เจอกระทิงตายเพิ่มอีกตัวที่ป่ากุยบุรี เป็นตัวที่ 13 ชาวบ้านเชื่อโดนวางยาพิษ

เจอกระทิงตายเพิ่มอีกตัวที่ป่ากุยบุรี เป็นตัวที่ 13 ชาวบ้านเชื่อโดนวางยาพิษ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 ธ.ค. นายปรีชา วิทยพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

ร.ท.ณรงค์ชัย แตงอ่อนหัวหน้าชุดประสานงานโครงการพระราชดำริบ้านรวมไทย ,ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกกองกำลังสุรสีห์ ,ทหารพรานจากกองร้อยที่ 1404 กองพลทหารราบที่ 9  , ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 145 ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยาน อาสาสมัครฝ่ายปกครองรวมกำลังกว่า 100 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หมู่ที่ 7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากก่อนหน้านี้พบกระทิงป่าตายติดต่อกันถึง 12 ตัวในระยะเวลาเพียง 21 วัน

จากการกระจายกำลังเข้าตรวจค้นตามป่าและแหล่งน้ำติดต่อกันจนมาถึงร่องห้วยหุบมะกรูดด้านทิศตะวันตก
 
ห่างจากพบกระทิงตัวก่อนๆราว 1 กม. เจ้าหน้าที่พบซากกระทิงตายเพิ่มอีก 1 ตัว เป็นตัวที่ 13 แล้ว เป็นกระทิงเพศผู้ น้ำหนักประมาณ 1 ตัน สภาพเน่าเปื่อยเหลือแต่กระดูกส่งกล่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว มีร่องรอยถูกสัตว์แทะกินเนื้อ แต่ส่วนหัวยังมีเขาติดอยู่และไม่มีร่องรอยของการถูกฆ่าแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพโดยรอบ และนำซากกระทิงส่งตรวจพิสูจน์หาสาเหตุต่อไป

นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนัน ต.หาดขาม อ.กุยบุรี กล่าวว่า  ชาวบ้านในพื้นที่ไม่สบายใจที่เห็นสัตว์ป่าตายต่อเนื่องจำนวนมาก

โดยเฉพาะกระทิงซึ่งเป็นสัตว์หายากและใกล้สูญพันธุ์ ที่ผ่านมาชาวบ้านกุยบุรีและเจ้าหน้าที่อุทยานร่วมกันกันอนุรักษ์ดูแลเป็นอย่างดีทำให้สัตว์ป่าอยู่อย่างเป็นสุขและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี การตายของกระทิงจำนวนมากในครั้งนี้ ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมตายพร้อมกันเหมือนมีเลศนัย ความรู้สึกส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะใช่จากโรคระบาดจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบให้แน่ชัดเกิดจากสารพิษตัวไหน เกิดจากตายตามธรรมชาติ หรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์ โดยขณะนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการทำของมนุษย์ โดยเกิดความขัดแย้งกันหรือเกิดการดิสเครดิตที่เป็นข้าราชการในอุทยานด้วยกันอยากจะให้ผู้ใหญ่ในกรมอุทยานตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ในส่วนของตนได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านและอาสาสมัครช่วยกันหาข่าวอีกทางเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง

“ผมกลัวว่ากระทิงฝูงนี้ที่แยกออกมาจากฝูงใหญ่มีประมาณ 22 ตัว อาจจะตายหมดยกฝูง เพราะได้พบเห็นซากล้มตายอยู่ทุกวันลักษณะการตายเหมือนไปกินอาหารผิดสำแดงเข้าและกระจายกันออกไปตายเป็นระยะๆห่างกันไม่เกิน 200-300 เมตร เรื่องนี้ทางอุทยานต้องรีบหาคำตอบให้ชาวบ้านได้ทราบโดยไว” นายศรีสวัสดิ์ กล่าว





เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์