อบจ. ยันชัด ถนนหลุดลอกทำได้มาตรฐาน หากไม่มีคุณภาพคงผุพังทั้งสายแล้ว

จากกรณีที่ในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพถนนสายหนึ่งใน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญที่หลุดลอกออกเป็นแผ่นหลังจากน้ำลด จนเป็นที่วิจารณ์กันว่านี่เป็นถนนหรือแผ่นกระดาษนั้น

จากการตรวจสอบทำให้ทราบว่าถนนเส้นดังกล่าวคือบริเวณพื้นที่บ้านห้วยทม ตำบลป่าก่อ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบไปดังถนนเส้นดังกล่าว ก็พบว่าถนนเส้นดังกล่าวได้มีการหลุดล่อนออกเป็นจริง โดยความหนาของถนนที่หลุดล่อนออกเป็นแผ่นนั่นมีความหนา 4 เซนติเมตร และหลุดล่อนออกเป็นระยะกว่า 10 เมตรเท่านั้น โดยตลอดทั้งสายยังคงมีสภาพที่ดีอยู่ มีเพียงจุดดังกล่าวนั่นที่หลุดล่อนออกจากพื้นผิว แต่พื้นผิวใต้ถนนสภาพถนนยังคงสภาพดี โดยถนนเส้นนี้อยูในความดูแลรับผิดชอบของ อบจ.อำนาจเจริญ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบนั้น ทีมช่างจาก อบจ.อำนาจเจริญ ก็ได้เดินทางมาที่จุดดังกล่าวเพื่อสำรวจความเสียหายและเร่งซ่อมแซมถนนเส้นดังกล่าว จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ อบจ.อำนาจเจริญ เพื่อพบกับนายสมหมาย กอดแก้ว ปลัด อบจ.อำนาจเจริญ ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนนายก อบจ.อำนาจเจริญ ที่ถูกปลดจาก ม.44 โดยทางด้านปลัด อบจ.อำนาจเจริญ ได้เปิดเผยข้อมูลว่า แต่เดิมถนนเส้นดังกล่าวนั้นเป็นถนนของแขวงทางหลวงชนบท ได้โอนถ่ายให้กับ อบจ.อำนาจเจริญ เมื่อปี 2547 ระยะทางตลอดสาย 44.85 กิโลเมตร และปี 2559 ทาง อบจ.ได้งบประมาณ จำนวน 9,507,000 บาท ให้มีการปรับปรุงถนนเส้นดังกล่าว โดยวิธี Paverment in-place recycling ปิดผิวด้วยแอสฟัลท์ติกคอนกรีต หนา 4 เซนติเมตร

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ถนนเส้นดังกล่าวหลุดออกมาตามที่เป็นภาพข่าวนั้น สาเหตุมาจากการที่น้ำในลำห้วยเอ่อล้นท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร และมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้น้ำกัดเซาะใต้ผิวถนนที่เป็นแอสฟัลท์ติกคอนกรีต จึงทำให้หลุดล่อนออกมาเป็นแผ่น แต่ก็หลุดล่อนออกมาเป็นระยะทางแค่ 10 กว่าเมตรเท่านั้นไม่ได้หลุดล่อนออกทั้งสายแต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วแผ่นที่หลุดล่อนออกมาก็มีความหนา 4 เซนติเมตร ได้มาตรฐานตามแบบของถนนทางหลวงชนบท และการที่หลุดล่อนออกมาเป็นแผ่นแบบนั่นก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพการยึดติดของถนนว่าได้คุณภาพเหนียวแน่น เพราะถ้าหากถนนไม่ได้คุณภาพถนนคงจะผุพังและถูกกัดเซาะจนขาด หลังจากที่เป็นข่าว ทาง อบจ.เองก็ได้ทำหนังสือชี้แจงไปแล้ว พร้อมกับได้ส่งทีมช่างให้เข้าแก้ไขถนนเส้นดังกล่าวให้ใช้การได้เหมือนเดิมเรียบร้อยแล้ว เพื่อรองบประมาณที่จะมาซ่อมแซมถาวรอีกครั้ง