ฮือฮา!พบดาบโบราณใช้นำทัพพระนเรศวร

ฮือฮา!พบดาบโบราณใช้นำทัพพระนเรศวร


สมภารวัดดังเชียงใหม่ โชว์ดาบโบราณ เชื่อเป็นดาบนำทัพพระนเรศวร 

เผยสอดคล้องข้อมูลประวัติศาสตร์ที่ตั้งวัด อยู่ในเส้นทางเดินทัพ สำนักศิลปากรที่ 8 เตรียมส่งผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์อักขระจารึกบนเล่มดาบก่อนฟันธง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 55  ชาวบ้านใน ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และจากหลายพื้นที่ที่ทราบข่าวลือปากต่อปากได้พากันไปที่ วัดเมืองกื้ด ต.กื้ดช้าง เพื่อกราบไหว้สักการะดาบโบราณเล่มหนึ่งที่เก็บรักษาไว้ภายในวัด โดยเชื่อกันว่า ในอดีตดาบเล่มนี้เป็นดาบคู่กายที่ใช้สำหรับการนำทัพของพระนเรศวรในการสงคราม ขณะที่เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ยังระบุด้วยว่า วัดแห่งนี้อยู่ในเส้นทางการเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวร และเคยเป็นที่พักทัพก่อนที่จะเสด็จสวรรคตในเขต อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ในปัจจุบัน

 พระอธิการอินถา รตนวรรณโณ เจ้าอาวาสวัดเมืองกื้ด เล่าว่า อาณาบริเวณของตำบลเมืองกื้ดเป็น เมืองโบราณเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับเมืองเชียงใหม่ เมืองพร้าว และ เมืองแหง เมื่อประมาณ 700 ปีที่ผ่านมา โดยพบแผ่นไม้จารึกอักษรขอมระบุว่า วัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2282 ตามตำนานเล่าขานของวัด เล่าสืบต่อกันว่า ในยุคสมัยที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงทำศึกสงครามกับพม่า สมเด็จพระนเรศวร ได้นำทัพออกจากเชียงใหม่ เพื่อจะไปตีเมืองอังวะ และได้ทรงพักทัพคืนที่สามที่วัดแห่งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 แรม 11 ค่ำ เดือน 5

 พระอธิการอินถา เล่าว่า การกรีฑาทัพของสมเด็จพระนเรศวร ทุกครั้งจะมีการใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ ทำพิธีปลุกเสกน้ำมนต์ประพรมเหล่าทหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล ขณะที่ก่อนออกรบ จะมีการปั้นหุ่นจำลอง อริ ราชศัตรู และใช้ดาบเล่มนี้ฟันคอหุ่นจนขาด เพื่อปลุกใจเหล่าทหาร ตามประวัติของวัดเล่าสืบทอดกันมาว่า ครูบาน้อยอดีตเจ้าอาวาส เคยปรารภธรรมกับสมเด็จพระนเรศวรเมื่อครั้งทรงพักทัพที่วัด และสมเด็จพระนเรศวร ได้มอบดาบนำทัพเล่มนี้ไว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัด ก่อนที่จะยกทัพเสด็จไปตามลำน้ำแม่แตงไปถึงเมืองคอง เมืองแหง และทรงสวรรคตในปี พ.ศ. 2248 ขณะที่หลังจากนั้นทางวัดได้เก็บรักษา ดาบเล่มนี้ไว้ในโบสถ์จากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับดาบโบราณเล่มนี้มีความยาวจากด้ามจรดปลายประมาณ 1.2 เมตร มีความกว้างช่วง กลางดาบประมาณ 4 นิ้ว ด้ามดาบทำด้วยงาช้าง ขณะที่ตัวเล่มดาบคาดว่าทำจากเหล็กน้ำพี้ บนเล่มดาบยัง ปรากฏอักขระอักษรขอม และภาพราหูจารึกประทับไว้ตลอดทั้งเล่มทั้งสองด้าน ซึ่งจากภาพอักษรและตาราง ทรงกลมที่ปรากฏเชื่อว่าดาบเล่มนี้จะถูกใช้ในการคำนวนฤกษ์ยามในการออกทัพด้วย 

 เจ้าอาวาสวัดเมืองกื้ด กล่าวว่า ในปี 2551-2552 ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรได้เดินทางมาที่วัด เพื่อขอข้อมูลการเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถึง 3 ครั้ง แต่ทางวัดไม่ได้บอกว่ามีดาบโบราณเล่มนี้เก็บรักษาไว้เพราะเกรงว่าอาจถูกนำไปใช้ในการแสดงหรืออาจทำให้กลุ่มมิจฉาชีพที่ทราบข่าวเข้ามาขโมยไปจากวัด แต่มาภายหลังชาวบ้านเริ่มทราบข่าว จึงบอกเล่ากันปากต่อปาก ทำให้ประชาชนจำนวนมากต่างพากันมาที่วัด ซึ่งทางวัดได้ใช้ดาบเล่มนี้ปลุกเสกน้ำมนต์ประพรมผู้ที่แวะมาเยือนเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ยืนยันไม่มีการสร้างวัตถุมงคล หรือหากินกับดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้อย่างแน่นอน 

ด้านนายชัยยง ไชยศรี รองคณบดีวิทยาลัยแม่ฮ่องสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ผู้ศึกษาวิจัยเรื่องสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับเวียงแหง ให้ความเห็นว่าจากหลักฐานที่ปรากฏตามจารึกและอาวุธ โบราณทั้งหอกและดาบที่พบฝังอยู่ใต้ลำนำแม่แตงในบริเวณดังกล่าวมีความชัดเจนว่า สมเด็จพระนเรศวรทรงนำทัพมาพักที่ชุมชมเมืองกื้ดในคืนที่สามหลังจากนำทัพทหารกว่า 1 แสนนายออกจากเมือง เชียงใหม่ ก่อนจะเสด็จไปยังเมืองคองและเมืองแหงห่างจากชุมชนเมืองกืดราว 60 กิโลเมตร และสวรรคตที่ เมืองแหง

 ส่วนดาบนำทัพที่ทางวัดระบุตนเองไม่ได้ศึกษาเฉพาะเจาจงในเรื่องนี้แต่เห็นว่าเป็นความเชื่อส่วน บุคคล ส่วนจะมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์หรือทางประวัติศาสตร์ขึ้นอยู่กับทางวัด 

 ด้านนายไกรสิน อุ่นใจจินต์ หัวหน้ากลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยเดินทางลงพื้นที่ตำบลกื้ดช้างกับ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล และ อาจารย์ชัยยง ไชยศรี นักวิชาการผู้ เชี่ยวชาญ เพื่อศึกษาเส้นทางเดินทัพ ซึ่งจนถึงขณะนี้มีหลายทฤษฏีเกี่ยวกับเส้นทางเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งจนถึงขณะนี้ในเรื่องของเส้นทางเดินทัพจากเชียงใหม่ไปถึงเวียงแหงยังไม่ได้ข้อสรุปที่ลงตัว  

ส่วนดาบโบราณเล่มนี้ สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ จะต้องตรวจสอบสภาพและอักระที่จารึกไว้ โดยจะให้ผู้เชี่ยวชาญด้านตัวหนังสือโบราณวิเคราะห์เปรียบอย่างละเอียด เพราะตัวอักษรหรืออักขระจะบ่งชี้ ถึงช่วงเวลาและสิ่งอื่นที่จะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้เป็นอย่างดี ส่วนความเชื่อของเจ้าอาวาสหรือชาว บ้านเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์