อาการลูกช้าง 7 เดือนเหยียบระเบิดทรุดหนัก

นางสาวโซไลดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง

เปิดเผยว่า กรณีลูกช้างวัย 7 เดือนเพศเมียชื่อโม่ชะเหยียบกับระเบิดฝั่งประเทศพม่าทำให้อุ้งเท้าข้างขวาหน้าถูกแรงอัดระเบิดหายไปเกือบหมด ภายหลังให้การรักษาอาการดีขึ้นลูกช้างสามารถพยุงตัวเองและกินนมแม่ได้ดี

แต่ล่าสุดปรากฎว่าอาการลูกช้างกับทรุดหนักลุกลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องช่วยพยุงตัวลุกขึ้นและการเดินเหินค่อนข้างช้า ตาลอยไม่กินอาหารแต่กินนมแม่ทางสัตวแพทย์เกรงว่าลูกช้างจะติดเชื้อในกระแสเลือด

หากภายในอาทิตย์นี้ลูกช้างอาการไม่ดีขึ้น หรือทรุดหนักลงทางคณะสตวแพทย์อาจตัดสินใจว่าจะใช้วิธีเมตตาฆาต(ปลิดชีพด้วยยา) หรือไม่ เพราะหากปล่อยให้ลูกช้างอยู่ในสภาพอย่างนี้ต่อไปจะเป็นการทรมานช้าง สำหรับบาดแผลที่เหยียบระเบิดเริ่มแห้งมาบ้างแล้ว ล่าสุดต้องฉีดยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ โอกาสรอดมี 50-50 เท่านั้น


เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง กล่าวต่อว่า

ส่วนปัญหาช้าง 8 เชือกที่จะส่งไปประเทศออสเตรเลียนั้นทางองค์กรเกี่ยวกับช้างยังคงยืนกรานให้มีการตรวจดีเอ็นเอช้าง เพราะเชื่อว่าในจำนวน 8 เชือกมีช้างบ้านอยู่แน่นอน แต่ปรากฎว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโยนความรับผิดชอบในขณะที่ความพยายามการนำเอาช้างออกนอกประเทศยังมีตลอด


ทั้งนี้ทางองค์กรรักษ์ช้างต้องการให้ รศ.สัตวแพทย์หญิง สุมลญา กาญจนพังคะ อาจารย์คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ตรวจดีเอ็นอี เท่านั้น เนื่องจากไม่มั่นใจสัตวแพทย์ที่ดูแลช้าง 8 เชือก แต่ปรากฎว่ายังไม่มีหน่วยงานใดติดต่อไปยัง สตวแพทย์หญิงสุมลญาแต่อย่างใด


ขอยืนยันว่าทางมูลนิธิเพื่อนช้างและองค์กรรักษ์ช้างยังคงคัดค้านไม่ยอมให้ช้าง 8 เชือกถูกส่งไปประเทศออสเตรเลีย เด็ดขาด

จนกว่าจะมีการตรวจดีเอ็นเอก่อน ซึ่งทางองค์กรรักษ์ช้างได้หารือกันอย่างต่อเนื่องและพร้อมที่จะประท้วงคัดค้านให้ถึงที่สุดหากไม่ทำตามข้อเรียกร้องที่ได้ตกลงกันไว้ นางสาวโซไลดา กล่าว

เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง กล่าวอีกว่า กรณีช่างเร่ร่อนในเมืองใหญ่นั้นทางมูลนิธิเพื่อนช้างเคยทำหนังสือถึงภาครัฐหลายครั้งเกี่ยวกับมาตรการป้องกันไม่ให้นำช้างมาเดินเร่ร่อนในเมืองใหญ่เด็ดขาด

เพราะเป็นการทรมานช้างและไม่ใช่สถานที่เหมาะสมสำหรับช้าง แต่ดูเหมือนว่าภาครัฐไม่ยอมแก้ไขกันอย่างจริงจัง ที่ผ่านมามีการประชุมหารือกันไม่รู้กี่ครั้งแต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกวันนี้ยังมีช้างเข้ามาเดินเร่ร่อนในตัวเมืองตลอด สร้างความวุ่นวายต่อประชาชนและการจราจรที่ติดขัด ทั้งนี้ทั้งนั้นมีนายทุนอยู่เบื้องหลังการนำช้างมาเร่ร่อนในเมืองใหญ่



แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์