สืบพยานคดี พี ปรเมศวร์ ยิงหุ้นส่วนดับ

สืบพยานคดี พี ปรเมศวร์ ยิงหุ้นส่วนดับ

ที่ห้องพิจารณา 505 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง 63 เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีดำ อ.3443/2556 ที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 1  เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายปรเมศวร์ หรือพี สิงห์โพธิ์  อายุ 33 ปี อดีตนักแสดงประกอบช่อง 3  เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนของผู้อื่นที่ได้รับอนุญาตไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้าน

โดยฟ้องโจทก์ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.56 เวลา 05.00 น. จำเลยได้ใช้อาวุธปืนของบุคคลอื่นซึ่งได้รับใบอนุญาต และเครื่องกระสุนปืน โดยพกพาไปในเมือง หรือหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ใช้ก่อเหตุยิงนายนพปฎล อธิบาย หรือเอปาน อายุ 44ปี หุ้นส่วนสถานบันเทิงชื่อดัง “ MUSE ” ที่ศีรษะ กระสุนเข้าที่หว่างคิ้วซ้าย ทะลุไปยังสมองซีกซ้าย เป็นเหตุให้นายนพปฎลเสียชีวิต เหตุเกิดที่ลานจอดรถอาคารเอท (8) ทองหล่อ ปากซอยทองหล่อ 8 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.ขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย ซึ่งในชั้นสอบคำให้การ จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหาพกพาอาวุธ ฯ รวม 3 ข้อหา แต่ให้การปฏิเสธต่อสู้คดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายฯ  โดยอ้างเหตุบันดาลโทสะ

ในวันนี้ พี ปรเมศวร์ เดินทางมาพร้อมกับ นายเอกรัฐ ฐปนานนท์  ทนายความ โดยอัยการโจทก์ได้แถลงระบุบัญชีพยานที่จะนำสืบรวม 18 ปาก  ขณะที่นางทองใบ ไพรสน มารดาของนายนพปฎล  ผู้ตาย ได้ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมด้วย ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต โดยทนายความโจทก์ร่วมแถลงขอนำสืบพยาน 4 ปาก  รวมพยานฝ่ายโจทก์ 22 ปาก  ส่วนทนายจำเลยได้ระบุบัญชีพยานเพียงปากเดียวคือตัวจำเลยเอง ศาลจึงนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก  ในวันที่ 4 มี.ค. 2557  เวลา 09.00 น.  และให้นัดสืบพยานจำเลย 1 นัด ในวันที่ 25มี.ค. 2557 เวลา 09.00 น. 

ด้าน นายเอกรัฐ ทนายความจำเลย  เปิดเผยว่า  จำเลยนำสืบพยานเพียงปากเดียว เพราะยังติดใจประเด็นเจตนาของจำเลย ที่กระทำไปเพราะเกิดบันดาลโทสะ โดยเมื่อวันที่ 23 ส.ค.  จำเลยได้นำเงินสด 2 แสนบาท ไปวางไว้เป็นหลักประกันที่ศาล เพื่อที่จะใช้เป็นค่าเยียวยาผู้เสียหาย ขณะนี้กำลังหาเงินสดไปวางเพิ่มอีก เพื่อให้ได้เงิน 8 แสนบาท ใช้เยียวยาให้กับผู้เสียหายต่อไป ส่วนญาติของผู้ตายจะยอมรับเงินเยียวยาหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราไม่ได้หวังผลทางคดี ส่วนการที่มารดาของผู้ตายเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมคดีอาญาด้วยนั้นไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายแต่อย่างใด.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์