เจอดี.! ฝรั่งลบหลู่ จตุคาม รีบขอขมา

"สมเด็จพระบรมฯ" เสด็จฯเป็นองค์ประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ "ขุนพันธ์" คลื่นมหาชนทั่วสารทิศแห่ร่วมพิธีล้นวัดพระธาตุเมืองคอน ท่ามกลางเจ้าหน้าที่กว่า 4 พันนายคุ้มเข้มความปลอดภัย

ขณะที่กรุงเทพฯ ฝรั่งต่างชาติเจอปาฏิหารย์ "จตุคาม" ไปเต็ม ๆ หลังไปพูดจาลบหลู่ ถึงกับอึ้งเมื่อเห็นภาพถ่ายผู้มาร่วมงานไหว้เจ้าตรุษจีน มีวัตถุไม่ทราบมาจากไหน ลักษณะทรงกลมคล้ายเหรียญจตุคาม โผล่ลอยเด่นอย่างน่าอัศจรรย์ รีบจุดธูปขมาทันที ผู้จัดงานยันไม่มีการตกแต่งภาพแต่อย่างใด

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 ก.พ. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ไปในการพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช อายุ 108 ปี ณ เมรุวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารฯ อ.เมือง จ.นคร ศรีธรรมราช โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พ่อค้า ประชาชน เฝ้ารับเสด็จ

ทรงวางธูปเทียนดอกไม้จันทน์ส่วนพระองค์ เสร็จแล้วเสด็จลงพลับพลาที่ประทับ โปรดฯให้ครอบครัว พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชเฝ้าฯ ก่อนเสด็จฯกลับ ระหว่างนั้นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พ่อค้า ประชาชนได้ทยอยขึ้นวาง ดอกไม้จันทน์

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการจัดเตรียมสถานที่ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ว่าคณะเจ้าภาพได้จัดพื้นที่ไว้ 3 ส่วน ประกอบด้วย บริเวณลานพิธีซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาดเนื่องจากเป็นบริเวณเขตพระราชฐานชั่วคราว ได้มีการเตรียมพร้อมในทุกด้านทั้งพลับพลาที่ประทับและบนเมรุชั่วคราว

ที่มีการเคลื่อนศพของ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช ที่บรรจุอยู่ในหีบทองสลักลายพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาตั้งอยู่บนจิตกาธานตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่จากกองพระราชพิธีสำนักพระราชวังมาดูแลความเรียบร้อยทุกขั้นตอนก่อนที่จะเข้าสู่พิธีการจริง

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตกแต่งดอกไม้สดเป็นครั้งสุดท้าย และในบริเวณลานได้มีการซักซ้อมความพร้อมเป็นครั้งสุดท้ายของกองเกียรติยศนักเรียนนายร้อยตำรวจ จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจสาม พรานนครปฐม มาตั้งกองเกียรติยศขณะทำพิธีพระราชทานเพลิง บริเวณหน้าลานศาลา 100 ปี เป็นที่ตั้งเมรุ ได้ตั้งเต็นท์สำหรับข้าราชการและแขกพิเศษ ส่วนที่ลานทรายหน้าพระบรมธาตุเจดีย์เป็นเต็นท์ประชาชนทั่วไป

ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ตำรวจตระเวนชายแดน ทหารสารวัตร และกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 4 รวมทั้งอาสาสมัครรักษาดินแดน กองปราบอาสา และเหยี่ยวแจ้งอาชญา กรรม แต่งเครื่องแบบเข้าร่วมในการดูแลความปลอดภัยกว่า 4,000 คน

รวมทั้งมีแพทย์พยาบาลมาทำหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ กระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดการจราจรในบริเวณถนนราชดำเนินซึ่งเป็นถนนหลักโดยสิ้นเชิง เนื่องจากต้องใช้พื้นที่ในการรองรับคลื่นประชาชนจำนวนมากที่ทยอยเข้าสู่บริเวณพิธีจนเต็มความจุในบริเวณวัดและยังคงมีประชาชนทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่องหลายหมื่นคน

หลังพิธีทางครอบครัว พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้แจกของที่ระลึกประกอบด้วยเหรียญชุด "ไตรภาคี ศรีนคร ขุนพันธ์ขมังเวท" และรุ่น"มือปราบสิบทิศ" แก่ผู้ที่มาร่วมงานทุกคน

นายไพศาล พืชมงคล สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) เปิดเผยเรื่องราวปฏิหาริย์ของเหรียญจตุคามรามเทพว่า ก่อนหน้าวันตรุษจีน เมื่อวันที่ 9-10 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้ว่าจ้างคณะงิ้วแห่งหนึ่งมาเล่นไหว้เจ้าที่หมู่บ้านการ์เด้นท์ซิตี้ลากูน ย่านประชาชื่น

โดยในงานมีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในแขกที่มาร่วมงานมีฝรั่งชาวต่างชาติคนหนึ่ง อ่านข่าวในหน้า นสพ.เกี่ยวกับวัตถุมงคล "จตุคามรามเทพ" พร้อมกับได้วิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ทำนองลบหลู่ ซึ่งวันแรกงานก็ผ่านไปด้วยดี

กระทั่งวันสุดท้าย ช่วงค่ำมีการแสดงงิ้ว ก่อนจะมีพิธีอันเชิญเจ้ากลับ โดยมีคนมาร่วมงานมากมายรวมทั้งชาวต่างชาติคนดังกล่าวด้วย

โดยใช้กล้องดิจิทัล ขณะที่คนถ่ายบรรจงถ่ายรูปผู้มาร่วมงานอยู่นั้น จู่ ๆ สังเกตเห็นสีหน้าตากล้อง เหมือนตะลึงกับอะไรบางอย่างจึงขอดูภาพในกล้อง ซึ่งภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าทำเอาตนถึงกับอึ้งพูดไม่ออก เมื่อเห็นวัตถุทรงกลม ไม่ทราบมาจากไหน ลักษณะคล้ายเหรียญจตุคาม โผล่ลอยเด่น อย่างน่าอัศจรรย์

บางภาพมีวัตถุทรงกลมปรากฏให้เห็นเด่นชัดถึง 2 วงด้วยกัน สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก ขณะที่ชาวต่างชาติ ที่ได้พูดจาลบหลู่ เมื่อเห็นภาพถึงกับหน้าถอดสี รีบจุดธูปไหว้ขอขมาทันที ทั้งนี้ทุกคนที่มาร่วมงานต่างก็ยืนยันว่า ภาพที่เห็นไม่มีการตกแต่งแต่อย่างใด.

จาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์