เจ้าของยัน!หมูกระทะไม่มีเนื้อสุนัขตามข่าวลือ

เจ้าของร้านหมูกระทะงอแง ที่ประจวบคีรีขันธ์ ยืนยัน ไม่มีการใช้เนื้อสุนัขมาให้ลูกค้ารับประทาน เชื่อมีคนเสียผลประโยชน์กลั่นแกล้ง...


เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 4 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามร้านหมูกระทะชื่อดัง หลังจากมีข่าวลือว่ามีการฆ่าสุนัข

แล้วนำเนื้อมาให้ลูกค้ากินแทนเนื้อวัวและทำลูกชิ้นเด้ง เพราะมีสีใกล้เคียงกับเนื้อวัว ส่วนกระดูกสุนัขนำไปทำน้ำซุป โดยข่าวลือดังกล่าวไปไกลยังภาคอีสานและภาคใต้ มีบางส่วนโทรศัพท์มาถามถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง บางคนเห็นกับตาว่ามีกระดูกและซากหมาจรจัดอยู่เต็มหลังร้าน จนทำให้ยอดขายตกวูบแทบปิดกิจการหนี  

โดยนายบุญรอด สงแก้ว อายุ 40 ปี เจ้าของร้านหมูกระทะงอแง ตั้งอยู่บริเวณตลาดโต้รุ่งถนนพิทักษ์ชาติ ใกล้กับธนาคากสิกรไทย เปิดเผยว่า

หลังจากมีข่าวลือไปทั่วเมืองประจวบคีรีขันธ์ ว่าที่ร้านนำเนื้อสุนัขมาให้ลูกค้ากินนั้น เป็นกระแสคนพูดปากต่อปาก เหมือนไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้ยอดลูกค้าหายไปจากวันละ 300 คน เหลือแค่วันละ 50 คน เงียบลงอย่างถนัดตา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเทศกาลเข้าพรรษา บางวันมีลูกค้า 400-500 คน หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงต้องปิดกิจการ  ส่วนลูกค้าที่ยังคงมากินอยู่นั้น เป็นลูกค้าขาประจำ เท่าที่สอบถามไม่เชื่อว่าข่าวดังกล่าวเป็นความจริง อาจเป็นการใส่ร้ายของคู่แข่ง เพราะถ้าทำเช่นนี้ก็เป็นการฆ่าตัวตายทางธุรกิจ  ส่วนสาเหตุของข่าวลือไม่ทราบว่ามาจากที่ใด

"เริ่มสังเกตเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ลูกค้าเริ่มน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ซ้ำรายมีกลุ่มวัยรุ่นตะโกนใส่หน้าร้านว่า “กินเนื้อหมา” ส่งผลให้ลูกค้าที่ยังนั่งกินอยู่เกิดอาการหวาดระแวง แต่ไม่เชื่อว่าเป็นการกระทำของคู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน เพราะหากเกิดผลเสีย ผู้ประกอบการทุกคนจะได้รับผลกระทบเหมือนกัน คาดว่ามีคนไม่พอใจที่ร้านยกเลิกการซื้อวัตถุดิบ เช่น ผักบุ้ง น้ำแข็ง เครื่องดื่ม และเนื้อสัตว์ โดยปกติจะซื้อของจากหลายแหล่งผลิต หากพบว่าวัตถุดิบชนิดใดไม่มีคุณภาพก็จะเปลี่ยนร้าน จนอาจเป็นชนวนไม่พอใจ จนสร้างข่าวลวงโลกขึ้นมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้มาตรวจสอบเนื้อหมูและเนื้อสัตว์อื่นๆ ปรากฏว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แหล่งวัตถุดิบที่เป็นเนื้อสัตว์ ทางร้านซื้อเป็นแพ็คเนื่องจากได้ราคาถูก โดยซื้อในห้างค้าส่งแม็คโคร และรับจากผู้ผลิตอีก 2 รายจากกรุงเทพที่ได้มาตรฐาน โดยใช้เนื้อหมูวันละ 30 กิโลกรัม และเนื้อสัตว์ชนิดอื่นรวมกัน 50 กิโลกรัม ส่วนน้ำซุปได้ใช้ผงซุปสำเร็จรูปแทนการใช้กระดูก จึงไม่มีกระดูกหรือซี่โครงสัตว์อย่างที่ลือกัน หลังจากที่เกิดข่าวลือ มียอดขายแต่ละวันไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่วันละ 20,000 บาท ซึ่งมีลูกน้องที่ต้องกินต้องใช้ 17 คน และมีนักเรียนระดับมัธยมอายุ 17 ปี มาหารายได้พิเศษ เป็นพนักงานเสริฟอีก 4 คน มีรายได้คนละ 120 บาท อยากขอความเห็นใจจากผู้บริโภคว่า ที่ร้านหมูกระทะงอแงไม่ได้ใช้เนื้อสุนัขอย่างที่เป็นข่าว ขอให้สบายใจว่าใช้ของมีมาตรฐานมีคุณภาพ" นายบุญรอด กล่าว


ทางด้านนางประดับ แสงสำราญ อายุ 56 ปี อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านหมูกระทะงอแงว่า ทุกคืนตนจะนำอาหารมาให้สุนัขจรจัดเหล่านี้กินประจำ

โดยจะตระเวนให้ตามแหล่งที่สุนัขจรจัดอาศัย มีจำนวนกว่า 100 ตัวในตัวเมืองเทศบาล ซึ่งที่ตลาดโต้รุ่งถนนพิทักษ์ชาติ จะเป็นที่สุดท้ายที่ตนนำอาหารมาให้กิน เพราะอยู่ตรงหน้าบ้านพอดี ยืนยันว่าสุนัขบริเวณนี้ไม่ได้ถูกฆ่าตายอย่างที่เป็นข่าว และตนสงสารคนทำมาหากินบริสุทธิ์ที่ถูกใส่ร้ายจนแทบหมดตัว ขณะที่พ.ต.ท.นมัส รุ่งนาค รอง ผกก.ปป. สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า ทางตำรวจได้ไปตรวจสอบที่ร้านแล้ว ไม่พบว่าเป็นความจริงแต่อย่างใด ส่วนข่าวลือดังกล่าวสร้างความโกลาหลให้กับเจ้าหน้าที่อย่างมาก เพราะมีคนโทรศัพท์เข้ามาโรงพักวันละร้อยกว่าสาย ทั้งสอบถามและแจ้งเบาะแส 

ด้านนายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปเก็บตัวอย่างตั้งแต่เริ่มมีข่าวลือ พบที่มาที่ไปของเนื้อสัตว์มีเอกสารรับรองว่าซื้อมาจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน และสภาพภายในร้านไม่มีข้อสงสัยหรือผิดสังเกตแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดร่วมกับเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ กำลังเก็บข้อมูลและติดตามสอบถามจากประชาชน เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และความสบายของผู้บริโภคต่อไป

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์