สาวเหยื่อรถตู้ตกทางด่วน ตายเพิ่มอีกราย ยอดดับพุ่ง9


สาวเหยื่อรถตู้ตกทางด่วนตายเพิ่มอีกรายแล้ว ยอดดับพุ่งแตะ9คน


รายงานข่าวเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน แจ้งว่า นางอชร บุญจือ อายุ 36 ปี ผู้โดยสารรถตู้ ซึ่งเกิดเหตุตกทางด่วนพระราม 6  เมื่อเย็นวานนี้(31 ต.ค.) ได้เสียชีวิตแล้ว หลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลราชวิถี ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้เพิ่มเป็น 9 รายแล้ว


พ.ต.อ.สมศักดิ์ วิมานรัตน์ ผกก.สน.บางซื่อ กล่าวว่า ขณะนี้ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บรวม 8 ราย โดยผู้ที่รับการรักษาอยู่ที่ รพ.รามาธิบดี คือ นายสมชาย ก่อความดี อายุ 18 ปี, นายวีรพงษ์ ว่าอง ไว อายุ 40 ปี, ด.ช.ธนชิต จองคำ อายุ 14 ปี ,น.ส.จันทร์จิรา ภูทองคำ อายุ 17 ปี และนายวิโรจน์ ปานสมบัติ อายุ 56 ปี และอีกคนเป็นหญิงไม่ทราบชื่อ ส่วนผู้เสียชีวิตเบื้องต้นทราบชื่อเพียง 2 ราย คือ นายพิเชษฐ์ เคลือบไทย และนางลำดวน เมาเพชรกาจ ส่วนรายที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ


แพทย์ห่วงเด็ก 5 ขวบเหยื่อรถตู้ตกทางด่วนอาการสาหัสผิวหนังไหม้ 63%


เมื่อเวลา 11.30  น. วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี  รศ.นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผอ.รพ.รามาฯ พร้อมด้วย รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ รอง ผอ.รพ.รามาฯ และ ผศ.ปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ หัวหน้าหน่วยอุบัติเหตุไฟไหม้ ร่วมแถลงความถึงความคืบหน้าของอาการผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถตู้โดยสารยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ออ-3153 กทม. วิ่งระหว่างบิ๊กซี ปากน้ำ-หมอชิต ตกจากทางด่วนพระรามหก ที่บริเวณหน้าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวานที่ผ่านมาว่า   สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่ได้รับรายงานมีทั้งหมด 8 ราย  ซึ่งขณะนี้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี  6 ราย  โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 1 ราย  และโรงพยาบาลราชวิถี 1 ราย
 

ส่วนรายชื่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาฯ ประกอบด้วย 
1.  ด.ช.พงศกร กุณะ อายุ 5 ขวบ  ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส  ผิวหนังถูกไฟไหม้ประมาณ 63%   กระดูกข้อเท้าซ้ายหัก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และส่งรักษาตัวที่หอผู้ป่วยไฟไหม้ อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด  
2. นายวีระพงศ์  ว่องไว  อายุ 41  ปี  บาดเจ็บอาการสาหัส  ผิวหนังถูกไฟไหม้กว่า 50 %  แต่ทั้งนี้ตึกผู้ป่วยไฟไหม้มีเตียงว่างอยู่เพียงเตียงเดียว  แพทย์จึงทำการักษาพยาบาลเบื้องต้นพร้อมส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจุฬา เนื่องจากต้องเสียสละเตียงผู้ป่วยให้กับเด็ก 
3. น.ส.จันทร์จิรา ภูอุทา  อายุ 17 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันไฟ และกระดูกเท้าแตก  กำลังอยู่ระหว่างเตรียมผ่าตัด พักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู  
4.  ด.ช.ธนะชิต  จองคำ  อายุ 14 ปี  ผิวหนังถูกไฟไหม้ประมาณ 10% กระดูกขาซ้ายหัก เบื้องต้นแพทย์ได้ทำการผ่าตัดและใช้เหล็กดามให้แล้ว  พักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู  
5.  นายวิโรจน์ ปานสมบัติ อายุ 56  ซึ่งเป็นคนขับรถ  กระดูกซี่โครงหักหลายท่อน เลือดออกในช่องปอด   พักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียูและ
6. นายสมชาย  กอบความดี อายุ 18  ปี  สำลักควันไฟ และกระดูกสันหลังหัก   พักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู


        ทั้งนี้ทางแพทย์เป็นห่วงอาการของ ด.ช.พงศกร และ นายวีระพงศ์   เนื่องจากมีอาการสาหัสมากที่สุด  มีโอกาสความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูง แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีโอกาสรอดเท่าใด   ส่วนสำผู้ป่วยรายอื่นๆ  เบื้องต้นอาการของผู้บาดเจ็บทั้งหมดถือว่าดีขึ้นมาแล้ว  ส่วนผู้ที่มีอาการสาหัสแพทย์ได้เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด  ทั้งนี้เท่าที่สอบถามผู้บาดเจ็บเบื้องต้นยังไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากนักเพราะแพทย์ต้องถามข้อมูลที่จำเป็นกับผู้ป่วยก่อน เช่นเบอร์โทรศัพท์ของญาติ หรือ ที่อยู่  ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานทราบเพียงว่าเด็กๆที่อยู่บนรถและประสบอุบัติเหตุเป็นเด็กที่เข้ามาหาญาติที่อยู่ในกทม.  ช่วงปิดเทอม และกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดพร้อมกับผู้ปกครองเพื่อเตรียมพร้อมรับเปิดเทอมแต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน  


อย่างไรก็ตามทางแพทย์จะต้องรอดูอาการผู้ป่วยก่อนโดยเฝ้าระวังประมาณ 3-4 วัน เนื่องจากหากปล่อยให้กลับบ้านไปแล้ว อาจเกิดกรณีคล้ายกับซานติก้าผับ คือ เมื่อมารักษาที่โรงพยาบาลไม่มีอาการผิดปกติ แต่พอกลับบ้านไปแล้วเกิดอาการหลอดลมบวม  ระบบหายใจขัดข้อง และเสียชีวิตในเวลาต่อมาได้


ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บรายอื่นเบื้องต้นทราบว่ามี นางพรรณี กุณะ อายุ 30 ปี รักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า  ซึ่งเป็นมารดาของ ด.ช.พงศกร กุณะ อายุ 5 ขวบ  แต่อาการบาดเจ็บทางแพทย์ รพ.รามาฯ ยังไม่ได้รับทราบข้อมูล ส่วนเรื่องการชันสูตรศพเป็นหน้าที่ของทางโรงพยาบาลตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ


สอบถามนายวีรยุทธ ปานสมบัติ  อายุ 27 ปี  ซึ่งเป็นบุตรชายของนายวิโรจน์ ปานสมบัติ อายุ 56  คนขับรถคันดังกล่าว เปิดเผยระหว่างมาเยี่ยมบิดาที่โรงพยาบาลว่า  หลังรับทราบเหตุก็ยังไม่ได้คุยกับบิดา  แต่ตนไม่รู้ว่ารถตู้ที่พ่อขับเป็นรถของใคร ซึ่งทราบเพียงแต่ว่าก่อนเกิดเหตุมีผู้หญิงซึ่งเป็นผู้โดยสารตะโกนว่าได้กลิ่นแก๊สรั่ว พ่อของตนจึงหันกลับไปมอง และเมื่อพ่อหันกลับมาอีกทีก็พบว่าข้างหน้าเป็นทางแยกและเป็นทางโค้ง ซึ่งพ่อก็คงพยายามจะเบรกแต่ก็ไม่ทันจึงเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ภาดา อัครานิธิ พงส. สบ.3 งานศูนย์ควบคุมจราจร ด่าน 2 กก.2 บก.จร.  กล่าวว่า   เบื้องต้นกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนทางด่าน  ทั้งนี้ทราบว่ารถคันดังกล่าวไม่มีคู่กรณี เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุขึ้นเองพราะชนทางแยกเกาะกลางถนน ส่วนคู่กรณีก็คงเป็นผู้โดยสารภายในรถ  ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บได้เนื่องจากอยู่ในอาการสาหัสคงต้องรอให้หายดีก่อน  ถึงจะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุ  ทั้งนี้จากากรตรวจสอบรถตู้คันดังกล่าวพบว่าใช้ก๊าซเอ็นจีวี  ส่วนชื่อที่จดทะเบียนเป็นของบริษัท เอสเอ็นทม ริชชิ่ง   แต่อาจมีการโอนต่อไปให้บุคคลอื่น  ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบต่อไป  อย่างไรก็ตามหากตรวจสอบพบว่าคนขับรถมีความผิดจริง   เบื้องต้นก็อาจแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้แก่ความตาย ก่อนดำเนินการต่อไป


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์