อย. ย้ำ ‘กัญชาทางการแพทย์’ ไม่ผูกขาดกลุ่มใดเน้นประโยชน์ประเทศชาติหลัก


อย. ย้ำ ‘กัญชาทางการแพทย์’ ไม่ผูกขาดกลุ่มใดเน้นประโยชน์ประเทศชาติหลัก


วันที่ 10 เม.ย.2562 ภญ. สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีการตรวจสอบที่ทำการของมูลนิธิแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี พบต้นกัญชา-เมล็ดกัญชา และผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการแปรรูปจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายปลดล็อกกัญชาเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงหรือไม่นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในฐานะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการรับแจ้งการครอบครองกัญชา และพิจารณาอนุญาตตามข้อบัญญัติของกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ขอชี้แจงว่าโดยเจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการให้ผู้ครอบครองกัญชามาแจ้งการครอบครองให้ถูกต้องตามลักษณะของกัญชาที่ครอบครอง และวัตถุประสงค์การใช้ ซึ่งผู้แจ้งจะได้รับการยกเว้นโทษ ทั้งนี้ ต้องแจ้งภายใน 90 วัน นับตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยสิ้นสุดในวันที่ 19 พฤษภาคม 2562

อย. ย้ำ ‘กัญชาทางการแพทย์’ ไม่ผูกขาดกลุ่มใดเน้นประโยชน์ประเทศชาติหลัก

 

 

พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่สามารถขออนุญาตปลูก ผลิต หรือสกัดกัญชา ดังนี้

1. กรณีการปลูก ผลิตหรือสกัดกัญชา เพื่อใช้ทางการแพทย์ ใน 5 ปีแรก หลังกฎหมายบังคับใช้ ผู้ขออนุญาตต้องเป็น หน่วยงานของรัฐ เช่น มหาวิทยาลัยของรัฐที่มีสอนทางการแพทย์ เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เกษตรศาสตร์ โรงพยาบาลรัฐ หรือบุคคลต่อไปนี้ ซึ่งต้องดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐ เช่น สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีการสอน/วิจัยทางการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์ กลุ่มผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น สหกรณ์เกษตร วิสาหกิจชุมชน ที่อยู่ภายใต้หน่วยงานของรัฐหรือสถาบันอุดมศึกษา ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ขออนุญาตอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

2. ส่วนกรณีการปลูก ผลิต หรือสกัดกัญชา เพื่อการศึกษาวิจัย บุคคลดังกล่าวข้างต้นสามารถขออนุญาตได้โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐแต่อย่างใด ซึ่งมีหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตเพื่อการศึกษาวิจัยไปแล้ว เช่น องค์การเภสัชกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งการอนุญาต เลขาธิการ อย. เป็นผู้อนุญาตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ



อย. ย้ำ ‘กัญชาทางการแพทย์’ ไม่ผูกขาดกลุ่มใดเน้นประโยชน์ประเทศชาติหลัก


ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการผ่อนคลายกฎหมายให้ใช้กัญชาทางการแพทย์และการอนุญาตมิได้ผูกขาดให้กลุ่มทุนใดเป็นการเฉพาะตามที่เป็นข่าว และไม่ได้สงวนเฉพาะสำหรับภาครัฐ แต่ทั้งภาคการเกษตรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือภาคการศึกษาสามารถปลูก ผลิต หรือสกัดกัญชาได้ รวมทั้งเงื่อนไขการปลูกก็ไม่ได้กำหนดว่าต้องปลูกแต่เฉพาะในโรงเรือนระบบปิดเท่านั้น ผู้ปลูกสามารถปลูกกลางแจ้งได้ แต่ต้องมีระบบการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อให้กัญชามีคุณภาพ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และป้องกันการหลุดออกไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ กฎระเบียบใด ๆ ที่กำหนดขึ้นในตัวบทกฎหมายจึงให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ได้เอื้อกลุ่มทุนใหญ่แต่อย่างใด

อย. ย้ำ ‘กัญชาทางการแพทย์’ ไม่ผูกขาดกลุ่มใดเน้นประโยชน์ประเทศชาติหลัก


ทั้งนี้ อย. ยินดีสนับสนุนการศึกษาวิจัยและพัฒนายา รวมทั้งกรณีพืชเสพติดเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ ให้ประชาชนมียาที่ดี มีประสิทธิภาพในการรักษา และไม่ปิดกั้นความก้าวหน้าทางวิชาการในการประชุมพิจารณาเรื่องใดๆ จะมีการเชิญนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมพิจารณาให้ความเห็นในทุกประเด็น เพื่อให้ข้อตัดสินในการดำเนินการเป็นไปอย่างรอบคอบ รัดกุม เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งขณะนี้มีผู้มาแจ้งครอบครองกัญชาที่ อย. จำนวน 906 ราย โดยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ 11 ราย และผู้ป่วย 895 ราย

อย. ย้ำ ‘กัญชาทางการแพทย์’ ไม่ผูกขาดกลุ่มใดเน้นประโยชน์ประเทศชาติหลัก


สำหรับในต่างจังหวัดมีผู้มาแจ้งครอบครองกัญชาเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ 5 ราย ผู้ป่วย 442 ราย และบุคคลอื่น ๆ ที่นอกเหนือจาก 2 กลุ่มข้างต้น มีมาแจ้งเพียงรายเดียว รวมทั้ง มีผู้สอบถามเข้ามาที่ อย. ยังช่องทาง สายด่วน อย.1556 จำนวน 8,258 ราย หมายเลขโทรศัพท์ของกองควบคุมวัตถุเสพติด อย. 40 ราย และที่ Counter Service 4 ราย รองเลขาธิการฯ กล่าวในที่สุด

อย. ย้ำ ‘กัญชาทางการแพทย์’ ไม่ผูกขาดกลุ่มใดเน้นประโยชน์ประเทศชาติหลัก

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี Workpoint


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:12 น. ]
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์