องค์กรการประดิษฐ์ระดับโลก ถวายเหรียญรางวัลในหลวง

องค์กรด้านการประดิษฐ์ในระดับนานาชาติ สาธารณรัฐฮังการี (IFIA) องค์กร Korea Invention Promotion Association (KIPA) สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ทูลเกล้าฯถวายเหรียญรางวัลและประกาศนียบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ดร.แอนดร้า วาเดรส ประธานองค์กร IFIA และนายลี จิบ จุง ผู้อำนวยการองค์กร KIPA เดินทางไปที่อาคารชัยพัฒนา สวนจิตรลดา เพื่อเข้าเฝ้าฯทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์


ศ.ดร.อานนท์กล่าวว่า รางวัลที่ทูลเกล้าฯ ถวาย ประกอบด้วย 1.ถ้วยรางวัล IFIA CUP 2007 ผลงานเรื่อง กังหันน้ำชัยพัฒนา เหรียญ Genius Prize ผลงานเรื่อง ทฤษฎีใหม่ และเศรษฐกิจพอเพียง จากองค์กร IFIA และ 2.รางวัล Special Prize พร้อมประกาศณียบัตรจากองค์กร KIPA ซึ่งรางวัลดังกล่าวถือเป็นรางวัลทรงเกียรติของนักประดิษฐ์ในระดับโลก


'วันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปี ประเทศไทยได้กำหนดให้เป็นวันนักประดิษฐ์ไทย

เนื่องจากเป็นวันที่ผลงานเรื่องกังหันน้ำชัยพัฒนาได้จดสิทธิบัตร ล่าสุดมีข่าวดี จากการหารือขององค์กร IFIA ซึ่งมีสมาชิกกว่า 84 ประเทศจากทั่วโลก ได้มีมติกำหนดให้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันนักประดิษฐ์โลก (International invertor day) โดยจะมีการจัดงานวันนักประดิษฐ์โลกเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยจะจัดงานตั้งแต่วันที่ 2-5 กุมภาพันธุ์ 2551 งานครั้งนี้ประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับประดิษฐ์คิดค้นให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษยชาติด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว' เลขาธิการ วช.กล่าว


ด้านกระทรวงพาณิชย์ ที่กำหนดจะนำเสื้อสีชมพูตราตราสัญลักษณ์

พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มาวางจำหน่ายในวันที่ 13 พฤศจิกายน ปรากฏว่ามีเหตุต้องเลื่อนออกไป แต่เปิดให้ประชาชนสั่งจองแทน โดยนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จะเปิดให้สั่งจองตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. วันที่ 13 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ที่บริเวณศูนย์อาหารอู่ข้าวอู่น้ำ กระทรวงพาณิชย์ ถนนสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี และกำหนดให้มารับสินค้าตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนเป็นต้นไป

'เมื่อออกข่าวว่ากระทรวงพาณิชย์จะจัดทำเสื้อสีชมพู ปรากฏว่าประชาชนแสดงความสนใจและสอบถามรายละเอียดผ่านสายด่วน 1569 มากถึง 1,000 สายต่อวัน ตอนนี้กรมการค้าภายในได้ประสานไปยังผู้ผลิตผ้าเพื่อขอสินค้าในสต๊อค เพราะเกรงว่าสินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการประชาชน' นายยรรยงกล่าว

นายยรรยงกล่าวว่า สาเหตุที่กรมการค้าภายในออกจำหน่ายเสื้อชมพู เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในการซื้อเสื้อสีชมพู และป้องกันผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ขณะนี้กรมการค้าภายในได้ให้เจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมไว้แล้ว เพราะเชื่อว่าประชาชนจะแห่มาสั่งจองเป็นจำนวนมาก และไม่ให้เกิดความโกลาหลเหมือนเสื้อเหลืองอีก

อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า สำหรับราคาที่กระทรวงพาณิชย์ เปิดจำหน่ายมี 3 ประเภท คือ ผ้าคอตตอน 100% ราคา 250 บาท ผ้าฝ้ายผสม 65% ราคา 170 บาท และผ้าโพลีเอสเตอร์ ราคา 150 บาท

ด้าน น.ส.พิกุล ทักษิณวราจาร รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เดิมอธิบดีกรมการค้าภายในตั้งใจจะเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน แต่เมื่อประสานไปยังผู้ประกอบการพบว่ามีสินค้าในสต๊อคไม่เพียงพอความต้องการ จึงแก้ปัญหาโดยการให้เปิดจองไว้ก่อน แต่วันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ มีบริษัทหนึ่งได้แจ้งความต้องการจะเปิดขายเสื้อสีชมพู เฉพาะไซซ์ผู้หญิง 2,000 ตัวก่อน ซึ่งกรมการค้าภายในได้ประสานให้จำหน่ายที่กระทรวงพาณิชย์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสความต้องการเสื้อสีชมพูของประชาชน

 ทำให้โรงงานผลิตผ้าสีชมพูบางแห่งฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา โดยพ่อค้าตัดเย็บเสื้อผ้ารายเล็กรายหนึ่ง ย่านถนนจรัญสนิทวงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ผลิตเสื้อผ้าขนาดเล็กกำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากผ้าสีชมพูขาดตลาด ทางโรงงานอ้างว่าไม่สามารถผลิตป้อนได้ทัน และมีการรับคำสั่งซื้อล่วงหน้า รวมทั้งขอปรับเพิ่มราคาบ้างแล้ว หากต้องการวัตถุดิบตามที่ผู้ตัดเย็บต้องการ

นายสุกิจ คงปิยาจารย์ อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวถึงกรณีมีกระแสผ้าสีชมพูขาดตลาดว่า ที่มีการอ้างว่าวัตถุดิบขาดแคลนไม่น่าจะจริง แต่อาจเป็นเพราะผู้ผลิตไม่สามารถปรับเปลี่ยนการผลิตจากสินค้าที่รับคำสั่งซื้อไว้เดิม ซึ่งช่วงนี้เป็นการผลิตเพื่อป้อนการขายในเทศกาลปีใหม่และมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า

นายสุกิจกล่าวว่า การฟอกย้อมสีวันหนึ่งต่อ 1 เครื่องย้อม สามารถย้อมผ้าดิบเป็นสีชมพูได้ประมาณ 2,000 กิโลกรัม ซึ่งเสื้อ 1 โหลใช้ผ้า 3-4 กิโลกรัม เท่ากับ 1 วันผลิตได้ 3,600 ตัว/1 หม้อย้อม เพียง 10 วันก็สามารถผลิตได้เป็นแสนตัว

'เพียงโรงย้อมโรงเดียวก็สามารถผลิตได้เป็นแสนๆ แต่น่าจะขึ้นอยู่กับผู้ผลิตสำเร็จรูปที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนการผลิตจากสินค้าอื่นมาเป็นผลิตเสื้อชมพูอย่างเดียวได้ หรืออาจกังวลว่าเป็นกระแสความนิยมเพียงระยะเดียว เมื่อมีการแข่งขันผลิตออกมาวางจำหน่ายก็จะลดความนิยมลงเรื่อยๆ เหมือนเสื้อเหลืองที่กระแสความต้องการสูงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แต่หลังจากนั้นก็ลดลง จนขณะนี้มีขายกันอย่างแพร่หลาย' นายสุกิจกล่าว และว่า ไม่อาจระบุได้ว่ายอดความต้องการเสื้อสีชมพูจะเป็นเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าความนิยมไม่แพ้เสื้อเหลือง เพราะเป็นสินค้าทดแทนและประชาชนก็อยากเปลี่ยนจากเสื้อเหลืองมาเป็นเสื้อชมพูบ้างหลังจากที่ใส่มาตลอดปีแล้ว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์