อันดับเศรษฐีวูบ แม้วหล่นที่14

ฟอร์บส์เอเชียจัดอันดับ 40 เศรษฐีเมืองไทย

"แม้ว"ร่วงจากที่ 4 ไปอยู่อันดับ 14 หลังถูก คตส.อายัดทรัพย์ เหลือแค่หมื่นล้าน "เฉลียว"เจ้าพ่อกระทิงแดงยังแชมป์ ตามด้วย"เจริญ"จากไทยเบฟ และ"ธนินท์"แห่งซีพี เผยเศรษฐีหน้าใหม่"นิชิต้า"สาววัย 27 ปี เจ้าของ"พรีเชียส ชิปปิ้ง" ติดอันดับ 12 รวยกว่า 1.1 หมื่นล้าน ยันการเมือง-ศก.ไทยผันผวนไม่กระทบฐานะเศรษฐีเมืองไทย

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม นิตยสารฟอร์บส์ เอเชีย เปิดเผยถึงการจัด 40 อันดับมหาเศรษฐีในไทย ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ปรากฏว่า

นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของบริษัท กระทิงแดง ยังคงเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเมืองไทย อันดับ 2 ได้แก่นายเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งบริษัท ไทย เบฟเวอเรจ จำกัด และอันดับ 3 ได้แก่นายธนินท์ เจียรวนนท์ จากเจริญโภคภัณฑ์กรุ๊ป (ซีพี) ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยอยู่ในอันดับที่ 4 เมื่อปีที่ผ่านมา ตกไปอยู่อันดับที่ 14 ในปีนี้ เนื่องจากทรัพย์สินส่วนใหญ่ถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สั่งอายัดไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ฟอร์บส์ เอเชีย รายงานว่า

นายเฉลียว อยู่วิทยา มีทรัพย์สินรวมมูลค่าทั้งสิ้น 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 119,000 ล้านบาท (คิดจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ประมาณ 34 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่นายเจริญ สิริวัฒนภักดี มีทรัพย์สินรวม 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 112,200 ล้านบาท และนายธนินท์ เจียรวนนท์ มีทรัพย์สินรวม 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 95,200 ล้านบาท นับเป็นมหาเศรษฐีในไทยที่มีทรัพย์สินอยู่ในหลักพันล้านดอลลาร์สหรัฐเพียง 3 คนเท่านั้น เมื่อเทียบกับ 10 ปีก่อนในช่วงก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ไทยมีมหาเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์ถึง 10 คน

สำหรับมหาเศรษฐีในไทย 10 อันดับแรกนั้น
 
ได้แก่ นายเฉลียว อยู่วิทยา, นายเจริญ สิริวัฒนภักดี, นายธนินท์ เจียรวนนท์, นายวิชัย มาลีนนท์ จากบีอีซี เวิลด์, นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ จากไทยซัมมิท, นายประยุทธ มหากิจศิริ จากบริษัท ไทยน๊อคซ์ อินดัสทรี และบริษัท เนสท์เล่ (ไทยแลนด์), นายสรรเสริญ จุฬารกูร จากซัมมิท กรุ๊ป และบริษัท ไทยสตีล เคเบิ้ล, นายวานิช ไชยวรรณ บริษัท ไทยประกันชีวิต, นางศศิธร รัตนรักษ์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง และสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 และนายวิลเลียม ไฮเน็ค บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น

สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ

ติดอยู่อันดับที่ 14 มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10,200 ล้านบาท ซึ่งฟอร์บส์ เอเชีย ระบุว่า ทรัพย์สินที่น้อยลงไปเกิดจากการถูก คตส. อายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณกับครอบครัวไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยทรัพย์สินที่ถูกอายัดคิดเป็นเงิน 1,840 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 62,560 ล้านบาท

สำหรับมหาเศรษฐีหน้าใหม่ในเมืองไทยที่ติดอันดับครั้งนี้ด้วย คือ
 
น.ส.นิชิต้า ชาห์ จากบริษัท พรีเชียส ชิปปิ้ง ที่กลายเป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในการจัดอันดับครั้งนี้ คืออายุเพียง 27 ปีเท่านั้น และมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 11,900 ล้านบาท อยู่ในอันดับที่ 12 โดย น.ส.นิชิต้า ดูแลบริษัท พรีเชียส ชิปปิ้ง ต่อจากบิดา ซึ่งฟอร์บส์ เอเชีย ระบุว่า 1 ใน 4 ของมหาเศรษฐี 40 คนของเมืองไทย เป็นบุคคลที่ได้รับสืบทอดมรดกมาจากวงศ์ตระกูล

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์