อีกแล้ว! เครื่องบินตก ดับ 7 ศพ

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 8 พ.ย.


ร.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ร้อยเวร สภ.อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ได้รับแจ้งจากกองบิน 4 ตาคลี กองพลบินที่ 3 กองบัญชาการยุทธทางอากาศว่า ได้เกิดอุบัติเหตุ เครื่องบิน บ.ตล.12 (Learjet) แบบ 35A เลขที่ 2/3140208 เป็นเครื่องบินประกอบภารกิจการบินถ่ายภาพทางอากาศ ของกองทัพอากาศ ได้บินขึ้นจากสนามบินกองบิน 4 ตาคลี แล้วเกิดอุบัติเหตุตกลงบริเวณลานบินด้านเหนือฝั่งทิศตะวันตก

มีนักบินเสียชีวิตหลายคน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชูเกียรติ วงศ์สิทธิการ ผกก. พ.ต.ท.ชาญวิทย์ กนกนาก รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.เทศ ต่วนชะเอม รอง ผกก.สส. นำกำลังไปตรวจสอบร่วมกับ น.อ.ชูชาติ บุญชัย ผู้บังคับการกองบิน 4 กองพลบินที่ 3 กองบัญชาการยุทธทางอากาศตาคลี

จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณรันเวย์สนามบินด้านทิศเหนือ ฝั่งตะวันตกของลานบิน


เป็นพื้นที่ลานจอดเครื่องบินฝูงบิน 401 กองบิน 4 ตาคลี มีเครื่องบินจอดอยู่กว่า 10 ลำ ห่างไปเล็กน้อยพบ

เศษซากเครื่องบินที่ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจายเป็นวงกว้างรัศมีกว่า 100 เมตร
เครื่องยนต์ และเครื่องบินทั้งลำแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี
ท่ามกลางเศษชิ้นส่วนของร่างกายนักบินและลูกเรือที่เสียชีวิตกระเด็นกระจัดกระจายไปทั่วลานบิน
ทั้งแขน
ขา
และศีรษะ

กระเด็นเกลื่อนกลาดเป็นที่น่าสยดสยองแทบจำศพไม่ได้

สำหรับนักบินและเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องมี 7 นายเสียชีวิตทั้งหมด


ประกอบด้วย

นาวาอากาศตรีพิเชษฐ ฉายาชวลิต อายุ 32 ปี
นักบินที่ 1 เป็นนายทหารการฝึกประจำฝูงบิน 402 กองบิน 4 ตาคลี เรืออากาศเอก

ดุสิต ขาวเขียว อายุ 31 ปี นักบินที่ 2 เป็นนายทหารนิรนาทภัย ฝูงบิน 402

เรืออากาศเอกเลิศ โอปัน อายุ 32 ปี
เรืออากาศเอกทรงวุฒิ เอี่ยมแจง อายุ 50 ปี หัวหน้าถ่ายภาพทางอากาศ
พันจ่าเอกยุทธการ เหลี่ยมเลศ อายุ 52 ปี
ช่างเครื่อง พันจ่าอากาศเอกนิรุธ หวังช่วยกลาง อายุ 31 ปี
เจ้าหน้าที่ช่างอากาศ
และพันจ่าอากาศเอกสุทธิศักดิ์ โรจนวรดิลก อายุ 31 ปี

เจ้าหน้าที่ถ่ายรูป หลังเกิดเหตุ นาวาอากาศเอกชูชาติ บุญชัย ผู้บังคับการกองบิน 4 ระดมกำลังทหารเข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อเก็บเศษชิ้นส่วนผู้เสียชีวิต รวมทั้งชิ้นส่วนเครื่องบินที่กระจัดกระจายไปทั่ว โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในที่เกิดเหตุ

ต่อมาเวลา 14.30 น. นาวาอากาศตรีปรัชพล วีสุวรรณ นายทหารหัวหน้าแผนกกิจกรรมกองบิน 4 เปิดแถลงข่าว


ต่อสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินแบบ บ.ตล.12 หรือเครื่องบินแบบตรวจการณ์ลำเลียง มีภารกิจเพื่อบินขึ้นถ่ายภาพทางอากาศซึ่งเป็นแนวปฏิบัติของทหาร มีนักบิน ช่างเครื่อง และช่างภาพทั้งหมดรวม 7 คน

ขณะนำเครื่องบินทะยานขึ้นจากสนามบินกองบิน 4 สูงจากพื้นประมาณ 50 ฟุต

คาดว่าเกิดเหตุเครื่องยนต์ขัดข้อง นักบินจึงพยายามลงฉุกเฉินที่สนามบินด้านเหนือ แต่ขณะนั้นมีลมพัดขวางสนามทำให้เครื่องบินเสียแนวการบินเซถลาออกจากทางวิ่ง โดยพื้นที่ด้านหน้าเป็นลานจอดอากาศยานของฝูงบิน 401 มีเครื่องบินจอดอยู่เต็มลานจอด

และมีตัวอาคารที่ทำงานของข้าราชการกองบิน 4 อยู่ นักบินจึงตัดสินใจหักหลบ ทำให้เครื่องพุ่งเข้าชนโรงจอดอากาศยานซึ่งเป็นโรงร้างไม่มีเจ้าหน้าที่ทำงานจนเกิดระเบิดแหลกเป็นจุณ นักบินและเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องทั้งหมดเสียชีวิต

นาวาอากาศตรีปรัชพลกล่าวต่อไปว่า


สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุของกองทัพอากาศอยู่ระหว่างสอบสวน เมื่อทราบแน่ชัดแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ส่วนศพของทหารที่เสียชีวิตทั้ง 7 นาย

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

จะเคลื่อนย้ายโดยเครื่องบินแบบ C130 ของกองทัพอากาศ นำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ต่อไป

ที่กองบัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. เปิดเผยว่า


กองทัพอากาศได้ส่งกรมจเรทหารและกองนิรภัยการบินไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเครื่องบินตกแล้ว เบื้องต้นต้องตรวจสอบเครื่องยนต์ที่เป็นสาเหตุของการตกว่าเป็นอย่างไร ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด เมื่อถามว่าเครื่องบินของกองทัพอากาศประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

จะมีการเปลี่ยนเครื่องบินใหม่หรือไม่

พล.อ.อ.ชลิตตอบว่า กองทัพอากาศต้องการเปลี่ยนใหม่แต่ไม่มีงบประมาณ ถ้ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญในจุดนี้ก็ไม่สามารถซื้อได้ เพราะตั้งแต่ปี 2540 กองทัพอากาศได้งบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท

และลดลงมาเรื่อยจนเหลือ 1.6 หมื่นล้านบาทในปี 2549 ส่วนกองทัพอากาศจะได้งบประมาณเพิ่มขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลเป็นผู้พิจารณา


แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์