อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน พร้อมแจงบัญชีทรัพย์สิน

อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน พร้อมแจงบัญชีทรัพย์สิน

อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน เตรียมเปิดเผยบัญชีเงินของวัด

ขณะที่บรรดาลูกศิษย์เผยถูกกลั่นแกล้งจากพระผู้ใหญ่ ไม่ให้ความเป็นธรรม ในการไต่สวน พร้อมนำชาวบ้านยื่นหนังสือคัดค้านขอให้ทบทวนในการถอดตำแหน่งเจ้าอาวาส ขณะเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เตรียมตรวจทรัพย์สินวัดบางคลานทั้งหมดหลังกำหนดเส้นตายมอบบัญชี ภายใน 7 วัน

จากกรณีเจ้าคณะใหญ่หนเหนือพิจารณาแล้วเห็นชอบตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ

โดยให้เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรดำเนินการออกคำสั่งให้ พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ถูกร้องเรียนว่าประพฤติตนไม่เหมาะสมต่อสมณเพศ และการใช้จ่ายเงินของวัดเป็นที่เคลือบแคลงไม่โปร่งใสหลายด้านนั้น

ล่าสุดวันที่ 13 พ.ย.ที่วัดหิรัญญาราม ประชาชน จำนวน 30 คน

ที่สวนใหญ่เป็นลูกศิษย์ของพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ยังคงจับกลุ่มมาให้กำลังใจที่กุฎิเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ซึ่งทางอดีตเจ้าอาวาสเองยังคงจำวัดที่วัดบางคลาน ซึ่งชาวบ้านดังกล่าวยังคงอยากให้อดีตเจ้าอาวาส จำวัดอยู่ที่กุฏิวัดบางคลานต่อไป ถึงแม้จะมีคำสั่งออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม พร้อมทั้ง เตรียมเปิดแถลงข่าวและยื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรม ต่อศูนย์ดำรงธรรมพิจิตร แสดงความโปร่งใส่ ของการบริหารจัดการในวัด


นายสนั่น ลือมงคล อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมูที่ 3 ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร

 ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสนิทของพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ กล่าวว่า หลังจากที่พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ได้ถูกพ้นออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ทำให้ลูกศิษย์และชาวบ้านบางส่วนเกิดความไม่พอใจ เชื่อว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสีพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ว่ามีพฤติกรรมส่อไปทางชู้สาวและใช้เงินของวัดเป็นที่เคลือบแคลงซึ่งการตรวจสอบไต่สวนไม่ได้รับความเป็นธรรม

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการไต่สวนที่แต่งตั้งจากเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ

ประกอบด้วย พระธรรมรัตน์ดิลก เจ้าคณะภาค 4 เป็นประธาน กรรมการไต่สวน พระราชสุตาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 4 พระราชปัญญาเมที รองเจ้าคณะภาค 4 พระทีฆทัสสุมุนีวงค์ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และพระสุธีรัตนาภรณ์ เลขาณุการเจ้าคณะภาค 4 ซึ่งทั้งหมดก็เป็นกรรมการไต่ส่วน ได้เรียกพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา มาไต่สวนข้อเท็จจริง

ปรากฎว่า พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ได้ยื่นหนังสือขอเลื่อนเวลาในการไต่สวนเนื่องจากอยู่ระหว่างการรวมรวมหลักฐาน

เพราะว่าหลักฐานที่กล่าวหาเป็นเรื่องของเงินวัดและเอกสารบัญชีวัดเป็นจำนวนมาก แต่กลับได้รับการปฎิเสธ
หลังจากนั้น วันที่ 26 ต.ค.พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ได้มอบหมายให้ตนเป็นตัวแทนไปยื่นหนังสือต่อพระทีฆทัสสุมุนีวงค์ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เพื่อขอขยายเวลาการพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งชาวบ้านตำบลบางคลานบางส่วนเห็นว่าพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการร้องเรียนและการไต่สวนในครั้งนี้ ซึ่งทางลูกศิษย์เองเตรียมจะยื่นหนังสือผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมพิจิตรไปยังเถรสมาคมเพื่อขอให้มีการทบทวนคำสั่งพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส

นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ย.) ทางลูกศิษย์ จะมีการเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ

เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับอดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน
ทางด้านพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม กล่าวว่า ตอนแรกคิดจะอุธรณ์คำสั่งที่ทางพระผู้ใหญ่สั่งปลดออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด แต่มาคิดอีกที คงไม่มีการยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากไม่อยากให้มองว่าตนกระด้างกระเดื่องต่อพระผู้ใหญ่ ถึงแม้ว่าไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัด ก็จะต้องจำวัดแห่งนี้ต่อไป เนื่องจากเป็นความต้องการของลูกศิษย์ และตนบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยนำเงินของวัด ออกไปไหนและไม่เคยทำอะไรเสื่อมเสีย

พระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า การที่พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ออกมาพูดว่าหุ้นพันธบัตรที่ซื้อกันเกิดขึ้นมาตั้งแต่หลวงพ่อเปรื่อง อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญารามองค์เก่าที่มรณภาพลง ไปตั้งแต่ ปี 2538 จะไปซื้อหุ้นที่ไหน

ซึ่งหลวงพ่อเปรื่องจะมาซื้อหุ้นได้อย่างไร เมื่อหลักฐานการซื้อหุ้นนั้น เกิดขึ้นเมื่อ ปี 2552-2555

ซึ่งและเป็นท่านเจ้าอาวาสเอง ที่เซ็นเบิก ถอน ดังนั้น เท่ากับอดีตเจ้าอาวาสท่านนี้ ยอมรับว่าท่านนำเงินของผู้บริจาค ไปซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ มาซื้อหุ้นเล่นหุ้นถือว่ามีความผิดร้ายแรงอยู่แล้วหาก ผู้บริจาค เขาไปแจ้งความ ท่านจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ได้


อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน พร้อมแจงบัญชีทรัพย์สิน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์