ออกหมายจับ ปริญญา ธรรมวัฒนะ ละเมิดคำสั่งศาล

"แจ้งขัดคำสั่งศาล"


ศาลแพ่งออกหมายจับ ปริญญา ธรรมวัฒนะ กักขัง ฐานขัดคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว สร้างอาคารขวางทางเข้า-ออก คฤหาสน์พี่ชาย นพดล ธรรมวัฒนะ

วันนี้ (12 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 609 ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งคดีที่ นายนพดล ธรรมวัฒนะ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปริญญา ธรรมวัฒนะ, นางนฤมล มังกรพาณิชย์, นางสาวคนึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ และ บ.สุวพีร์ ธรรมวัฒะ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานละเมิดคำสั่งศาล ต่อมาโจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 2 และ 3 ในชั้นไต่สวน

คดีนี้ สืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2547 ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่รื้อถอน และขนย้ายเสาคอนกรีต รั้วสังกะสี บนถนนที่ดินโฉนดเลขที่ 4409 แขวงอนุสาวรีย์ (คลองถนน) เขตบางเขน กทม.ออก เนื่องจากปิดกั้นการเข้าออกสู่ที่ดินของโจทก์ หรือให้โจทก์รื้อถอนเอง โดยจำเลยทั้งสี่เป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย และห้ามจำเลยกระทำซ้ำอีก พร้อมทั้งให้ชดใช้ค่าเสียหาย และโจทก์ได้ร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนศาลมีคำพิพากษา

"รื้อถอนรั้วปิดกั้น"


ศาลจึงมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ให้จำเลยทั้งสี่รื้อสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งปิดกั้นที่ดินของโจทก์ทั้งหกแปลง ออกชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น หากจำเลยไม่ดำเนินการให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการรื้อถอนได้เอง

ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2549 นายนพดล โจทก์ยื่นคำแถลงว่า จำเลยทั้งสี่ละเมิดคำสั่งห้ามชั่วคราว โดยได้ก่อสร้างอาคารบนที่ดิน โฉนดเลขที่ 4409 ดังกล่าว ซึ่งปิดกั้นที่ดินของโจทก์ 2 แปลง ขอให้ออกหมายจับจำเลยจนกว่าจำเลยทั้งสี่จะปฏิบัติตามคำสั่งห้ามชั่วคราว

จำเลยทั้งสี่ยื่นคำคัดค้านว่า ไม่ได้กระทำละเมิดคำสั่งห้ามชั่วคราว แต่การสร้างอาคารเก็บสินค้าบนโฉนดดังกล่าวเพื่อใช้ในกิจการตลาดยิ่งเจริญ และไม่ได้ก่อสร้างติดแนวเขตที่ดิน และไม่ปิดกั้นทางเข้าออกที่ดินของโจทก์ ขอให้ยกคำแถลงออกหมายจับจำเลย

ทางไต่สวนได้ความว่า ภายหลังศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โจทก์ได้ดำเนินการรื้อถอนเสาปูนคอนกรีต รั้วสังกะสี ซึ่งปิดกั้นที่ดินของโจทก์ออกเอง ต่อมาเดือนสิงหาคม 49 จำเลยที่ 1 และ 4 ได้ก่อสร้างอาคารลงบนที่ดินดังกล่าวอีกบางส่วน

"ออกหมายจับมากักขัง"


คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 และ 4 จงใจขัดขืนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ ศาลเห็นว่า โจทก์เบิกความเป็นพยานว่า การก่อสร้างอาคารบนโฉนดที่ดิน 4409 ของจำเลย ได้ปิดกั้นทางเข้าออกที่ดินของโจทก์ ในแปลงโฉนดเลขที่ 4407 และ 4408 ขณะที่ฝ่ายจำเลยมีพยานเบิกความ แต่ได้ตอบคำถามค้านทนายโจทก์ เดิมที่ดินโฉดน 4409 มีสภาพเป็นแนวยาวตลอดจากทางเข้าด้าน ถ.พหลโยธิน จนถึงกำแพงด้านหลัง สามารถขับรถเข้าไปได้จนถึงกำแพง แต่หลังจากก่อสร้างอาคารแล้วไม่สามารถขับรถเข้าไปสุดกำแพงได้ และไม่สามารถเข้าถึงอาคาร ซึ่ตั้งอยู่บนที่ดินของโจทก์ได้

การกระทำของจำเลยที่ 1 และ 4 จึงมีลักษณะทำนองเดียวกับการปิดกั้นที่ดินโฉนดเลขที่ 4409 ซึ่งใช้เป็นทางเข้าออกสู่ที่ดินของโจทก์ จึงถือได้ว่าเป็นการจงใจขัดขืนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลออกหมายจับจำเลยมากักขังจนกว่าจำเลยจะปฏิบัติตามคำสั่งศาล

ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยที่ 1 ในฐานะส่วนตัวและในฐานะกรรมการจำเลยที่ 4 (บริษัท สุวพีร์) มากักขัง จนกว่าจำเลยที่ 1 และ 4 จะปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา โดยรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 4409 แขวงคลองถนน เขตบางเขน กทม.ออกไป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์