สาวไทยเผยปาฏิหาริย์หลวงตาบัวช่วยชีวิต


สาวไทยในญี่ปุ่นเผยรถถูกชนจนไฟลุกท่วม แต่รอดตายราวปาฏิหาริย์ เชื่อแรงภาวนาให้หลวงตาช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทันตาเห็น


เมื่อวันที่  8 ก.พ. พระอาจารย์อรรถกิจนันทโน หรือ พระอาจารย์นภดล นันทโน เจ้าอาวาสวัดดอยลับงา จ.กำแพงเพชร ในฐานะฝ่ายประชาสัมพันธ์งานบำเพ็ญกุศลศพหลวงตามหาบัว แถลงว่า นายองอาจ  คร้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันแล้วว่าในวันพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว จะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือเอ็นบีที ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอพระบรมราชานุญาตตามขั้นตอน สำหรับโทรทัศน์หรือวิทยุช่องอื่นๆ หากต้องการถ่ายทอดสดสามารถแจ้งมาที่ทางวัดได้ เพื่อดำเนินการให้ถูกต้อง


ส่วนเงินบริจาคสำหรับโครงการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ 10 ชั้น โดยใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มียอดเงินบริจาคจากทั้ง 3 ธนาคาร (ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย สขาอุดรธานี และ กสิกรไทย สาขาเอกมัย) รวม 314,226,901.33 บาท และมียอดเงินที่หลวงปู่ลี กุสลธโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ลูกศิษย์หลวงตามหาบัวฯ ได้ถวายหลวงตาอีกจำนวน 15,251,086.00 บาท รวมเป็นยอดเงินทั้งสิ้น 473,833,034.44 บาท ขณะนี้ยังขาดยอดเงินในการก่อสร้างฯ อีก 26,166,956.56 บาท ซึ่งคาดว่ายอดเงินบริจาคน่าจะเพียงพอกับยอดเงินที่ขาดอยู่ 


ในวันเดียวกันนี้ พลตรีวิบูลย์พงศ์ กลั่นเสนาะ และพลตรีชาสร วายโสกา รองแม่ทัพน้อยภาคที่ 2 และคณะ ได้เดินทางมาร่วมทำบุญและบริจาคเงินจำนวน 117,539.00 บาท ให้กับทางวัดไว้ซื้อทองคำแท่งเข้าคลังหลวง ในส่วนยอดเงินในตู้รับบริจาคทั้ง 22 ตู้ ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.ถึงวันที่ 8 ก.พ. มีทั้งสิ้น 37,006,728 บาท


พระอาจารย์นภดล กล่าวด้วยว่า สำหรับพระสงฆ์ สามเณร และชี ที่เดินทางมาร่วมบำเพ็ญกุศล และเคารพสรีระหลวงตามหาบัวที่วัดป่าบ้านตาดตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.- 7 ก.พ. รวมทั้งสิ้น 2,576 รูป แยกเป็นพระสายธรรมยุต 2,350 รูป มหานิกาย 226 รูป พักค้างคืน 635 รูป เดินทางกลับ 1,941 รูป ส่วนแม่ชีมี 143 รูป ในส่วนของการบวชบูชาหลวงตาฯเนื่องในวันพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพนั้น กำหนดเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 13-18 ก.พ.นี้ ไม่จำกัดจำนวน แต่ผู้บวชต้องบวชอย่างน้อย 1 พรรษา ซึ่งจะทำพิธีบวชก่อนวันพระราชทานเพลิงศพ 1-2 วัน ขณะนี้มีผู้แสดงความจำนงแล้ว 34 คน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีประชาชนทยอยเข้ากราบเคารพสรีระของตามหาบัวอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่ทางวัดได้ประกาศผ่านทางเสียงตามสาย แจ้งให้พระสงฆ์บางรูปที่แอบจำหน่ายวัตถุมงคล และแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่แอบแฝงมาในรูปแบบต่างๆ ทั้งนำวัตถุมงคลมาขายและเก็บเงินค่าฝากรถอีกด้วย


ในจำนวนประชาชนที่เดินทางมากราบไหว้สรีระของหลวงตามหาบัว มีนางรัศมี ตไน อายุ 57 ปี อยู่เมืองไชตมะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นศิษยานุศิษย์ของหลวงตามานานนับสิบปี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้ไปอยู่กับสามีที่ประเทศญี่ปุ่น  ทุกปีจะเดินทางมาเยี่ยมและสักการะหลวงตาอยู่เสมอ เมื่อหลวงตาจัดโครงการ “ผ้าป่าช่วยชาติ” ขึ้นมาตนก็ได้บริจาคเป็นทองคำแท่ง จำนวน 3 กก. โดยบริจาคให้ปีละ 1 กก. มูลค่าครั้งละกว่าหนึ่งล้านบาท ทั้งนี้ เป็นเพราะตนศรัทธาในองค์หลวงตามาก ท่านเป็นพระนักเทศน์ นักธรรม ที่มีเมตตาช่วยเหลือสังคมและคนจน


นางรัศมี เล่าอีกว่า การทำบุญกับหลวงตานี้ตนเชื่อว่าได้ส่งผลให้ตนกับบุตรสาวรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ จากอุบัติเหตุที่ จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2547 ในขณะขับรถเดินทางจะไปเยี่ยมหลวงตามหาบัว เมื่อรถเก๋งของตนถูกรถปิกอัพชนท้ายอย่างแรง ทำให้รถเก๋งกระเด็นข้ามเกาะกลางถนนไปอีกฟากหนึ่ง และเกิดไฟไหม้รถอย่างรวดเร็ว ในขณะนั้นตนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองและลูกสาวได้ ก็ได้แต่ระลึกถึงองค์หลวงตามหาบัวให้มาช่วยเพียงอย่างเดียว โดยมือได้กุมล็อกเก็ตรูปหลวงตาฯที่คล้องคอไว้ตลอดเวลา แล้วภาวนาขอให้รอดชีวิต 


ทันใดนั้นก็มีหญิงชาวบ้าน 2 คนผ่านมาพอดี และช่วยเหลือตนพร้อมลูกสาวออกจากรถได้ทันการณ์ ทำให้รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด ตนจึงเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงตาได้ช่วยชีวิตตนและบุตรสาวเอาไว้ ยิ่งทำให้ตนและครอบครัวศรัทธาและเลื่อมใสในองค์หลวงมาตลอดเวลา และเมื่อทราบข่าวว่าหลวงตามรณภาพก็ได้เดินทางมาเคารพศรีระหลวงตา และแม้จะไม่มีองค์หลวงตาอยู่ที่วัด ตนก็จะมาทำบุญเหมือนทุกปีเช่นเคย


ทางด้านพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสัสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี พร้อมคณะสงฆ์ และนายสำเริง สัมฤทธิ์ ผอ.สำนักการช่างเทศบาลนครอุดรธานี ได้เดินทางไปดูความคืบหน้าการสร้างเมรุสำหรับพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว ที่บริเวณด้านหน้าวัดป่าบ้านตาด ซึ่งอบจ.อุดรธานี และเทศบาลนครอุดรธานีเป็นผู้ออกแบบ คณะกรรมการและศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมแบบแปลนหลายครั้ง เพื่อให้สมเกียรติของหลวงตามหาบัว ในที่สุดก็ได้รูปแบบที่ใกล้เคียงกับความต้องการของศิษยานุศิษย์คือ “เรียบง่าย สมถะและเป็นทรงกลม” 


โดยรูปแบบฐานดินเป็นวงกลม 3 ชั้น แต่ละชั้นสูงประมาณ 1 เมตร เส้นผ่าศูนย์แต่ละชั้นลดหลั่นกันไป คือชั้นล่างสุดประมาณ 40 เมตร และชั้นบนสุด 26 เมตร มีบันไดทางขึ้นชั้น 1 และ 2 ชั้นละ 4 ด้าน ส่วนชั้นบนสุดมีบันไดเดียว พร้อมทางลาด พื้นบันไดเป็นคอนกรีตหล่อ โดยจะมีบันไดชั้นละ 7 ขั้น ที่บันไดทางขึ้นแต่ละด้านจะมีราวบันได แต่ละชั้นจะประกอบด้วยเสาโคมไฟที่เป็นรูปดอกบัว ส่วนต้นไม้ที่ใช้ประดับเมรุนั้นประกอบด้วย ต้นจั๋ง ข่อย และบัวหลวง ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่หลวงตามหาบัวพบเห็นในป่าลึกขณะออกธุดงค์ และนำมาปลูกไว้ภายในบริเวณวัดป่าบ้านตาดจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเสาสูงกว่า 10 เมตร จำนวน 2 เสา เพื่อใช้ขึงสลิงสำหรับแขวนกลดขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 8 เมตร ซึ่งการก่อสร้างเมรุรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทำงานตลอด 24 ชม. ขณะนี้อยู่ระหว่างการเทพื้นฐานราก และตอกเสาเข็มจำนวน 214 ต้น ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างเมรุหลวงตามหาบัวจะแล้วเสร็จก่อนวันพระราชทานเพลิงศพอย่างน้อย 2 สัปดาห์




เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์