อธิการบดีมหาวิทยาลัยดัง สั่งให้ออกอาจารย์หนุ่มแชตลวงสาว

อธิการบดีมหาวิทยาลัยดัง สั่งให้ออกอาจารย์หนุ่มแชตลวงสาว


อธิการบดีมหาวิทยาลัยดัง สั่งให้ออกอาจารย์หนุ่มแชตลวงสาว พร้อมตั้งกก.สอบวินัย 


 กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพะเยา จับอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง แช็ตลวงนัก ศึกษาสาว หลอกล่อให้ส่งภาพหวิวมาให้ทางโปรแกรมไลน์ พร้อมเสนอเงินให้รายละเป็นแสน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็ขอมีสัมพันธ์ด้วย ถ้าไม่ยอมก็ขู่จะนำไปโพสต์แฉในเว็บไซต์นั้น

 ความคืบหน้าลาสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ส.ค. คณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัย เดินทางมาติดตามความคืบหน้า กรณีคดีเจ้าหน้าที่จับกุมนายสินชัย กิมเซียะ อาจารย์มหาวิทยาลัยดังกล่าวในข้อหาพรากผู้เยาว์ฯ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยเข้าพบ พ.ต.อ.สว่างวิทย์ สุทธหลวง ผกก.สภ.เมืองพะเยา, พ.ต.อ.คะนอง ไข่ทา หัวหน้าพงส. และพ.ต.ท.กฤตภาส ตาลาน พงส.เจ้าของคดี โดยทางพงส.นำตัวนายสินชัยไปฝากขังต่อศาลรอบแรก จำนวน 12 วัน ส่วนผู้เสียหายนั้นมีผู้หญิงถอนแจ้งความ 4 ราย เหลือแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ฯ 1 ราย

 รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยต้นสังกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางอธิการบดีลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยนายสินชัยแล้ว เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามขั้นตอน โดยความผิดที่เกิดขึ้นบทลงโทษของทางมหาวิทยาลัย มีตั้งแต่เบาไปถึงหนัก ตั้งแต่การตัดเงินเดือน ภาคทัณฑ์ไปจนถึงระดับการปลดออก ไล่ออก ตามขั้นตอน ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องแยกเป็นสองกรณีคือ 1.ความผิดทางอาญาซึ่งเป็นความผิดส่วนตัวของนายสินชัย ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดแล้ว เป็นส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย และ2.การสอบสวนทางวินัยของสถาบันที่ต้องดำเนินการ โดยขณะนี้มีคณะกรรมการฯแล้ว จะเร่งดำเนินการสอบสวนทางวินัยอย่างเร่งด่วน

 รองอธิการบดีฯ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทางมหาวิทยาลัย ต้องทบทวนระเบียบกฎเกณฑ์การรับบุคคลเข้ามาเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม จากเดิมมีการสัมภาษณ์เพียง 1 ชั่วโมง อาจจะต้องปรับปรุงให้เข้มข้นยิ่งขึ้น และทางอธิการบดีได้กำชับให้คณบดีทุกคณะให้ตรวจสอบพนักงานอย่างเข้มงวดมากขึ้น ไม่ให้เกิดการบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อคุณธรรม จริยธรรม

 ด้านรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต กล่าวว่า ทางทางอธิการบดีมีคำสั่งให้ออกจากพนักงานของมหาวิทยาลัยไว้ก่อน ส่วนผู้เสียหายที่เป็นนิสิตก็จะให้มีการช่วยเหลือโดยให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย โดยมอบหมายให้อาจารย์คณะนิติศาสตร์ โดยคณบดีคณะนิติศาสตร์เป็นผู้ดูแลให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย และช่วยเหลือแก่ผู้เสียหาย รวมถึงการดูแลด้านสภาพจิตใจด้วย ส่วนเรื่องกลุ่มนิสิตผู้เสียหายที่ยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความ ก็คงต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีบุคลากรกลุ่มหนึ่งเข้ามาให้การช่วยเหลือผู้กระทำความผิด โดยทางมหาวิทยาลัยรับทราบก็เชิญตัวมาพูดคุย เพราะเป็นการกระทำส่วนบุคคล ทางมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หลักการคือมหาวิทยาลัยจะไม่ปกป้องคนผิดเด็ดขาด และเราก็ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย

 “เบื้องต้นเรายืนยันชัดเจนว่า จะต้องช่วยเหลือผู้เสียหายด้วย ระหว่างนี้กำลังประสานเจ้าหน้าที่เพื่อขอข้อมูลผู้เสียหาย และผู้เสียหายกลุ่มอื่น ๆ ที่ยังไม่ปรากฏตัว เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไปด้วย ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการประสานงานขอข้อมูลจากทางตำรวจ โดยทางอธิการบดีได้มอบหมายให้คณะทำงานให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างดี ส่วนเรื่องผู้กระทำความผิดท้ายที่สุด เมื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยแล้ว ถือว่าเราเต็มที่ในการดำเนินการตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ปกติความผิดร้ายแรงโทษถึงไล่ออก เช่น กรณีที่เกิดขึ้นก็ถือว่าร้ายแรง แต่ก็ต้องพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายด้วย” รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนิสิต กล่าว

 ด้าน คณบดีคณะนิติศาสตร์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยมอบหมายให้ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย มาดูแลประสานงานในการดูแลนิสิตทั้งหมด และในส่วนของอาจารย์ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ในเบื้องต้นก็เป็นการเข้ามาในนามบุคคลส่วนตัวของอาจารย์เอง โดยไม่เกี่ยวข้องกับทางคณะหรือมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด ในส่วนของรายละเอียดทางคณะ ทางมหาวิทยาลัยก็จะสอบสวนหาข้อมูลที่ชัดเจนจากผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป เบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยอาจต้องเชิญอาจารย์กลุ่มนี้ เข้ามาพูดคุยและชี้แจงในกรณีที่อาจารย์ได้ออกมาทำในเรื่องนี้ ถ้าทำในนามมหาวิทยาลัย อาจจะก่อความเสียหายให้แก่มหาวิทยาลัยได้

 ผช.อธิการบดี กล่าวว่า อธิการบดีได้อาศัยอำนาจของอธิการบดี ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา ให้นายสินชัย กิมเซียะ พ้นจากการเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยแล้ว โดยมีคำสั่งให้ออกในเบื้องต้น และหากผลการสอบสวนทางวินัยซึ่งพบว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงอาจจะต้องปลดออกหรือไล่ออก ซึ่งหากนายสินชัยจะอุทธรณ์สามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน และทั้งนี้หากพบว่ามีพนักงานของมหาวิทยาลัย รายใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว จะต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยโดยไม่มีการละเว้น เนื่องจากมหาวิทยาลัยไม่มีนโยบายปกป้องคนผิด

 ผู้ช่วยอธิการบดี กล่าวว่า ขณะนี้ทางอธิการบดีย้ำให้คณบดีทุกคณะตรวจสอบ พฤติกรรมและจรรยาบรรณของอาจารย์ หรือเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัยฯแล้ว ย้ำว่ามหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และขอบคุณสื่อมวลชน ตำรวจ ที่ช่วยกันคัดกรอง คนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในมหาวิทยาลัย ซึ่งมหาวิทยาลัยจะได้ใช้ข้อบังคับดำเนินการกับบุคคลเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการดำเนินการต่างๆ ที่จะเกี่ยวข้องต่อไปกับผู้เสียหาย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยไม่ละเลยอย่างแน่นอน

 ผู้ช่วยอธิการบดี กล่าวต่อว่า ทราบว่านายสินชัย ซึ่งเป็นอาจารย์สอนนั้น บุคคลที่ไม่ค่อยพบปะหรือยุ่งเกี่ยวกับใคร เมื่อหมดเวลาสอนก็จะไม่ค่อยมีใครได้พบหน้า เพื่อนอาจารย์บางคน ก็ไม่เคยรู้จักว่านายสินชัยเป็นอาจารย์ในสถาบันเดียวกัน นอกจากนี้ ชื่อเล่นที่อ้างว่าชื่อ เก่ง นั้นไม่ใช่ชื่อของตนเอง แต่นำชื่อเล่นของอาจารย์อีกคนหนึ่งในคณะเดียวกัน ส่วนชื่อเล่นของนายสินชัย คือ แอเลาะห์

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์