หน.เขาใหญ่ปัดไม่เหลียวกระทิงส่งจนท.ดูตลอด

แฉสุขภาพกระทิง 2 แม่ลูกย่ำแย่ มีปัญหาโภชนาการ ด้านหน.เขาใหญ่ปัดไม่เหลียวแลกระทิง มีจนท.ตามติด

วันนี้  17 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า    นายสัตวแพทย์ (น.สพ.) ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมอุทยาน ฯ ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เขาใหญ่ ที่ 2 ผากระดาษ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ. นครราชสีมา เพื่อตรวจสุขภาพของกระทิง 2 แม่ลูก แม่มะลิ และทองแดง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เขาใหญ่ ที่ 2 ผากระดาษ ได้นำอาหารมาล่อเพื่อให้กระทิงอยู่ในพื้นที่ของรีสอร์ท สำหรับดึงดูดนักท่องเที่ยว  ทั้งนี้ภายหลังปรากฎเป็นข่าวออกเจ้าหน้าที่ของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เขาใหญ่ ที่ 2 ผากระดาษ ได้ไปนำกระทิงกลับมาเลี้ยงไว้บริเวณหน่วยพิทักษ์ฯ
 
ทั้งนี้จากการสังเกตของผู้สื่อข่าว พบว่าพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เขาใหญ่ที่ 2 ผากระดาษฯ นั้นมีพื้นที่ติดกับอาณาเขตของรีสอร์ทเพียงถนนเส้นเล็กๆ กั้น

ทำให้กระทิง 2 แม่ลูก สามารถเดินไปมา ระหว่างพื้นที่ของอุทยานฯ และพื้นที่ของเอกชนได้อย่างสะดวก  โดย น.สพ.ภัทรพล  ได้นำยาผสมกล้วยให้กับกระทิง 2 แม่ลูก เพื่อให้ถ่ายพยาธิ และนำมูลของกระทิงทั้ง 2 ตัวไปตรวจสอบ  ทั้งนี้หลังการตรวจสอบ น.สพ. ภัทรพล  กล่าวว่า สุขภาพโดยรวมของกระทิงทั้ง 2 ตัวค่อนข้างดี แต่ยังกังวลเรื่องโภชนาการทั้งแม่และลูก เนื่องจาก แม่มะลิ อยู่ในระยะที่ต้องให้นม ดังนั้น เรื่องสารอาหารสำหรับแม่สัตว์ที่ต้องให้นมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เท่าที่ติดตามพบว่า กินแต่กล้วยกับหญ้า ซึ่งในกล้วยจะมีแร่ธาตุฟอสฟอรัสค่อนข้างสูง โดยสมดุลแล้วร่างกายสัตว์ ต้องการอัตราส่วนของแคลเซี่ยมกับฟอสฟอรัสที่สมดุลกัน เพื่อเสริมสร้างกระดูก ฟัน เขา และน้ำนมให้กับลูก ดังนั้นถ้าแม่สุขภาพไม่ดีก็ส่งผลต่อสุขภาพลูกได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังได้รับการบอกเล่าจากนักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ว่าแม่มะลิและลูกกินขยะ ซึ่งเป็นห่วงตรงนี้มาก ผลกระทบอาจทำให้ป่วยตายได้ จึงต้องเสนอแนวทางในการจัดการสุขภาพที่เหมาะสมต่อไป
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลานี้แม่มะลิผอมไปหรือไม่ และป่วยเป็นโรคอะไรบ้าง น.สพ.ภัทรพล กล่าวว่า หากเทียบกับกระทิงที่อยู่ในป่าแล้ว
  แม่มะลิน่าจะตัวโตและสมบูรณ์กว่านี้ อาจจะเป็นเพราะความหลากหลายของอาหารในป่ามีมากกว่า นอกจากผอมแล้ว สีขนยังจาง และหยาบ กีบเริ่มแตก แสดงให้เห็นว่าอยู่ในภาวะขาดสารอาหาร
 
“ตอนนี้แม่มะลิ และทองแดง ค่อนข้างจะติดกล้วยอย่างมากไม่ค่อยได้กินอาหารอย่างอื่น ทำให้มันขาดสารอาหาร เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก ดังนั้นการจัดการด้านสุขภาพของแม่ลูกคู่นี้จึงสำคัญอย่างยิ่ง วันนี้ได้ตรวจมูลแม่มะลิ พบพยาธิ และไข่พยาธิจำนวนมาก จึงให้ยาถ่ายพยาธิร่วมกับอาหารแล้ว”น.สพ.ภัทรพล กล่าว


ต่อมานายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้เดินทางมายังหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เขาใหญ่ที่ 2 ผากระดาษฯ และให้สัมภาษณ์

ยืนยันว่ากระทิงไม่ได้ถูกนำไปที่รีสอร์ท  เพราะกระทิงทั้ง 2 ตัวนี้ มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว  ส่วนกรณีที่มีการออกสื่อว่ารีสอร์ทสามารถเลี้ยงกระทิงได้นั้น ตนคิดว่าคงเป็นความไม่เข้าใจของเขามากกว่า สื่อไปแล้วจะถูกตีความอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันมากขึ้น และตนก็กำลังเตรียมจะไปหารือกับทางรีสอร์ทต่างๆ ที่อยู่รอบๆ เขาใหญ่ เพื่อให้ช่วยในการดูแลสัตว์ป่าที่ลงมาหากินตามแนวชายป่า ไม่ให้ถูกพรานและชาวบ้านล่า นอกจากนั้นทางอุทยานฯ กำลังเตรียมทำพื้นที่แหล่งอาหารให้สัตว์ประเภทกินหญ้าเพิ่มเติม โดยจะใช้อดีตสนามกอล์ฟบนอุทยานฯ เขาใหญ่ เป็นแหล่งอาหารมีการปลูกหญ้า สร้างแหล่งน้ำ และโป่งดินเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับอาหารของกระทิงไม่ได้กินเฉพาะหญ้าอย่างเดียว เพราะกระทิงเป็นสัตว์ที่มีคอสั้นทำให้ก้มกินหญ้าลำบาก กระทิงในธรรมชาติที่ตนพบนั้นกินทั้งเถาวัลย์ และพืชชนิดต่างๆ ในป่าเป็น 100 ชนิด
 
ขณะเดียวกันระหว่างที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ นายตะวัน ศรีกานิล ประธานกลุ่มรักษ์กระทิงเขาใหญ่ ได้มายื่นเอกสารหลักฐานเกี่ยวสถานการณ์ของกระทิงเขาใหญ่
 
และการล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ โดยนายตะวัน กล่าวว่า จากการติดตามตรวจสอบของกลุ่มรักษ์กระทิงเขาใหญ่ พบว่ากระทิงถูกล่อเข้าไปอยู่ในรีสอร์ทจริง ด้วยเหตุผลด้านผลประโยชน์ในเรื่องการท่องเที่ยว โดยก่อนหน้านี้กลุ่มรักษ์กระทิงฯ ได้เคยยื่นเข้าเสนอขอเลี้ยงกระทิง 2 แม่ลูก พร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดการต่างๆ ให้กับอุทยานฯ เพื่อต้องการให้สัตว์ป่าอยู่ในอุทยานฯ ต่อไป แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เท่าที่ควร ทั้งๆ ที่กลุ่มรักษ์กระทิงฯ ดูแลแม่มะลิมาตั้งแต่เริ่มต้นเมื่อได้ตัวมา 5 ปีที่แล้ว  อย่างไรก็ตามสิ่งที่กลุ่มรักษ์กระทิงฯ เป็นห่วงขณะนี้ก็คือการลักลอบล่าสัตว์ป่าบนอุทยานฯ เขาใหญ่ โดยเฉพาะกระทิง ในปี 2553 ที่ผ่านมา มีกระทิงถูกฆ่าตายกว่า 10 ตัว  และยังมีสัตว์อื่นๆ เช่น กวาง เก้ง และหมี เป็นต้น ถูกล่า ซึ่งกลุ่มกำลังติดตามว่าเป็นฝีมือชาวบ้านหรือผู้มีอิทธิพลจากพื้นที่อื่น เนื่องจากพบปลอกกระสุนปีนที่ใช้ล่าสัตว์มาจากปีนไรเฟิล  จึงอยากให้อุทยานฯ เขาใหญ่เข้มงวดและติดตามกลุ่มคนเหล่านี้มาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
 
               
ทั้งนี้นายตะวัน ยังได้นำภาพถ่ายของกระทิงที่ถูกสังหารหลายตัวรอบพื้นที่ๆ เขาใหญ่ มาแจกจ่ายให้กับผู้สื่อข่าวด้วย และในภาพมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ เขาใหญ่ ใช้รถเครนยกซากกระทิงเพื่อฝังกลบลงในหลุมด้วย


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์