ฮือฮาปฏิทินจับโจร ไอเดียเก๋ตำรวจภาค7

สร้างความฮือฮาไปทั่วสำหรับไอเดียเก๋ของตำรวจภูธรภาค 7

ที่คิดทำ "ปฏิทินจับโจร" เอารูปคนร้ายคดีอาชญากรรมมาติดไว้ในหน้าปฏิทินปีใหม่ 2551 ออกแจกจ่ายให้ประชาชนได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาตามล่าคนร้ายแทนที่จะทำปฏิทินแบบวาบหวามที่นิยมทำกัน แต่งานนี้ตำรวจมาแนวใหม่ทำปฏิทินจับโจรมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับครอบครัวข้าราชการตำรวจและประชาชนทั่วไป ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลแจ้งเบาะแสคนร้ายที่ทางการกำลังต้องการตัว เรียกได้ว่าเกิดประโยชน์ทั้งผู้ให้และผู้รับ

"ปฏิทินจับโจร" โฉมใหม่เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 28 ธ.ค. 2550

 โดยพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 เป็นผู้นำออกมาแจกจ่ายให้ครอบครัวข้าราชการตำรวจและประชาชนทั่วไป ท่ามกลางเสียงฮือฮาเพราะความแหวกแนวไม่ซ้ำใคร นับเป็นผลงานที่ตำรวจภาค 7 สุดภาคภูมิใจ

ผู้บัญชาการวรพงษ์บอกถึงวัตถุประสงค์ของการทำปฏิทินชุดนี้ ว่า

เพื่อแจกเป็นของขวัญปีใหม่ให้ครอบครัวตำรวจและประชาชนทั่วไป ซึ่งนอก จากจะใช้เป็นประโยชน์ในการดูวัน เดือน ปีแล้ว ยังใช้ดูโฉมหน้าคนร้ายคดีอุกฉกรรจ์ที่ตำรวจกำลังต้องการตัวได้ ซึ่งคนร้ายเหล่านี้ล้วนมีประวัติ ติดตัวทั้งนั้น และที่สำคัญ ทุกคนจะมีเงินรางวัลนำจับซึ่งใครแจ้งเบาะแส จนสามารถตามจับกุมคนร้ายได้ก็จะได้รับเงินรางวัลเหล่านั้นเป็นสิ่งตอบ แทน

ส่วนที่ไปที่มาของปฏิทินโจรชุดนี้ พล.ต.ท.วรพงษ์เล่าย้อนว่า

เริ่มจากก่อนหน้านี้ตำรวจภูธรภาค 7 คิดทำโครงการ "ชีวิตปลอดภัยใช้ตำรวจคุ้มกัน" อบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจหลักสูตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ จำนวน 180 นาย เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในครั้งนั้นมีการเก็บรวบรวมภาพถ่ายคนร้ายทั้งหมดไว้แจกจ่ายให้ชุดปฏิบัติการที่ทำงานในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จ.นคร ปฐม สุพรรณบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งส.ส. ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งผลการปฏิบัติงานปรากฏว่าทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี โดยสมุดภาพคนร้ายเหล่านั้น ก็ยังเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีและยังมีปริมาณมาก

พอใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่เราจึงมาหารือกันถึงเรื่องของขวัญวันปีใหม่ที่จะจัดทำแจกครอบครัวตำรวจและชาวบ้าน พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร ผบก.ภ.จว.กาญ จนบุรี จึงเสนอความเห็น ที่ได้หารือกับนายตำรวจระดับรอง ผบช. ผบก. ในภาค 7 มาก่อนหน้านี้ที่ว่าควรเอาโปสเตอร์ภาพผู้ต้อง หาเหล่านั้นมาทำเป็นปฏิทินปีใหม่เสียเลย โดยลงรายละเอียดเกี่ยวกับคนร้าย และหมายจับไว้ในปฏิทินอย่างครบถ้วน ตั้งรางวัลนำจับคนร้ายเหล่านี้ไว้ที่หัวละ 1 แสนบาท โดยมีระยะเวลาให้จนถึงวันที่ 30 ก.ย. ที่จะถึงนี้

สําหรับปฏิทินจับโจรที่ตำรวจภูธรภาค 7 ทำขึ้น มีด้วยกัน 2 แบบ

 ซึ่งทั้ง 2 แบบจะมีภาพใบหน้าของผู้ต้องหาพร้อมเลขคดี เลขหมายจับ ข้อหา และวันสิ้นสุดอายุความ โดยแบบแรกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่น จำนวน 24 ราย แบบที่ 2 เป็นผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำ นวน 11 ราย ซึ่งในจำนวนนี้จับได้แล้ว 1 ราย ก่อนจะมีการตั้งรางวัลให้ ซึ่งยอดรวมของรางวัลในการแจ้งเบาะแสจับผู้ต้องหาทั้ง 33 รายสูงถึง 3 ล้าน 4 แสนบาท

ดังนั้น ใครมีเก็บไว้เวลาดูปฏิทินก็อย่าลืมดูหน้าคนร้าย

จับพลัดจับผลูอาจได้เงินแสนไปใช้!?!

สำหรับรูปแบบของปฏิทินจับโจรดังกล่าว มีรูปแบบเหมือนโปสเตอร์ทั่วๆ ไป

 ซึ่งดัดแปลงมาทำเป็นปฏิทินที่มีขนาดสูง 21 นิ้ว กว้าง 15 นิ้ว เป็นปฏิทินแบบแผ่นละเดือน บอกวันที่ ปี พ.ศ. ข้างขึ้น ข้างแรมไว้เสร็จสรรพ จุดเด่นของปฏิทินจะอยู่ตรงที่มีรูปหน้าคนร้ายเรียงกันเต็มไปหมด ไม่เหมือนปฏิทินอื่นที่มีรูปสวยๆ งามๆ ไว้ดูให้เจริญตาเจริญใจ

หลังปฏิทินจับโจรแพร่หลายออกไป ปรากฏว่า 1 ในคนร้ายที่ปรากฏโฉมอยู่ ในภาพถ่ายก็ถูกวิสามัญฆาตกรรมแล้ว

คือ ส.ต.อ.สุมิตร หรืออีกชื่อคือ นายชาติณรงค์ ประจงเศรษฐ์ อายุ 40 ปี อดีตตำรวจสายสืบ สน.ทุ่งสองห้อง มือปืนรับจ้างหมายเลข 1 ที่ตำรวจภาค 7 กำลังต้องการตัว ซึ่งถูกชุดเฉพาะกิจสืบสวนสอบ สวนคดีสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเด็ดปีกลงได้

โดนลบชื่อออกจากปฏิทินเป็นศพแรก!!

ส.ต.อ.สุมิตร สิ้นลายตอนเย็นวันที่ 3 มกราคม

ขณะเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ในเขตจ.นนทบุรี หลังรับงานสังหารบุคคลสำคัญคนหนึ่งในจังหวัด ซึ่งยังดีที่เจ้าหน้าที่รู้เบาะแสเลยตามประกบตัวเอาไว้ก่อน โดยเย็นวันนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจฯ ตามไปพบส.ต.อ.สุมิตร นั่ง อยู่ในรถแท็กซี่สีฟ้า ทะเบียน ทย 1857 กทม. จอดอยู่ในปั๊มน้ำมันเชลล์ หน้าห้างแม็คโคร สาขาแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ถูกอดีตตำรวจผู้นี้ชักปืน 11 ม.ม. ออกมากระหน่ำยิงอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เลยถูกยิงสวน 5 นัดจนถึงแก่ความตายหลังเกิดเหตุตำรวจภูธรภาค 7 จึงมอบเงินรางวัลให้ชุดวิสามัญ 1 แสนบาท

สำหรับประวัติคนร้ายรายนี้ เคยก่อคดีฆ่า คนตายและมีหมายจับหลายท้องที่รวม 8 คดี

ปัจจุบันเป็นมือปืนในบัญชีดำอันดับต้นๆ เนื่อง จากมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม โดยเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 50 ก่อคดียิง นางพรรณี อวยเจริญ เจ้าของร้านขายรถมอเตอร์ไซค์ช็อปเปอร์ ย่านมักกะสัน ได้รับบาดเจ็บตาขวาบอด จากนั้นไปรับงานเป็นมือปืนคุ้มกันนักการเมืองคนหนึ่งในช่วงเลือก ตั้ง ซึ่งก่อนตาย 2 วันได้ถูกนายจ้างเรียกตัวให้มายิงนางพรรณีซ้ำเพราะเหยื่อยังไม่ตาย ซึ่งเหยื่อของส.ต.อ.สุมิตรส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองและนักธุรกิจ อาทิ นายพยุงศักดิ์ เขียวคำรบ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม และ นายประธาน บังจิตร รองประธาน อบต.บ้านลาด จ.เพชรบุรีที่ถูกยิงตายไปก่อนหน้านี้

แต่แล้วในที่สุดตัวเองก็ต้องโดนทำวิสา มัญฆาตกรรมเป็นผี

ลบชื่อคนร้ายในปฏิทินไป 1 ราย

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์