สุวรรณภูมิมึน คนแห่ ปิกนิก

แม้การท่าอากาศยานเคยขอร้องให้ประชาชนที่จะเข้ามาเที่ยวชมสนามบินสุวรรณภูมิ


ในช่วงนี้ให้ชะลอการมาไว้ก่อน เพราะทำให้เกิดปัญหาการให้บริการต่างๆ อาทิ ร้านอาหาร ห้องน้ำ ไม่พอรองรับ และกลายเป็นปัญหาให้กับผู้มาใช้บริการสนามบินตัวจริง

แต่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดวันหยุดสัปดาห์ โดยเฉพาะวันที่ 8 ต.ค.ที่อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ กลับเนื่องแน่นไปด้วยประชาชนที่พากันหอบลูกจูงหลานมาเที่ยวชมสนามบินกันอย่างคึกคัก หนำซ้ำยังปล่อยให้เด็กๆที่พามา วิ่งเล่น ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ราวกับสนามบินเป็นสวนสาธารณะก็ไม่ปาน ซึ่งเมื่อรวมกับจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ยิ่งทำให้สนามบินสุวรรณภูมิเนืองแน่น ไปด้วยผู้คน และบริการร้านอาหารและห้องน้ำไม่เพียงพอรองรับเช่นเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฉพาะบริเวณจุดนัดพบ และพื้นที่โซนร้านอาหารบนชั้น 3 มีคนเข้ามาใช้บริการกันแน่นมาก


มีคนยืนรอคิวเข้าใช้บริการจนแน่นหน้าร้าน หลายคนหันไปใช้บริการร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ในทุกชั้นของอาคารผู้โดยสาร และราคาค่าบริการก็เท่ากับร้านสะดวกซื้อทั่วไป สินค้าจำพวกเครื่องดื่ม กาแฟ และบะหมี่สำเร็จรูปแบบถ้วย กลายเป็นสินค้ายอดนิยม มีคนมาหาซื้อกันอย่างต่อเนื่อง จนพนักงานต้องนำสินค้าขึ้นวางบนชั้นตลอดเวลา

ขณะที่ห้องน้ำซึ่งมีจำนวนน้อยและเป็นปัญหามาตลอด ก็ยังคงเป็นปัญหาต่อไป

โดยบางห้องมีคนยืนรอคิวแถวยาวล้นออกมานอกห้องน้ำ และห้องน้ำบางห้องก็ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงเนื่องจากคนเข้าไปใช้กันตลอดวัน จนแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดไม่ทัน

นอกจากนี้ ที่บริเวณถนนทางเข้าสนามบิน


โดยเฉพาะเส้นที่มาจากถนนบางนา-ตราด ซึ่งถนนมีความยาวขนานไปกับรันเวย์สนามบิน ก็ยังเป็นอีกจุดที่คนให้ความสนใจ ขับรถเข้ามาจอดชมวิวสนามบินและการขึ้น-ลงของเครื่องบินกันอย่างคึกคัก เนื่องจากพื้นที่อยู่ใกล้รันเวย์มากจึงมองเห็นได้ชัดเจน

โดยเฉพาะช่วงเย็นถึงค่ำ มีจอดรถบนไหล่ทางกินระยะทางยาวเหยียดหลายกิโลเมตร

สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้สัญจรที่จะเข้าสนามบินต้องขับรถด้วยความระมัดระวังมากขึ้น แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยาน ออกมาดูแลเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน จากการสำรวจตลอดแนวเส้นทางเข้าสนามบิน


ยังพบว่าบางช่วงพวกที่นำรถมาจอดดูเครื่องบินขึ้น-ลง ยังพัฒนาจากที่เคยนั่งชมอยู่แต่ในรถ บางรายนำข้าวปลาอาหาร เก้าอี้ และเสื่อมาปูนั่งข้างทาง ปักหลักนั่งดูกันเป็นเรื่องเป็นราว บางครอบครัวขนกันมาเต็มคันรถนับสิบคน และล้อมวงจกข้าวเหนียวจิ้มส้มตำ แกล้มเบียร์ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ซึ่งจากการสอบถามได้ความว่า ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใน จ.สมุทรปราการ

และเห็นว่าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงขนลูกหลานมาเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการชมเครื่องบินข้างสนามบินสุวรรณภูมิ

นอกจากนี้ บริเวณคูน้ำข้างสนามบิน ซึ่งมีผักบุ้งนา ดอกโสน ขึ้นอยู่หนาแน่น รวมถึงมีหอยเชอรี่ และปูนา เป็นจำนวนมาก ก็มีชาวบ้านที่มาออกไปเดินเก็บผักใส่ถุงกลับบ้าน เพื่อนำไปทำอาหารด้วย

สำหรับปัญหากระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารตกค้างที่มีกว่า 6,000 ใบ


เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ผู้บริหารการท่าอากาศยานเข้ามาคลี่คลายไปได้มากแล้ว แต่ในวันที่ 8 ต.ค. ก็ยังเกิดกระเป๋าของผู้โดยสารการบินไทยตกค้างที่ท่าอากาศยานอีกกว่า 40 ใบ

โดยนายโชคชัย ปัญญายงค์ ผู้จัดการฝ่ายบริการภาคพื้นและอุปกรณ์ลานจอดอากาศยาน บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า

เมื่อช่วงเช้า มีปัญหากระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารตกค้างกว่า 40 ใบ สำหรับเส้นทางผู้โดยสารขาออก เส้นทางยุโรปจำนวน 2 เที่ยวบิน แต่สาเหตุที่ล่าช้าไม่ได้เกิดเหตุจากระบบไอทีของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

เหมือนกับเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่เกิดปัญหากระเป๋าของหลายสายการบินตกค้างหลายพันใบ แต่ที่เกิดเหตุในวันนี้ เป็นเพราะเครื่องบินของการบินไทย ที่บินมาจากต้นทางที่ประเทศอื่นออกมา

จากประเทศนั้นๆล่าช้า และเมื่อมาแวะรับผู้โดยสารที่ต่อเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


ทำให้มีเวลาเปลี่ยนถ่ายกระเป๋าสั้นมาก จนทำให้กระเป๋าตกเครื่อง แต่การบินไทยได้จัดการส่งกระเป๋าตามไปให้เจ้าของเรียบร้อยแล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เกิดจากระบบสายพานลำเลียงมีปัญหาในเบื้องต้น จากการที่ใช้ระบบ ฟูล ออโตเมชั่น แต่เมื่อเกิดปัญหา ก็สามารถเปลี่ยนระบบมาใช้เซมิ ออโตเมชั่น ซึ่งเป็นการใช้ระบบอัตโนมัติร่วมกับการคัดแยกกระเป๋า โดยเจ้าหน้าที่ของการบินไทยได้ ซึ่งสามารถใช้ได้ทันที เพราะเจ้าหน้าที่มีความชำนาญ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการให้บริการกับผู้โดยสารของสายการบินไทยในวันที่ 8 ต.ค. ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งการใช้ระบบเซมิ ออโตเมชั่น ก็ใช้พนักงานคีย์ข้อมูลตอนเช็กอินผู้โดยสารแทนการคีย์ข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และใช้กำลังทหารช่วยคัดแยกกระเป๋าไปตามระบบสายพานลำเลียง นายโชคชัยกล่าว

สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาวนั้นในวันที่ 9 ต.ค.


จะประชุมคณะทำงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะยาว ซึ่งมั่นใจว่าระบบทุกอย่างจะมีความพร้อมในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ตามที่ตั้งเป้าไว้อย่างแน่นอน และจะมีการประชุมคณะกรรมการอีกครั้งเพื่อพิจารณาการพัฒนาและปรับระบบซอฟต์แวร์ คอมพิวเตอร์ ที่ใช้ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับที่สายการบินต่างๆได้ใช้อยู่ในปัจจุบันเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น

นายโชคชัยกล่าวด้วยว่า


ก่อนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเปิดให้บริการในวันที่ 28 ก.ย. 2549 การบินไทยได้จัดทำแผนการประเมินความผิดพลาดที่อาจจะเกิดจากการให้บริการ ณ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไว้ที่ร้อยละ 0.6 เท่านั้น แต่หลังการบินไทยเปิดให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจนถึงปัจจุบันพบว่ามีปัญหา และเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้ร้อยละของความผิดพลาดสูงถึงร้อยละ 10

ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารตกค้าง

ที่ผ่านมายังมีเที่ยวบินล่าช้า ระบบคอมพิวเตอร์เช็กอินไม่ทำงาน และผู้โดยสารตกเครื่อง รวมถึงเหตุผลอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อการบินไทยด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายในการชดเชยแก่ผู้โดยสารที่ส่งกระเป๋าล่าช้า ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ถึง 3 ล้านบาทแน่นอน

นายโชคชัยกล่าว


อย่างไรก็ตาม แนวทางแก้ไขปัญหา บริษัทการบินไทยได้ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องวันต่อวัน เพื่อประเมินถึงภาพรวมการเปิดให้บริการ และสถานการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ หากมีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น เช่น ระบบคอมพิวเตอร์เช็กอินไม่ทำงาน หรือสายพานลำเลียงกระเป๋ามีปัญหา การบินไทยจะแก้ไขโดยใช้ เจ้าหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนไปก่อน

ในขณะที่ได้ รับการยืนยันจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ว่า ระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าจะใช้ได้ตามปกติในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 9 ต.ค.




แหล่งที่มา:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์