เชิญแชมป์แฟนพันธุ์แท้คลี่บึ้มหน้า ทบ.

ล่าชายต้องสงสัยกางเกงลายพรางโผล่ใน ‘ตู้ฮัลโหล’

“อัศวิน”
นำทีมลุย คลี่ปมบึ้มหน้ากองทัพบก ระดมทีมสืบสวนมือดี ทำงานแบบลูกทุ่ง “ลงแขก”เกี่ยวข้าว แกะรอยไล่ล่าชายต้องสงสัย สวมเสื้อฟ้ากางเกงลายพราง โผล่ในตู้โทรศัพท์ก่อนระเบิด  เผยคนร้ายต้องทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้บ้าง
 
เตรียมเชิญแชมป์จากรายการแฟนพันธุ์แท้ มาช่วยไขภาพปริศนาอีกครั้ง

 "ผบ.ตร." มั่นใจฝีมือ ผบช.น. คนใหม่ คาดอาจโยงใยเหตุการณ์ระเบิดเขย่าขวัญเมืองกรุง 5 ครั้ง หลังพบเป็นระเบิดชนิด "แรงดันต่ำ" แบบเดียวกับบึ้มหน้าห้างเมเจอร์-ถนน  ราชวิถี แต่ยังไม่ขอฟันธงปมสาเหตุจากเรื่องใดแน่ "บิ๊กบัง" ขอเดาพอจะรู้เป็นฝีมือของใคร ขณะที่นายกฯ สงสัยหวังผลการเมือง โฆษกฯ พลัง  ประชาชน ได้โอกาสเหน็บสงสัยเล่นงานกันเอง กะโค่นรัฐบาลขิงแก่คงไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง ด้าน "นายดาบ" มือกู้ระเบิด ยังนอนห้องไอซียู รพ.วชิระ ทีมแพทย์ผ่าตัดตกแต่งบาดแผลข้อมือขวาขาดเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีสะเก็ดระเบิดฝัง ในปอด

จากเหตุการณ์มือมืดวางระเบิดถล่มตู้โทรศัพท์ ด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร เมื่อช่วงเวลา 20.50 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา

โดยช่วงเกิดเหตุ ด.ต.จีรเดช อัตตพงษ์ และ ส.ต.ท.พิทยาธร สุนทรชื่น หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปตรวจสอบปรากฏว่า ระเบิดได้ทำงานขึ้นพอดีทำให้ ด.ต.จีรเดช ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นข้อมือขวาขาดต้องรีบช่วยเหลือนำส่ง รพ. วชิระ ส่วน ส.ต.ท.พิทยา บาดเจ็บเล็กน้อยนำส่งรพ.หัวเฉียว เบื้องต้นพบว่าระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นแบบแสวงเครื่องแรงดันต่ำ บรรจุดินปืนเอาไว้ในถังน้ำมันขนาด 5 ลิตร แล้วจุดชนวนด้วยความร้อน ลักษณะใกล้เคียงกับเหตุระเบิดที่ตู้โทรศัพท์เมเจอร์รัชโยธิน

ทั้งนี้มีการวิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา

บ้างก็ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนเมือง รวมทั้งยังวิจารณ์ว่าเป็นเหตุ "ระเบิดการเมือง" เนื่องจากตรงกับวันสุดท้ายของการอำลาชีวิตราชการ ของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. พอดี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


พบนิ้วกระเด็นตกหลังคา

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 1 ต.ค. พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก. หน.ศส.บช.น. พ.ต.อ.ศรัญญู ชำนาญราช ผกก. สน.นางเลิ้ง พ.ต.ทนพคุณ ประทุมเพ็ชร พงส. (สบ 3) สน.นางเลิ้ง และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้เดินทางเข้ามาตรวจที่เกิดเหตุระเบิดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากก่อนหน้านี้ช่วงเช้าตำรวจสายตรวจ สน.นางเลิ้ง ที่มาประจำจุดเกิดเหตุได้พบชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์คาดว่าจะเป็นเศษนิ้วของ ด.ต.จีรเดช กระเด็นอยู่บนหลังคาจอดรถของรร.กรมแผนที่ทหาร ซึ่งอยู่ติดกับรั้วของกองบัญชาการทหารบก หลังพบหลักฐานดังกล่าวจึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงทันทีพร้อมกับรีบนำชิ้นส่วนไปส่งให้แพทย์ รพ.วชิระ ตรวจสอบว่าจะสามารถนำไปต่อให้ได้เหมือนเดิมหรือไม่


ระเบิดแรงดันต่ำเหมือนปีใหม่

เบื้องต้นทาง พล.ต.ต.กฤษฎา ได้สั่งการให้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เดินเรียงหน้ากระดานเข้าไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเก็บหลักฐานที่ตกอยู่บนพื้น ส่วนใหญ่ยังพบเศษชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ วงจรไฟฟ้า กล่องกระดาษ กระดาษกาวเปื้อนคราบเขม่าดินปืน ฯลฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำหลักฐานมาให้ผู้บังคับบัญชาดูพร้อมอธิบายถึงชนิดและการทำงานของระเบิด ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางกลับไปยัง บช.น. เพื่อประชุมหารือแนวทางการติดตามคนร้าย สำหรับวัตถุระเบิดที่พบนั้นเป็นระเบิดแบบเดียวกับระเบิด 9 จุด ที่เกิดขึ้นในช่วงคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และที่ห้างเมเจอร์รัชโยธิน โดยคนที่ประดิษฐ์ระเบิดนั้นมีความชำนาญในระดับหนึ่งแต่ไม่ถึง  ขั้นผู้เชี่ยวชาญ จากหลักฐานที่พบทำให้รู้ว่าระเบิด  ดังกล่าวเป็นระเบิดแรงดันต่ำมีเพียงดินปืน รัศมีการทำลายไม่กว้างแรงระเบิดจะเสียงดังคล้ายกับประทัดยักษ์


แม่ทัพน้อยที่ 1 เยี่ยมคนเจ็บ

ที่โรงพยาบาลวชิระ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ห้องไอซียู ชั้น 4 เตียงที่ 7 ช่วงสายวันเดียวกัน พล.ท.ดุลกฤต รักษ์เผ่า แม่ทัพน้อยที่ 1 เดินทางมาเป็นตัวแทนของ พล.ท.ประยุทธ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อเยี่ยมอาการ ด.ต.จีรเดช ที่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ มีเครื่อง ช่วยหายใจ เข้าเฝือกที่แขนข้างขวา โดยมอบช่อดอกไม้และเงินจำนวนหนึ่งให้กับนางบานเย็น อัตตพงษ์ อายุ 59 ปี มารดา ด.ต.จีรเดช ที่เฝ้าดูอาการบุตรชายอย่างใกล้ชิด หลังจากเข้าเยี่ยมแล้วออกมาพูดคุยสอบถามอาการของผู้บาดเจ็บจาก ศ.(พิเศษ) มานิต ศรีประโมทย์ ผอ.วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล


"ด.ต.จีรเดช" ยังอยู่ไอซียู

ศ.(พิเศษ)มานิต เปิดเผยว่า ตอนนี้คนไข้ซึ่งข้อมือขวาขาด ทางหมอได้นำเข้าห้องผ่าตัดเพื่อตัดตกแต่งแผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนแรงดันของระเบิดยังทำให้แรงดันช่องปอดส่วนบนด้านซ้ายได้รับแรงกระแทกจนบอบช้ำและมีเลือดคั่งอยู่ในปอดประมาณ 100 ซีซี และมีสะเก็ดระเบิดบางส่วนเข้าไปฝังทำให้เซลล์ปอดบางส่วน ตาย แต่ทางแพทย์ได้ผ่าตัดนำเศษสะเก็ดระเบิดออกแล้ว ซึ่งช่วงนี้ต้องระวังไม่ให้ปอดติดเชื้อและปอดบวม หลังจากออกจากโรงพยาบาลต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอด ส่วนบาดแผลที่แขนในวันที่ 2 ต.ค. จะนำเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้งเพื่อตัดตกแต่งบาดแผลใหม่ ถ้าหากแผลแห้งสนิทแล้วจะใส่ข้อมือเทียมแบบออสเมติก เพื่อให้สวยงามแต่การทำงานให้เหมือนบุคคลธรรมดาคงไม่ได้


มีผลงานเก็บกู้นับไม่ถ้วน

ทางด้านนางบานเย็น กล่าวว่า เมื่อวานตนทราบข่าวรีบเดินทางมาดูอาการทันที และเฝ้ารอจนกระทั่งผ่าตัดเสร็จเวลา 04.00 น. ซึ่งทางลูกชายยังไม่รู้สึกตัว กระทั่งประมาณตี 5 ลูกชายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแต่ก็ยังไม่ได้พูดคุยกันเนื่องจากฤทธิ์ยาจึงยังคงทำให้ลูกชายเบลอ ๆ อยู่ ต่อมาเมื่อลูกชายรู้สึกตัวก็พยายามจะพูดคุยแต่ไม่สามารถพูดคุยได้ เนื่องจากมีสายออกซิเจนอยู่ ในปากจึงขอปากกาและกระดาษเขียนสื่อสารกัน โดยลูกชายเขียนข้อความใส่กระดาษว่าผมขอโทษไม่อยากพลาดฝากดู "นมเย็น" ด้วย (สำหรับชื่อนมเย็นเป็นแฟนสาว ด.ต.จีรเดช)

ที่ผ่านมาลูกชายทำงานเก็บกู้วัตถุระเบิดมาเป็นร้อย ๆ ครั้ง

โดยผลงงานที่ผ่านมาก็มีการเก็บกู้ระเบิดคาร์บอมบ์บ้านอดีตนายกฯ ทักษิณ และคาร์บอมบ์ห้างโลตัส จ.นครปฐม โดยไม่เคยพลาดและไม่เคยได้รับบาดเจ็บ แต่ทางบ้านไม่พอใจอยากให้ย้ายไปอยู่หน่วยอื่นเนื่องจากกลัวบุตรชายทำงานพลาด ซึ่งในวันที่ 12 ต.ค.นี้ นัดกันไว้ว่าจะพาลูกชายไปทำบุญครบรอบวันเกิดอายุ 35 ปี พอดีแต่ก็มาเกิดเหตุนี้เสียก่อน อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ภูมิใจในตัวลูกชายมากที่ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว

"น.1" ระดมทีมสืบสวนมือดี

 ส่วนที่ บช.น. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ที่เพิ่งมารับตำแหน่งวันแรก ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนศูนย์สืบสวนนครบาล ชุดสืบสวนนครบาล 1 ทีมสืบสวน สน.นางเลิ้ง ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด วางแนวทางการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี จะนำสถานการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อค่ำที่ผ่านมาเปรียบเทียบกับเหตุระเบิดแต่ละครั้งใน กทม. ที่ผ่านมารวมแล้ว 5 ครั้งนับตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันหรือไม่ ขอเวลาในการตรวจสอบในรายละเอียดอย่างชัดเจนก่อน เชื่อว่าในช่วงเย็นวันนี้คงมีความคืบหน้ามากขึ้น


ดูกล้องวงจรปิดล่าคนร้าย

สำหรับสาเหตุของระเบิดมีการตั้งประ เด็นไว้ในหลายเรื่อง แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ในขณะนี้ต้องสอบสวนในทุกเรื่องทุกประเด็นที่ตั้งไว้ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ สร้างสถานการณ์ทางการเมือง คงต้องรอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก่อนซึ่งตำรวจนครบาลได้เชิญมาร่วมหารือจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งอาจารย์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังมีความรู้ด้านสารเคมีวิทยาศาสตร์ อีกทั้งจะประสานงานด้านการสืบสวนสอบสวนกับกองปราบปรามด้วย และผู้ว่าฯ กทม. ร่วมกันตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวบริเวณจุดเกิดเหตุที่มี ไล่ตั้งแต่หน้า บก.ทบ. สี่แยก จปร. ไปจนถึงหน้าสนามมวยราชดำเนิน ว่ามีกล้องตัวใดสามารถจับภาพคนร้ายเอาไว้   ได้บ้าง


ไม่ทำงาน "วันแมนโชว์"

 ผบช.น. คนใหม่ กล่าวต่อว่า การทำงานในหน่วยงานของผมจะไม่มีใครเป็นพระเอกหรือเป็นผู้ร้าย พวก "วันแมนโชว์" จะต้องไม่มี งานของผมเอาแบบระบบบ้านนอกตามชาวไร่ชาวนาที่เกี่ยวข้าวทุกคนจะต้องช่วยกันทำงานใช้วิธีการ "ลงแขก" แบบลูกทุ่ง ๆ ถ้าจะพายเรือต้องช่วย กันพายไม่มีจ้ำคนเดียวเดี๋ยวไปซ้ายเดี๋ยวไปขวา  พระเอกคนเดียวไม่มี ไม่มีกั๊กข้อมูล ไม่มีการเป็นอาบังเอาผ้ามาโพกหัวแอบบังข้อมูลกันอย่างนี้ ไม่มี ไม่มีใครเอาผลงานเป็นของตัวเอง ตนไม่ชอบทำอะไรต้องร่วมมือกันจะได้เสร็จเร็ว ๆ คนนี้จัดคนนี้สานทุกคนต้องช่วยกัน ไม่เช่นนั้นจะไม่มีความสามัคคีในหน่วยงาน
 
ล่าสุดได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบก.ตปพ. นำเงิน 2.7 แสนบาท พร้อมกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจมอบให้กับ ด.ต. จีรเดช ซึ่งบาดเจ็บข้อมือข้างขวาขาดต้องถูก   ตัดมือ พักรักษาตัวที่ รพ.วชิระ และ ส.ต.ท. พิทยาธร เป็นเงิน 2.2 แสนบาท ขณะพักรักษาตัวที่ รพ.หัวเฉียว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจหลังจากประสบเหตุได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่


"เสรี" มั่นใจในฝีมือผบช.น.

 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์หลังจากทำพิธีรับตำแหน่งใหม่เสร็จแล้วว่า ขณะนี้เพิ่งเริ่มต้นเนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิด และเพิ่งปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ผบช.น. ทราบว่า พล.ต.ท.  อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก.ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล  ข้อเท็จจริงกับ พล.ต.ท.อัศวิน ผบช.น.คนใหม่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแนวทางในการสืบสวนจับกุมคนร้ายกันแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า คิดว่า ผบช.น. คนใหม่ มีความรู้ความสามารถในการสืบสวนสอบสวน และมีเครือข่ายพอสมควร เชื่อว่าจะใช้ความรู้ความสามารถในการคลี่คลายคดีนี้ได้ ซึ่งถือเป็นคดีแรกในการรับตำแหน่ง ผบช.น. อย่างไรก็ตาม ก็จะติดตาม และกำชับต่อไปจะไม่กำหนดเวลา ให้ทำงานให้เต็มที่ ไม่ควรเอากรอบเวลาไปจำกัด จนผู้ใต้บังคับบัญชาไม่สามารถทำงานได้


ยังไม่ฟันธงปมเหตุใดแน่

 เมื่อถามถึงสาเหตุของเหตุลอบวางระเบิดครั้งนี้ ผบ.ตร. ตอบว่า เหตุเพิ่งเกิดตอนนี้ยังเป็นเพียงการคาดคะเนเฉย ๆ จึงยังไม่อยากวางธง ลงไปว่าสาเหตุคืออะไรกันแน่ ส่วนจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น เราพบว่าวิธีการวางระเบิดและอุปกรณ์คล้ายกันแต่ยังไม่ระบุว่าเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกัน ต้องรอพยานหลักฐานก่อน ซึ่ง ผบช.น. คนใหม่คงจะเร่งดำเนินการ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีรายงานข่าวแจ้งว่าจะมีการวางระเบิดแต่อย่างใดเพราะหลายเดือนก่อนหน้านี้ หลังเกิดระเบิดครั้งก่อนก็สงบมา โดยตลอดและเราวางกำลังตำรวจเข้มงวดกวดขันเรื่องเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ แต่พอเวลาผ่านไปก็มีช่องว่างบ้างจึงต้องขอเตือนพี่น้องตำรวจว่าอย่าประ มาท งานที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายไว้ถึงแม้ไม่มีอะไร อย่าไปทิ้งพื้นที่ให้ดูแล ทำหน้าที่เต็มที่ อย่าปล่อยให้เกิดช่องว่าง


เชื่อไม่ได้ระเบิดเย้ยใคร

 ผู้สื่อข่าวถามว่าการวางระเบิดหนนี้เป็น การเย้ยเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เนื่องจากเหตุเกิดในพื้นที่ทหาร ในภาวะที่บ้านเมืองสงบมาระยะหนึ่ง ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ได้เย้ยใคร เพราะเหตุอย่างนี้จะทำอย่างไรก็ได้ ถ้าเย้ยต้องเข้าไปวางข้างในเลย  ถึงแม้จะเข้าไปวางในรั้วตนก็ยังไม่ถือว่าเย้ย เมื่อถามว่าเป็นการข่มขวัญประชาชนหรือไม่เนื่องจากเหตุเกิดก่อนวันรับตำแหน่งใหม่ทั้งของ ผบ.ทบ. และผบ.ตร. ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ในฐานะตนที่ผ่านเหตุการณ์มามากบ้านเมืองไทยสงบมานาน พอมีเหตุระเบิดสักครั้งก็รู้สึกเป็นเหตุร้ายเหตุสำคัญ แต่ในต่างประเทศเหตุเช่นนี้เกิดประจำจนเป็นความเคยชินเพราะฉะนั้นเหตุต่าง ๆ เหล่านี้มันเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติประชาชนอย่าได้ตระหนกตกใจ ขอให้มั่นใจตำรวจจะพยายามดูแลให้ดีที่สุด


ตร.ประชุมหารือเครียด

 ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ท. อัศวิน ผบช.น. ได้เรียกประชุมประเมินสถานการณ์ร่วมกับทีมสืบสวนนครบาลและผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด โดยใช้เวลาหารือกว่า 3 ชม. ท่ามกลางบรรยากาศที่เคร่งเครียดและให้สัม ภาษณ์ว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดชนิดแรงดันต่ำจุดชนวนด้วยแบตเตอรี่จากถ่านไฟฉาย รัศมีทำลายล้างไม่เกิน 2 เมตร ไม่ทำลายสิ่งสกัดกั้นและไม่ประสงค์ต่อการทำลายชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำรายละเอียดต่าง ๆ ที่ตรวจสอบได้ไปเปรียบเทียบเทียบกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เพราะมีลักษณะคล้ายกับเหตุระเบิดบริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะปากซอยราชวิถี 24 และตู้โทรศัพท์สาธารณะริมถนนพหลโยธินหน้าห้างเมเจอร์รัชโยธิน


เชื่อคนร้ายทิ้งร่องรอยไว้

 ส่วนการสืบสวนคลี่คลายคดีนั้น ผบช.น. กล่าวว่า มอบหมายให้ พล.ต.ต.กฤษฎา รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าทีมสืบสวน โดยมี พ.ต.อ. ปรีชา ธิมามนตรี หัวหน้าศูนย์สืบสวนนครบาล จัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกสืบสวนหา ข่าวรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดพร้อมตรวจสอบภาพวงจรปิดจากกล้องวงจรปิดในทุกจุดรอบบริเวณว่า พบเห็นบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นคนร้ายหรือไม่ แต่ยังไม่มีความชัดเจนเพราะกล้องบางตัวที่ติดตั้งไว้เป็นเพียงปรากฏภาพแต่ไม่ได้มีการบันทึกไว้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่อีกทั้งยังเชื่อว่าไม่มี อาชญากรคนไหนที่ทำผิดแล้วไม่ทิ้งร่องรอยไว้จึงต้องค้นหาในจุดนี้ให้ได้


ล่าชายเสื้อฟ้ากางเกงพราง

 ผบช.น. กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนพยานที่พบเห็นชายต้องสงสัย สวมเสื้อสีฟ้า กางเกงลายพราง ยืนในตู้โทรศัพท์ก่อนจะเกิดเหตุนั้น ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานที่พบเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้แล้ว ส่วน จะใช่คนร้ายหรือไม่ยังยืนยันไม่ได้ต้องสอบสวนให้ครบถ้วนก่อน และอาจจะเชิญผู้เชี่ยวชาญในวงการต่าง ๆ มาร่วมช่วยเหลือด้วย เหมือนสมัยตอนที่ตนอยู่ บช.ภ.2 ก็เคยเชิญแชมป์จากรายการแฟนพันธุ์แท้มาช่วยดูภาพ จยย. คลี่คลายคดียิงนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างไรก็ดี ตอนนี้คงต้องให้ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ โดยนัดหมายประชุมสรุปความคืบหน้าในรายละเอียดอีกครั้งเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ต.ค.


กทม.ให้ภาพกล้องวงจรปิด
 
 ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังการประชุมผู้อำนวยการเขต ผู้บริหาร และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กทม. (กอ.รมน.กทม.) หลังจากเกิดเหตุระเบิดว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ประสานแผนปฏิบัติการกับตำรวจ บช.น. ทหารจากกองทัพภาคที่ 1 รวมทั้ง ผอ.เขตทั้ง 50 เขต ให้เข้าดูแลและหาข่าวเพิ่มเติมจากพื้นที่ และส่งทีมเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าร่วมทำงาน ตรวจตราในจุดต่าง ๆ และบริเวณด่านที่จะเข้ามาในกรุงเทพฯ เน้นในจุดที่มีประชาชนหนาแน่น สถานที่ราชการ ส่วนความคืบหน้ากรณีระเบิดนั้น กทม. มีกล้องวงจรปิดในจุดที่เกิดเหตุและมอบให้ตำรวจนำไปตรวจสอบแล้วต้องรอการพิสูจน์หลักฐาน พร้อมขอบคุณประชาชนที่ช่วยแจ้งเบาะแสและขอความร่วมมือประชาชนที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เมื่อพบเห็นสิ่งที่ไม่น่าไว้วางใจ


"บิ๊กบัง" ขอเดาพอรู้ใครเจ้าของ

 ขณะเดียวกัน พล.อ.สนธิ อดีตผบ.ทบ. และประธานคมช.ให้สัมภาษณ์ในรายการสยามเช้านี้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนวิเคราะห์ไว้ 2-3 ทางคือ 1.อาจจะทดลองกำลังอะไรสักอย่าง 2.บอกให้รู้ว่าฉันยังมีอยู่นะ และ 3.มองว่าใครปฏิบัติ เราพอจะอ่านออกว่าการปฏิบัติครั้งนี้ใครเป็นเจ้าของ สามารถเดาได้ ส่วนจะโยงไปถึงกลุ่มเดียวกับที่ทำในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่หรือไม่นั้น จากการรายงานเมื่อคืนการทำส่วนประกอบทั้งหมดคล้าย ๆ กับที่เกิดขึ้นที่ถนนราชวิถี
 
เมื่อถามว่าเราพอจะรู้หรือไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดใครเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง พล.อ. สนธิ กล่าวว่า

ไม่แน่เหมือนกัน หากวันหนึ่งข้างหน้าใครจะไปรู้ว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอาจจะมาเล่าให้ฟังอาจจะเกิดขึ้นได้เป็นประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่ง ซึ่งอาจจะย้อนไปอีกนานอาจจะรู้ว่าใครทำ ผู้สื่อข่าวถามว่าท่านพูดเหมือนว่าฝ่ายทหารรู้ว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง พล.อ.สนธิ ตอบว่า เราต้องวิเคราะห์แต่ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นหรือคนนี้ต้องทำ แต่วิเคราะห์เพื่อสืบหาต่อไป ตนว่า คนที่รู้ดีที่สุดคือตำรวจที่มีข้อมูลมากกว่าใคร อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ก็มีเป้าหมายของเราไว้ ส่วนที่มองว่าจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับการที่ตนลงจากตำแหน่งแล้ว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ขึ้นมาแทนนั้นอาจจะเกี่ยวกันก็ได้ แต่เราคิดว่าเป็นปกติของผู้ที่ไม่ได้เสียผลประโยชน์แต่อยากทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้เห็นว่ายังมีความสามารถอยู่


วอนทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

 ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าเป็นกลุ่มเดียวกับผู้ที่ก่อเหตุก่อนหน้านี้หรือไม่ ประธานคมช. ตอบว่า เราวิเคราะห์กันอย่างนั้นแต่อย่าเพิ่งปักใจเพราะผลพิสูจน์ยังไม่ออก เมื่อถามว่าทาง พล.อ. อนุพงษ์ ผบ.ทบ. ใหม่ก็ต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ก็ต้องช่วย ๆ กันทั้งนั้น ต่อข้อถามว่าเป็นเพราะเราหละหลวมต่อการป้องกันจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่น่าใช่ ปกติการใช้กำลังปกติมีทั้งในและนอกเครื่องแบบอยู่แล้ว แต่พื้นที่หรือจุดก่อเหตุอาจจะเปลี่ยนเพื่อที่ผู้ที่ลงมือทำได้สะดวก เช่น พื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เราก็เตรียมไว้ค่อนข้างมาก
 
"ผมไม่อยากให้เอาเรื่องที่เกี่ยวกับรัฐบาล หรือตำแหน่ง รมว.มหาดไทยมาคิดว่าเกี่ยวข้อง กัน เพราะประเทศที่เป็นมหาอำนาจยังเกิดขึ้นใหญ่โตมากกว่าเราทำไมเขายังคุมไม่ได้ นี่เราเป็นประเทศเล็ก ๆ ประเทศหนึ่งมีปัญหาเยอะ   แยะที่ต้องแก้ อย่างไรก็ตามได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีอะไรถือว่าในกรอบการทำงานของกองทัพเป็นจุดที่เราต้องหาหนทางในการทำให้เกิดน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย" พล.อ.สนธิ กล่าว

นายกฯ ชี้หวังผลการเมือง

 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังจากได้ร่วม หารือกับหน่วยงานความมั่นคงเสร็จแล้วว่า เป็นเรื่องฝ่ายความมั่นคงจะต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่เท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้นเหมือนกับต้องการที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง ส่วนจะเป็นกลุ่มขั้วอำนาจเก่าหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้เพราะเราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อได้รู้ตัวผู้กระทำผิดมาตรวจสอบก่อน


"กุเทพ" เหน็บเล่นงานกันเอง
 
 ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงเหตุลอบวางระเบิดว่า น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเพราะสถานการณ์คล้ายคลึงกับที่คนกลุ่มหนึ่งเคยใช้สร้างความปั่นป่วนให้กับรัฐบาลชุดที่แล้วและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ ครั้งนี้ก็คงย่ามใจเชื่อว่าเหตุลอบวางระเบิดครั้งนี้เป็นฝีมือของคนกลุ่มเดียวกันที่เคยคิดว่าตนเองจะได้ประโยชน์จากการยึดอำนาจ แต่กลับต้องผิดหวังและสูญเสียประโยชน์จึงต้องการกดดันเพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้ง ในส่วนของพรรคพลังประชาชนขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจัดการกับคนเหล่านี้เสียทีอย่าปล่อยให้ย่ามใจมากไปกว่านี้ 
 
"ผมมองว่าเป็นหมากแรกที่เขาต้องการสร้างสถานการณ์วุ่นวายเพื่อนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาล ซึ่งอาจนำไปสู่การยึดอำนาจอีกครั้งเพราะคนกลุ่มนี้เริ่มรู้ว่าตัวเองจะเสียประโยชน์มาก    ขึ้น หากปล่อยให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นตามกำหนด หากประมวลเหตุการณ์จะเห็นว่าหลายเรื่อง สอดคล้องกันไปหมด ก็ขอให้รัฐบาลจัดการให้เด็ดขาดเสียที ปล่อยไว้จะยิ่งอหังการ เราเองก็รำคาญเต็มทีแล้ว" โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าว


"สพรั่ง" ระบุฝ่ายตรงข้ามโผล่

 ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม ได้มีประชาชนราว 20 คน ในชื่อกลุ่ม "ชมรมประชาชนคนรักสพรั่ง" เดินทางมามอบดอกไม้ให้พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร    หลังเดินทางเข้ารับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหมวันแรก จากนั้นยังได้ร่วมกันร้องเพลงให้กำลังใจ พล.อ.สพรั่ง กล่าวช่วงหนึ่งว่า ขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามออกมาแล้วคงจะดำเนินการต่อสู้กันต่อไป ตนอยู่จุดนี้เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายต้องไม่อยู่ในโลกความฝันและทำหน้าที่พลเมืองดีเพราะอยู่จุดนี้ต้องทำอะไรสมฐานะ แต่ไม่ใช่หน้าที่ของ "นักรบ" ที่จะเข้าไปต่อสู้ เวลาบ้านเมืองวิกฤติขอให้ไปหาน้อง ๆ ที่จะรบเพื่อชาติหาให้เจอแล้วเราจะชนะ


อย่าโยนเผือกร้อนมาให้ 

 ส่วนกรณีการวางระเบิดที่เกิดขึ้น พล.อ. สพรั่ง กล่าวว่า ทุกคนต้องเห็นแก่บ้านเมืองเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเดี๋ยวจะโยงมาถึงตนไม่ดี ตนอยากจะเป็นคนที่บริสุทธิ์ใครจะมาใส่ร้ายป้ายสีไม่ได้ ใครที่คิดร้ายกับตนเขาควรจะได้รับสิ่งที่เขากระทำไว้ ตนไม่เคยคิดอะไรที่เป็นภัยกับบ้านเมือง ไม่เคยคิดอะไรที่ตักตวงหาผลประโยชน์ ในตอนที่ยังนั่งตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทบ.ก็ถูกใส่ร้ายป้ายสีมาตลอด ตนอโหสิให้สำหรับคนที่ใส่ร้ายป้ายสีเพราะถ้าเราเป็นผ้าขาวไม่ต้องหวั่นไหวและให้อภัย ทำหน้าที่ปัจจุบันให้ดีที่สุด


ผบ.ทบ.เชื่อโยงการเมืองสูง
 
 ล่าสุดช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ.พร้อมด้วยพล.อ.จิรเดช คชรัตน์ ผู้ช่วยผบ.ทบ.และพล.อ.มนตรี ชมภูจันทร์ เสนาธิการทหารบกได้เดินทางไปเยี่ยมอาการด.ต.จีรเดช ที่รพ.วชิระโดยใช้เวลา 30 นาที จากนั้นพล.อ.อนุพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นเท่าที่รับรายงานยังไม่แน่ชัดว่าสาเหตุมาจากอะไรจึงยังไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่าเกิดจากอะไร เมื่อถามว่าส่วนตัวมองว่าเป็นเพียงการป่วนเมืองหรือไม่ ผบ.ทบ.กล่าวว่า ที่แน่ๆเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นภายในสังคมส่วนสาเหตุอะไรยังกำหนดไม่ได้ แต่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองสูงและไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มอำนาจเก่าหรือไม่


สั่งกองทัพภาค1เสริมกำลัง

 ผบ.ทบ. กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันสอดส่อง อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ทหารได้เพิ่มการดูแลให้มากขึ้นกว่าเดิมเพิ่มระดับให้สูงขึ้น ขณะนี้ให้กองทัพภาคที่ 1 เพิ่มเจ้าหน้าที่ทุกมิติตามจุดตรวจที่ปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจจะดูมากขึ้น ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่าที่ผ่านมาเราลดระดับการดูแลพื้นที่ลงไปเพราะไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ถ้าเราไม่ดูแลก็จะเกิดผลกระทบได้เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ไปดูแลก็จะเกิดผลกระทบกับประชาชนในเรื่องความสะดวกบ้างหรืออาจจะดูไม่เหมาะไม่ควร ที่ในเมืองหลวงมามีทหาร ตำรวจยืนอยู่ตามด่านตรวจเรื่องนี้ต้องอดทนกันเล็กน้อย
  
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกหวั่นใจหรือไม่ เพราะเข้ามารับตำแหน่งวันแรกก็เจอเหตุการณ์แบบนี้แล้ว พล.อ.อนุพงษ์ ตอบว่า

ไม่เป็นไร ตนมีหน้าที่ช่วยกันทำให้สังคมสงบ ก็ต้องทำให้เต็มที่ไม่ได้เป็นกังวล ส่วนที่มองว่าอาจจะเป็นฝีมือของคนที่ไม่พอใจกับการปรับย้ายนั้น เท่าที่ติดตามดูการปรับย้ายก็ไม่มีอะไรน่าที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์