สำรองอีกองค์ท้าวมหาพรหมเผื่อเหตุการณ์ซ้ำรอย

สำรองอีกองค์ท้าวมหาพรหมเผื่อเหตุการณ์ซ้ำรอย / คมชัดลึก

เทวรูปองค์ท้าวมหาพรหมเสร็จสมบูรณ์ แห่จากช่างสิบหมู่ประดิษฐาน รร.เอราวัณ อธิบดีกรมศิลป์เผย บูรณะจากชิ้นส่วนเดิม หล่อผสมกับปูนหินเขียวจากนอก เพิ่มความแข็งแรง พร้อมทำองค์นวโลหะสำรองไว้ ป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย


เป็นเวลานาน 2 เดือนพอดี ตั้งแต่องค์ท้าวมหาพรหมหน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ กทม. ถูกนายธนากร ภักดีผล อายุ 26 ปี หนุ่มสติเฟื่องใช้ค้อนทุบจนเสียหาย เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดกองช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้ดำเนินการบูรณะซ่อมแซมจนแล้วเสร็จ เตรียมแห่กลับไปประดิษฐาน ณ เทวาลัยเดิมในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้

นายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า องค์ท้าวมหาพรหมที่บูรณะขึ้นใหม่มีด้วยกัน 2 องค์ องค์แรกเป็นองค์ที่ทำขึ้นจากปูนเขียว หรือปลาสเตอร์หิน มีความแข็งแรงทนทานกว่าปูนปลาสเตอร์ธรรมดา ซึ่งจะนำไปประดิษฐานที่หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ส่วนอีกองค์เป็นองค์นวโลหะ หรือโลหะมงคลที่ดีที่สุด โดยใช้แบบหล่อองค์เดียวกันและสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน แต่องค์นวโลหะจะเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ กรมศิลปากร เผื่อในอนาคตมีเหตุอะไรจะได้มีองค์โลหะอีกองค์หนึ่ง

"ช่างได้นำชิ้นส่วนเดิมขององค์ท้าวมหาพรหมทุกชิ้นมาบูรณะใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเศษเล็กเศษน้อย นำมาหลอมรวมกับปูนใหม่ แล้วหล่อเข้าไปในองค์ท่าน ส่วนที่ไม่ได้แตกหักเสียหายก็จะนำมาเชื่อมกับส่วนที่สร้างใหม่ โดยใช้ข้อต่อทองเหลืองเป็นตัวเชื่อม ซึ่งวัสดุทั้งหมดทำขึ้นในไทย ยกเว้นปูนปลาสเตอร์หินเท่านั้นที่สั่งจากต่างประเทศ" นายอารักษ์ กล่าว

ขบวนแห่องค์ท้าวมหาพรหมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 07.29 น. ออกจากสำนักช่างสิบหมู่ จ.นครปฐม จากนั้นจะแวะไปที่ศาลหลักเมืองและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม อธิบดีกรมศิลปากรอธิบายว่า เนื่องจากทั้งสองแห่งเป็นสถานที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น จึงต้องแจ้งให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทราบก่อนว่า ขณะนี้ องค์ท้าวมหาพรหมได้กลับมาแล้ว จากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปยังโบสถ์พราหมณ์ ทำพิธีเทวาภิเษก หรือปลุกเสกองค์ท้าวมหาพรหม ก่อนจะเข้าประดิษฐาน ณ เทวาลัยหน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เวลา 11.39 น. ซึ่งเป็นฤกษ์ที่พราหมณ์แจ้งว่าเป็นช่วงเวลาที่พระพรหมจะลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อดลบันดาลให้สิ่งที่ขอเป็นจริง ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด

"เชื่อว่าองค์ท้าวมหาพรหมที่บูรณะขึ้นใหม่นี้ จะเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชนเหมือนเดิม เพราะได้นำชิ้นส่วนเดิมบรรจุลงไปด้วย ประกอบกับช่างได้สร้างตามแบบฉบับเดิมทุกประการ และฤกษ์ในการทำพิธีเป็นฤกษ์ที่ดีที่สุด" นายอารักษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์ท้าวมหาพรหมที่บูรณะขึ้นมาใหม่ ที่จะประดิษฐาน ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ใช้แบบหล่อเดียวกับองค์นวโลหะที่ทำขึ้นมาตั้งแต่ครั้งแรก แต่เปลี่ยนจากการใช้นวโลหะมาเป็นปูนปลาสเตอร์หินแทน เนื่องจากโลหะกับปลาสเตอร์หินเข้ากันไม่ได้ และชิ้นส่วนขององค์เดิมที่สมบูรณ์ยังคงมีอยู่ จึงนำมาเชื่อมติดกัน โดยใช้สเตนเลสขนาด 1 นิ้ว เป็นแกนกลาง ส่วนข้อต่อต่างๆ ใช้ทองเหลืองจากประเทศสวีเดน ที่มีความแข็งแรงทนทาน ขนาด 1 หุน เป็นตัวยึด โดยใช้เวลาทำตรงส่วนนี้ประมาณ 1 เดือน

ส่วนลวดลายผ้านุ่ง เป็นลายดอก 4 กลีบ ที่ช่างสิบหมู่ต้องทำขึ้นมาใหม่เกือบทั้งหมด เพราะลายเดิมเลือนหายไปเกือบหมด จากการบูรณะลงรักปิดทองมาอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลานานเกือบสัปดาห์ก่อนจะนำองค์ท้าวมหาพรหมไปลงรักปิดทอง ซึ่งในขั้นตอนนี้ช่างสิบหมู่ต้องใช้เวลาในการขัดและลงรักทับถึง 9 ครั้ง จึงออกมาสวยงาม และต้องใช้ทองคำเปลว 100% ทั้งสิ้น 5,000 แผ่น จึงจะปิดองค์ท้าวมหาพรหมได้อย่างสมบูรณ์

ในส่วนขององค์ท้าวมหาพรหมนวโลหะอีกองค์ที่หล่อขึ้นพร้อมกันนั้น เป็นการนำโลหะมงคล 9 ชนิด มาหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งโลหะทั้ง 9 ชนิด ได้แก่ เหล็ก ปรอท ทองแดง เงิน ทองคำ เจ้า (หรือคำเต็ม "เจ้าเงิน" เป็นแร่ชนิดหนึ่งสีเขียวเกือบเป็นสีน้ำเงิน) สังกะสี ชิน (โลหะเจือชนิดหนึ่ง ประกอบด้วย ตะกั่ว และดีบุก นิยมใช้ทำพระเครื่อง) และทองแดงบริสุทธิ์ ซึ่งนวโลหะเป็นแร่มงคลที่ใช้หล่อพระอยู่แล้ว เพราะมีความแข็งแรง หากเกิดเหตุลักษณะนี้อีกก็ไม่จำเป็นต้องซ่อมแซมมาก ทว่าองค์นวโลหะนี้จะตั้งไว้ที่พิพิธภัณฑ์ของกรมศิลปากร เพื่อเป็นองค์สำรองหากเกิดองค์ปัจจุบันชำรุดเสียหาย หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นอีก

เจ้าหน้าที่ช่างสิบหมู่ผู้ทำหน้าที่บูรณะซ่อมแซมองค์ท้าวมหาพรหมมาตั้งแต่แรก บอกว่า ที่ผ่านมาได้ซ่อมแซมวัตถุโบราณมามากมาย แต่ไม่มีครั้งไหนที่ใช้เวลาน้อยขนาดนี้ เพราะกรมศิลปากรกำหนดระยะเวลาในการซ่อมแซมเพียง 2 เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ก็สามารถบูรณะได้ทัน 2 เดือนพอดี โดยรับงานเมื่อวันที่ 22 มีนาคม บูรณะเสร็จวันที่ 21 พฤษภาคมพอดี และการทำงานที่ผ่านมาก็ราบรื่นมาก ไม่มีอุปสรรคเลย สิ่งที่ยากที่สุดของงานชิ้นนี้ คือ การบูรณะอย่างไรให้ประชาชนที่เคยกราบไหว้บูชามานานนับครึ่งศตวรรษยังรู้สึกเลื่อมใสศรัทธา และรู้สึกว่ายังเป็นท้าวมหาพรหมองค์เดิม

องค์ท้าวมหาพรหมสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2498 บริษัทสหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด ที่มี พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เป็นประธานกรรมการ ได้เริ่มก่อสร้างโรงแรมเอราวัณขึ้น แล้วไปติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ เพื่อหาฤกษ์วันเปิดดำเนินกิจการ ได้คำแนะนำว่า การวางศิลาฤกษ์ที่กระทำไว้ไม่ถูก ต้องแก้ไขด้วยการสร้างศาลท้าวมหาพรหมและศาลพระภูมิขึ้น มี นายจิตร พิมพ์โกวิท ช่างกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร เป็นผู้ออกแบบและอัญเชิญนำมาประดิษฐานที่โรงแรมเอราวัณ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2499 ทำให้ทุกวันที่ 9 พฤศจิกายนของทุกปี จะมีพิธีบวงสรวง กลายเป็นแหล่งเคารพสักการะของประชาชนชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งใจกลางกรุง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์