หอมมะลิแพงหันซื้อข้าวถูกปรับตัวสู้วิกฤติ

ข้าวสารราคาพุ่งรายวันชาวบ้านเดือดร้อนหนัก หันไปกินข้าวราคาถูกแทน "หอมมะลิ" คนเชียงใหม่แห่กินก๋วยเตี๋ยว ขณะที่พาณิชย์เตรียมนำข้าวในสต็อกรัฐบาลบรรจุถุงขายราคาถูก บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน

สถานการณ์ราคาข้าวในประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดราคาขายปลีกข้าวขาวขยับจากถังละ220 บาท เป็นถังละ 325 บาทขณะที่ข้าวหอมมะลิพุ่งจากถังละ 340 บาท เป็นถังละ 420 บาทส่งผลให้ประชาชนบางส่วนต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจ โดยหันไปบริโภคข้าวที่มีราคาถูกแทนข้าวเกรดเอ
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

จากการสำรวจราคาข้าวสารในตลาดขายปลีกย่านตลาดนัมเบอร์วัน เขตประเวศ กทม. ทราบว่า พฤติกรรมการเลือกซื้อของลูกค้าเปลี่ยนไป โดยจะเดินสำรวจราคาข้าวตามร้านค้าปลีก เพื่อเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อ ทำให้ร้านค้าไม่กล้าขึ้นราคาให้เท่ากับจำนวนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จำใจยอมขาดทุนเพื่อรักษาลูกค้าประจำไว้ นอกจากนี้ ประชาชนบางส่วนหันไปซื้อข้าวหุงสำเร็จรูปแทนการซื้อข้าวสารไปหุงเอง ซึ่งช่วยประหยัดไฟฟ้า หรือแก๊สหุงต้ม
 

เจ้าของร้านขายข้าวหุงสำเร็จรูปรายหนึ่งกล่าวว่า 

ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ถึงแม้ราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ทุนต้นเพิ่มขึ้น แต่ทางร้านก็ยังคงขายข้าวในราคาเดิม คือ ข้าว 2 ถ้วย ราคา 6 บาท แต่ในอนาคตหากราคาข้าวยังคงปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง คงต้องขึ้นราคาตามกลไกตลาด แต่ยืนยันว่าจะไม่ลดปริมาณและคุณภาพข้าว ในส่วนของผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย จากเดิมที่เคยซื้อข้าวครั้งละ 15 กิโลกรัม ก็ลดลงเป็น 10 กิโลกรัม เนื่องจากข้าวราคาแพงขึ้น บางรายถึงกับยอมเปลี่ยนชนิดข้าว จากเดิมที่เคยบริโภคข้าวหอมมะลิเกรดเอ หันมาบริโภคข้าวที่มีคุณภาพรองลงมา เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
 

ส่วนที่จ.เชียงใหม่ พบว่า

ราคาขายปลีกข้าวหอมมะลิกิโลกรัมละ23 บาทจากเดิมกิโลกรัมละ 19-20 บาทส่วนข้าวเหนียวกิโลกรัมละ 19 บาทจากเดิมกิโลกรัมละ 16-17 บาททั้งนี้ จากการปรับราคาจำหน่ายข้าวสารสูงขึ้น และสินค้าเกือบทุกประเภทปรับราคาสูงขึ้น ทั้งน้ำมันพืชและเนื้อหมูชำแหละ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหนัก อย่างข้าวหอมมะลิ จากเดิม 1 กิโลกรัมบริโภคได้ครั้งละ 3-4 คนแต่ปัจจุบันบริโภคได้เพียง 2-3 คนเท่านั้นชาวบ้านได้แต่ทำใจยอมรับสภาพ เนื่องจากข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยที่ต้องบริโภค อย่างไรก็ตามเข้าใจถึงต้นทุนที่เกษตรกรต้องแบกรับ แต่หากราคาข้าวยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีก อาจหันไปบริโภคก๋วยเตี๋ยวแทนข้าวก็เป็นได้
 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.สุราษฎร์ธานีว่า 

ขณะนี้ข้าวสารปรับราคาสูงขึ้น จากเดิมข้าวสารที่นิยมของผู้บริโภคเป็นข้าวหอมมะลิเก่าขึ้นหม้อเกรดซี กระสอบละ 375 บาท(15 กิโลกรัม) ปัจจุบันปรับเป็นกระสอบละ390 บาทส่วนข้าวหอมมะลิใหม่ราคาถูกกว่าข้าวหอมมะลิเก่า เพราะข้าวใหม่จะนิ่มแต่หุงไม่ขึ้นหม้อ ทำให้ไม่เป็นที่นิยมมากนัก ที่สำคัญพ่อค้าแม่ค้าที่ขายข้าวแกงจะไม่นิยมซื้อ เพราะหุงได้น้อย จะหันไปหาข้าวสารที่ขนาดปานกลาง โดยเป็นข้าวเก่าผสมกับข้าวใหม่ตามสัดส่วนเพื่อต้องการลดต้นทุน
 

นายนทีทองคำ พ่อค้าขายข้าวสารรายหนึ่งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า 

ข้าวสารหอมมะลิมีราคาสูงกว่าข้าวชนิดอื่นและมีหลายเกรด จากเดิมข้าวแข็งจะขายได้ไม่ดีมากนัก เพราะลูกค้าที่บริโภคส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้แรงงาน และราคาไม่สูง เฉลี่ยกิโลกรัมละประมาณ 20 บาทแต่ปรากฏว่าปัจจุบันกลับขายได้ราคาดี โดยเฉพาะข้าวแข็งและหุงขึ้นหม้อทุกยี่ห้อขายดีมาก เพราะราคาถูกกว่าข้าวประเภทอื่น มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น รองลงมาเป็นข้าวมะลิท่อนที่หุงขึ้นหม้อเช่นกัน และเป็นข้าวเก่าราคาถูก กิโลกรัมละ 22-25 บาทแต่หากซื้อเป็นกระสอบราคาจะลดลงอีก นอกจากนี้ข้าวเล็บนกก็เป็นที่นิยมของคนภาคใต้ เพราะหุงขึ้นหม้อและราคาไม่แพง

"ข้าวที่ขายได้ค่อนข้างยาก ส่วนมากเป็นข้าวหอมมะลิใหม่ที่นิ่ม เพียงแต่หุงไม่ขึ้นหม้อ ต้องใช้ปริมาณมาก ไม่เหมือนที่ผ่านมาขายได้ดี ลูกค้าชอบ เพราะมีกลิ่นหอม แต่เมื่อข้าวสารปรับขึ้นราคาทำให้ขายได้ยากขึ้น มีเพียงลูกค้าบางกลุ่มเท่านั้นที่ยังซื้อบ้าง และลูกค้าบางส่วนก็นำไปผสมกับข้าวแข็ง" นายนที กล่าว
 

นายชัยรัตน์ตั่งสุจริต เจ้าของร้านรวมดี เลขที่ 241 ถนนโกสีย์ต.ปากน้ำโพอ.เมืองจ.นครสวรรค์กล่าวว่า 

เมื่อราคาข้าวเปลือกปรับขึ้นราคา ข้าวสารก็สูงตามไปด้วย วันนี้ข้าวขาวถังละ 325 บาทจากเดิมถัง 220 บาทแต่ลูกค้าไม่บ่นอะไร บอกว่าดี เพราะอย่างน้อยก็ทำให้ชาวนามีรายได้มากขึ้น ส่วนราคาข้าวขาวถุงแบ่งขาย 50 กิโลกรัมตกถุงละ 1,000 บาทจากเดิม 700 บาทขณะที่ข้าวหอมมะลิขายถังละ 420 บาทจากเดิมเพียง 340 บาทส่วนข้าวเหนียวก็เช่นเดียวกัน ปรับราคาขึ้นแต่ยังไม่มากนัก คาดว่าช่วงไตรมาส 2 จะมีการปรับราคาข้าวเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน
 

นางวาสนาอัศรานุรักษ์ เจ้าของท่าข้าวกำนันทรง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อ.เมืองจ.นครสวรรค์กล่าวว่า 

ที่ราคาข้าวสารปรับขึ้นถังละ 100 บาทมีสาเหตุหลักจากราคาข้าวเปลือกที่รับซื้อจากชาวนาสูงขึ้น ซึ่งเมื่อปี 2550 ราคาข้าวเปลือกอยู่ที่ราคาเกวียนละ5,000-6,000 บาทแต่ปีนี้ราคาเกวียนละ 9,000 บาทและสาเหตุจากจำนวนข้าวที่ไม่เพียงพอ เพราะประเทศไทยส่งออกมากขึ้น
 

ในส่วนการแก้ปัญหาของภาครัฐล่าสุด นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง เลขานุการ รมว.พาณิชย์กล่าวว่า 

หากราคาข้าวในประเทศมีราคาแพงจนสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน กระทรวงพาณิชย์จะนำข้าวในสต็อกรัฐบาลที่มีจำนวน 2.1 ล้านตันบางส่วนออกมาบรรจุถุงจำหน่ายให้ประชาชนในราคาถูก ซึ่งอาจจะมอบหมายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้ดำเนินการ เบื้องต้นจากการหารือรัฐบาลอาจจะต้องสำรองข้าวไว้เพื่อการบริโภคภายในอย่างน้อย 1 ล้านตันเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างตรวจสต็อกข้าวในโกดังทั้งหมดของรัฐบาล
 

นายสมฤกษ์ตั้งพิรุฬห์ธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า 

หากรัฐบาลจะนำข้าวในสต็อกที่มีอยู่ออกมาบรรจุถุงขาย และจำหน่ายแก่ประชาชนในราคาถูก ช่วงค่าครองชีพแพง สมาคมพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ และเห็นด้วยกับมาตรกรดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลควรเร่งดำเนินการเพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม หากเปรียบเทียบราคาข้าวสารที่อยู่ในสต็อกรัฐบาลขณะนี้ จะเห็นว่ามีราคาถูกกว่าราคาข้าวขาวในตลาดปัจจุบันมากถึง 60% จึงสามารถนำมาจำหน่ายให้ประชาชนในราคาถูกได้
 

ยอมรับว่าราคาข้าวสารบรรจุถุงเริ่มปรับราคาขึ้นบ้างจากถุง 5 กิโลกรัม 80 บาทเป็น 90 บาทเพราะราคาข้าวทั่วไปปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าประชาชนภายในเดือดร้อนรัฐต้องเลือกช่วยคนไทยก่อนที่จะช่วยผู้ส่งออก เพราะไทยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก แต่ถ้าประชาชนคนไทยต้องกินข้าวแพง ก็เป็นเรื่องไม่เหมาะสม นายสมฤกษ์ กล่าว 

ขณะที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ว่า 

กกร.เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 3 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการดูแลสินค้าปุ๋ย อนุกรรมการดูแลอาหารสัตว์ และอนุกรรมการดูแลน้ำมันพืช โดยจะมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคร่วมในคณะอนุกรรมการดังกล่าว เพื่อศึกษาต้นทุนที่แท้จริงของสินค้าทั้ง 3 รายการ ว่า สัดส่วนการนำเข้าวัตถุดิบทั้งในประเทศและต่างประเทศมีต้นทุนแท้จริงอย่างไร โดยต้องให้เสร็จภายใน 3 สัปดาห์


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์