่ได้รับทราบข้อมูลในทันทีอีกด้วย ซึ่งการเตือนภัยจะแบ่งเป็น 2 อย่าง คือ การเตือนภัยทั่วประเทศ และการเตือนภัยแบบแยกพื้นที่ จะเป็นการส่งเอสเอ็มเอสไม่เกิน 200 คำ คาดการณ์ว่าจะสามารถให้บริการอย่างเป็นทางการได้ปลายเดือนกรกฎาคมนี้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์