สาวเข้าบ้านพักนายทหารร้าง-เจอทารกเปื้อนคราบเลือด ไร้เสียงร้องคิดว่าตุ๊กตา จับดูยังไม่ตาย!!

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ก.ค. ร.ต.ท.ประมณฑ์ ผอบเพชร พนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี รับแจ้งจากโรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ว่า คนงานวางท่อน้ำประปาพบทารกแรกเกิดถูกทิ้งไว้ภายในบ้านพักนายทหารร้าง หมู่บ้านโรงเรียนนายสิบทหารบกเก่า ล่าสุดอยู่ในการดูแลของแพทย์แล้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี

 เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า ทีมแพทย์พยาบาลกำลังดูแลและตรวจร่างกายทารกอยู่ สำหรับทารกหญิงแรกเกิดที่พบรายนี้ มีร่างกายสมบูรณ์ ผิวขาว หน้าตาน่าเอ็นดู ยังมีคราบเลือดแห้งติดตามร่างกาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พาไปพักรักษาตัวที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ ซึ่งแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายเบื้องต้น พบว่ามีอาการอ่อนเพลีย เนื่องจากไม่ได้กินนม จึงให้น้ำเกลือ ส่วนตามร่างกายไม่พบบาดแผลใด แต่พบรอยยุงกัดตามร่างกายทั่วทั้งตัว

โดยหลังจากนี้เตรียมส่งต่อไปให้แพทย์แผนกกุมารเวช โรงพยาบาลหัวหิน ดูแลต่อ เนื่องจากมีเครื่องมือที่พร้อมมากกว่า ทั้งนี้มีญาติคนไข้รายอื่นที่ทราบข่าวได้มาดูทารกรายนี้ พร้อมกับให้กำลังใจและต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า โชคดีที่มีคนพบเจอเด็กและนำมาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา หากช้าเด็กอาจเสียชีวิตได้ และต่างกล่าวถึงความโชคร้ายของทารกรายนี้ที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมเลวร้ายถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่ยังไม่รู้เดียงสา

น.ส.บุญส่ง บัวล้อม อายุ 38 ปี คนงานวางท่อประปาที่เป็นคนพบทารก เล่าให้ฟังว่า ตนและเพื่อนคนงาน ได้มาทำงานวางท่อน้ำประปาภายในหมู่บ้านโรงเรียนนายสิบทหารบกเก่า ซึ่งนายทหารทั้งหมดได้ย้ายออกไปอยู่ที่ อ.หัวหิน แล้ว ทำให้บ้านนายทหารไม่มีคนอยู่ ตนได้ทำงานมาแล้วหลายวัน กระทั่งวันนี้ต้องมาเดินท่อที่บริเวณซอยสวนน้ำ รู้สึกปวดปัสสาวะ จึงเดินมาเข้าห้องน้ำที่บริเวณด้านหลังบ้านดังกล่าว จู่ๆตนก็เกิดสงสัยว่า ห้องติดกันคือห้องอะไร จึงได้เปิดประตูออกดู ก็ต้องตกใจอย่างมาก เพราะเห็นเด็กทารกนอนอยู่กับพื้นไม่มีอะไรห่อหุ้มตัว เด็กไม่ส่งเสียงร้องไห้ จนตนคิดว่าเป็นตุ๊กตา

 แต่เมื่อสังเกตเห็นว่ามีคราบเลือดจำนวนมากติดตามตัวเด็ก และที่ผ้าปูที่นอนสีฟ้าลายตัวอักษรรองตัวเด็กไว้ แถมตามตัวยังมีรอยยุงกัดเต็มไปหมด เมื่อสังเกตว่าเป็นเด็กทารกจริง และยังหายใจอยู่ ตนรีบวิ่งกลับไปบอกนายเชิญ เจียมตน หัวหน้าคนงานและเพื่อนคนงานคนอื่นๆ ให้ช่วยแจ้งโรงพยาบาลให้มารับตัวเด็ก แต่หัวหน้ากลัวจะไม่ทันเวลา เพราะสังเกตเห็นเด็กหายใจอ่อน และไม่มีเสียงร้องแล้ว เกรงจะเสียชีวิต จึงรีบนำไปส่งโรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์เอง เพื่อให้เด็กถึงมือแพทย์ให้เร็วที่สุด

 น.ส.บุญส่ง กล่าวต่อว่า ปกติจะไม่ได้เดินท่อที่ซอยจุดเกิดเหตุ เพิ่งเปลี่ยนจุดทำงานมาบริเวณดังกล่าวได้เพียง 1 วันเท่านั้น ซึ่งถ้าบ้านหลังไหนล็อกประตูไว้ ก็จะเข้าห้องน้ำไม่ได้ ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา ตนก็มาเข้าห้องน้ำที่บ้านหลังดังกล่าวแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่พบความผิดปกติใดๆ กระทั่งในเช้าวันนี้ ถึงได้พบเด็ก ตนรู้สึกดีใจมาก ที่ได้ช่วยเหลือเด็กได้ทันเวลา หากช้าไปกว่านี้เด็กอาจได้รับอันตราย

 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว โดยได้สอบปากคำคนงานวางท่อน้ำประปาไปแล้วเบื้องต้น ซึ่งจะได้สอบสวนติดตามตัวพ่อแม่ของเด็กหญิงทารกแรกเกิดนี้รายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป