ส่งตัวเข้าคุก สาวเจ้าของบ.แชร์รถเช่าตร.จับเพิ่มอีก

พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี

นำตัวเจ้าของบริษัทยูฟูกุฝากขังศาลผัดแรก พร้อมคัดค้านประกันตัวเจ้าตัวสารภาพเห็นพวกทำแล้วรวย เลยอยากทำบ้าง ก่อนถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 คุมตัวผู้ต้องสงสัยร่วมขบวนการแชร์รถเช่าไว้อีกราย ถูกซ้อนแผนเอารถผู้เสียหายไปส่งขายสายตำรวจ  


ความคืบหน้าหลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
 
กก.สส.บก.น.3 ร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองน่าน จับกุมตัวนางฐิติรัตน์หรือกิ่ง สีมุก อายุ 33 ปี เจ้าของบริษัทณัฐพันธ์ เทรฟเวล จำกัด และบริษัทยูฟูกุ ดีคอเรท จำกัด ย่านมีนบุรี กทม. ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน กรณีแชร์รถเช่า ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี เลขที่ 311/2551 ลงวันที่ 15 ก.พ.51 จับกุมผู้ต้องหาได้ที่สวนลำไย บ้านดู่ใต้ ต.ดู่ใต้ อ.เมืองน่าน พร้อมหลักฐานสำคัญเป็นเอกสารเกี่ยวข้องกับคดีหลายรายการ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา นำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ กทม.
  

ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 23 ก.พ.

พ.ต.อ.นักรบ สุดใจ รอง ผบก.น.3 พร้อมพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เจ้าของคดีนำตัวนางฐิติรัตน์มาสอบปากคำ โดยใช้เวลานานกว่า 5 ชม. เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าเห็นพวกทำแล้วรวยจึงอยากทำบ้าง โดยมีนางณัฐนรินทร์ มูฮัมหมัด อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 270/51 ลงวันที่ 11 ก.พ.51 เป็นผู้แนะนำ ขณะเดียวกัน ฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี นำหมายศาลไปค้นบ้านของนางฐิติรัตน์ เลขที่ 10 ซอยรามอินทรา 117 แยก 14 แขวงและเขตมีนบุรี พบทะเบียนป้ายแดงและป้ายขาวดำจำนวนมาก สมุดบัญชีเงินฝากอีกหลายเล่ม จึงเก็บรวบรวมไว้ประกอบสำนวนคดี 


จากนั้น เวลา 12.30 น.
 
พ.ต.ต.ถาวร สายมณี พงส. (สบ 1) สน.มีนบุรี นำตัวนางฐิติรัตน์ไปขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรีฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน คำร้องระบุว่า เนื่องจากการสอบปากคำพยานไม่เสร็จสิ้นและยังต้องรอผลตรวจประวัติ จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากมีผู้เสียหาย รวมถึงมูลค่า ความเสียหายจำนวนมาก และไม่ขอรับตัวผู้ต้องหากลับไปควบคุมตัวที่ สน.มีนบุรี ศาลพิจารณาแล้วเห็นตามพนักงานสอบสวน ส่งตัวผู้ต้องหาไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี 


บ่ายวันเดียวกัน

ที่ บช.น.พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 แถลงข่าว เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.2 จับกุมตัว น.ส.จันทรัตน์ กุลทรัพย์เตชิต หรือแอน หรือทิพย์วัลย์ รัตนวงศ์ หรือวนิดา รัตนวงศ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/17 หมู่บ้านสวนเนรมิตร ซอยเพิ่มสิน 49 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. พร้อมของกลางปืน ขนาด 6.35 ทะเบียน กท.5013839 กระสุน 6.35 จำนวน 14 นัด ปืนคิงคอบร้า .22 แม็กนั่ม 1 กระบอก กระสุน 10 นัด รถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง ป้ายแดง ษ-7096 กรุงเทพมหานคร รถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ป้ายแดง ง-5223 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ชฟ 5617 กรุงเทพมหานคร กล่าวหาว่ามีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทำหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้มีชื่อในทะเบียนบ้านและแจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตรประชาชน ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี เลขที่ 1224/2550 ลงวันที่ 22 มิ.ย.2550

 

พฤติการณ์คือ เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.2 รับแจ้งจากสายลับว่า

สามารถติดต่อซื้อรถยนต์จากผู้ต้องหาได้ในราคาถูก และ น.ส.จันทรัตน์อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการแชร์รถเช่า จึงวางแผนล่อซื้อรถยนต์โตโยต้า วีออส ในราคาคันละ 135,000 บาท นัดส่งรถที่ห้างโลตัส เอ็กซเพรส สาขาวัชรพล เวลา 14.00 น. วันที่ 22 ก.พ. เมื่อถึงเวลานัด น.ส.จันทรัตน์ให้นายกมล แขวงโสภา ขับรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ป้ายแดง ง-5223 กรุงเทพมหานคร ไปยังที่หมาย โดย น.ส.จันทรัตน์ขับรถยนต์โตโยต้า วีออส อีกคันติดตามไป แต่นายกมลไหว ตัวขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงคุมตัว น.ส.จันทรัตน์ และขอหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรี ไปค้นบ้านที่หมู่บ้านสวนเนรมิตร พบนายกมลซ่อนตัวอยู่ในบ้าน พร้อมของกลางต่างๆ โดยเฉพาะรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน คันที่นายกมลขับไปนั้น แจ้งหายไว้ที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 12 ก.พ. โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ วงษ์แก้ว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/9 ต.สระสี่เหลี่ยม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เป็นผู้ครอบครอง ผู้ถือกรรมสิทธิ์คือบริษัทไทยพาณิชย์ ลิสซิ่ง จำกัด   


นายพงษ์ศักดิ์ วงษ์แก้ว ซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง เปิดเผยว่า
 
นำรถคันดังกล่าว พร้อมรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง กระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู โฟร์วีล และ กระบะโตโยต้า วีโก้ รุ่นแค็บ ป้ายแดงทั้งหมด ไปให้บริษัทยูฟูกุ ดีคอเรท จำกัด เช่าในราคาวันที่ 1,100 บาท ตั้งแต่ วันที่ 15 ธ.ค.ปีที่แล้ว ก่อนที่รถทั้งหมดจะหายไป กระทั่งติดตามคืนมาได้ 1 คัน ดังกล่าว   


ขณะที่ น.ส.จันทรัตน์อ้างว่า
 
รถคันดังกล่าวรับจำนำมาจากนายนิยม ไม่ทราบนามสกุล อยู่ในย่านมีนบุรี เบื้องต้นนำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.สายไหม ดำเนินคดี ผู้ใดสงสัยว่าเคยถูกหลอกลวงจากผู้ต้องหารายนี้ ให้ติดต่อดูตัวที่ สน.สายไหม  


เมื่อเวลา 16.00 น. น.ส.อรวีณา ปาระจิตต์ อายุ 63 ปี

พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผกก. ศสส.บช.น. ไปที่ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 164/388 หมู่ 2 หมู่บ้านพิชาดา ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังจากมีพลเมืองดีแจ้งว่า พบรถโตโยต้า คัมรี่ สีดำ ทะเบียน ษม 1067 กรุงเทพมหานคร ของ น.ส.อรวีณา ซึ่งนำไปให้นางณัฐนรินทร์ มูฮัมหมัด ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 270/51 ลงวันที่ 11 ก.พ. 51 เช่าแล้วหายไปตั้งแต่ปลายปี 50 โดยพบรถคันดังกล่าวถูกคลุมไว้ด้วยผ้าคลุมรถ เมื่อ น.ส.อรวีณาทดลองใช้รีโมตเปิดกุญแจรถก็สามารถเปิดได้ จึงประสานไปยัง พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย พวงสมบัติ ผกก.สภ.บางบัวทอง สั่งการให้ พ.ต.ท.ปรีชา นิสัยสม สว.สป. และ พ.ต.ท.พันธมิตร แจ้งประเสริฐ พงส. (สบ 2) เดินทางไปตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจรอจนกระทั่งค่ำมีนายพิษณุ เอี่ยมแย้ม อายุ 21 ปี กลับมาที่ทาวน์เฮาส์หลังดังกล่าว เมื่อเข้าไปดูรถพบว่าหมายเลขตัวถัง และหมายเลขเครื่องตรงกับรถของ น.ส.อรวีณา  

จากการสอบถามนายพิษณุให้การว่า

บ้านหลังดังกล่าวเป็นของนายภาณุพงศ์ สระคู อายุ 50 ปี พ่อตา ทำงานอยู่ที่การไฟฟ้านครหลวง ส่วนรถคันดังกล่าวเป็นของนายยักษ์ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เพื่อนของ น.ส. สุพัตรา สระคู น้องสาวของภรรยานางอรประภา เอี่ยมแย้ม โดยนายยักษ์นำมาจอดไว้ 3 วันแล้ว จึงแจ้งขออายัดรถนำไปจอดไว้ที่ สภ.บางบัวทอง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์