สินค้าปศุสัตว์แนวโน้มส่งออกสูง เร่งแก้ปัญหาต้นทุนอาหาร

นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงนโยบายการส่งเสริมสินค้าปศุสัตว์ของไทยปี 2554 ว่า

ปัจจุบันสินค้าปศุสัตว์ของไทยมีแนวโน้มการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นตามความต้องบริโภคสินค้าอาหารที่เพิ่มขึ้น คาดว่าอัตราการผลิตในสาขาปศุสัตว์ของประเทศไทยปี 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 - 3.5 เมื่อเทียบกับปี 2552 และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมไก่เนื้อที่ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเปิดตลาดส่งออกเนื้อไก่สดแช่แข็งไปยังประเทศรัสเซียอัฟริกาใต้ มาเลเซีย และบาร์เรน ขณะเดียวกันประเทศญี่ปุ่นกำลังพิจารณาอนุมัติให้ประเทศไทยส่งออกเนื้อไก่สดแช่แข็ง ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณและมูลค่าการส่งออกไก่เนื้อสดแช่แข็งเพิ่มสูงขึ้น และไม่เพียงสินค้าปศุสัตว์ในกลุ่มของไก่ที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่รวมถึงสินค้าปศุสัตว์ประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น สุกร โคเนื้อ และโคนม ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรชี้ว่า ดัชนีราคาสินค้าเกษตรในภาพรวมจะสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แม้ราคาสินค้าเกษตรจะมีอัตราแนวโน้มที่สูงขึ้น แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อเสถียรภาพของสินค้าเกษตรในปัจจุบัน โดยเฉพาะภาคปศุสัตว์ คือต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ที่ยังต้องพึ่งพาการนำเข้ากว่าปีละ3-4 พันล้านบาท

กระทรวงเกษตรฯได้มีนโยบายส่งเสริมการลดต้นทุนให้เกษตรกร ทั้งโครงการจัดระบบการปลูกข้าวเพื่อเพิ่มพื้นที่การปลูกพืชหลังนา ซึ่งจะเป็นกลุ่มพืชอาหารสัตว์ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง ก็จะช่วยให้ไทยลดการนำเข้าอาหารสัตว์จากต่างประเทศได้มากขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ของเกษตรกรลดลง รวมถึงโครงการลดต้นทุนการผลิตโดยนำร่องใน 3 พืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง โดยใช้งบประมาณกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ขณะนี้กำลังดำเนินการ อีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการแข่งขันสินค้าปศุสัตว์ของไทยคือโรคระบาดสัตว์และข้อกีดกันทางการค้า ที่หลายประเทศนำเรื่องก๊าซมีเทนที่เกิดจากภาคปศุสัตว์ส่งผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อนเป็นข้อกำหนดการนำเข้า ซึ่งกระทรวงเกษตรฯได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาวิจัยข้อมูลดังกล่าวให้เกิดความชัดเจน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการเจรจาทางการค้าต่อไปในอนาคต


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์