หอการค้าต่างชาติขู่หนีประเทศไทย

นายนันดอร์ จีวอนเดอร์ลูเอ ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย เปิดเผยภายหลังหารือกับผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า หอการค้าฯต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและลดปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคมเพื่อร่วมกันหาแนวทางรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกลามทั่วโลกจะดีกว่า เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังสนใจเศรษฐกิจไทยเพราะมีพื้นฐานดี ดังนั้น นายกรัฐมนตรีต้องสร้างภาพพจน์แก่ประเทศใหม่เพื่อลบล้างภาพข่าวที่ออกสู่สาธารณชนทั่วโลกของการเมืองไทยและการปิดสนามบินจนนักลงทุนตื่นตระหนก


“นักลงทุนต่างชาติไม่เลือกข้างว่าพรรคการเมืองใดจะมาเป็นรัฐบาล ใครจะเป็นนายกฯคนใหม่ แต่ ที่ต้องการคือให้นายกฯคนใหม่สร้างเสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้คืนสู่ประเทศไทยโดยเร็ว เพราะยอมรับว่า 2-3 เดือน ที่ผ่านมา การเมืองเป็นปัญหาที่ขัดขวางการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย ซึ่งเชื่อว่าปัญหาภายในประเทศคงแก้ไขได้ง่ายกว่านอกประเทศ หากแก้ไม่ได้ก็คงไม่มีใครกล้าเข้ามาลงทุนในไทยอีกต่อไป”


นอกจากนี้ กรณีการปิดสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ มองว่าเป็นเรื่องเหลวไหลที่สุดเพราะไม่ได้เลวร้ายใดๆมากนักในสายตาของหอการค้าฯ เพราะสิ่งเหล่านี้นักลงทุนเข้าใจดี แต่คนที่เห็นจากสื่อต่างๆที่กระจายไปทั่วโลกคงยากจะเชื่อว่าไม่ได้เลวร้ายเหมือนคนที่พบเห็นด้วยตัวเอง ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับฝีมือรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะเร่งชี้แจงการปิดสนามบินได้อย่างไร และมีมาตรการใดมายืนยันว่าจะไม่มีการปิดสนามบินเกิดขึ้นอีกในอนาคต 

ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า เตรียมหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรฯ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่ลงทุนในไทย เบื้องต้นเน้นการให้สิทธิประโยชน์พิเศษทางภาษีเข้ามาช่วยเหลือ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ประสบปัญหาหนักหลังการปิดสนามบิน
 
ขณะเดียวกัน ต้นปีหน้าจะเร่งโรดโชว์ต่างประเทศเพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน โดยบีโอไอกำลังพิจารณามาตรการใหม่ในการดึงดูด เนื่องจากยอมรับว่านักลงทุนบางส่วนยังกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทย เบื้องต้นจะให้ความสำคัญนักลงทุนจากญี่ปุ่น ยุโรป สหรัฐฯ ไต้หวัน จีน ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และอินเดีย ซึ่งกลุ่มนี้นำโครงการขนาดใหญ่เข้ามาหารือกับบีโอไอทุกสัปดาห์ สำหรับในปี 52 บีโอไอตั้งเป้าการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 650,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีนี้เล็กน้อย. 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์