สาวสวยขายล็อตเตอรี่ครวญ 80 บาท.เปลี่ยนอาชีพใหม่ดีกว่า

กรณีสื่อนำเสนอข่าว น.ส.รจนา พรมมหาลา หรือน้องมายด์ อายุ 19 ปี สาวสวยซึ่งหาเลี้ยงชีพด้วยการเร่ขายล็อตเตอรี่

บริเวณที่ทำการไปรษณีย์กาญจนบุรี ถนนแสงชูโต ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีลูกค้าจำนวนมากโดยเฉพาะชายหนุ่มรู้ข่าวดีต่างพากันไปอุดหนุนซื้อลอตเตอรี่จนไม่ขาดสาย พร้อมขอถ่ายรูปกับน้องมายด์เป็นที่ระลึก ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดหนึบ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ต้องขอร้องให้น้องมายด์เปลี่ยนไปยืนขายบริเวณอื่น ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา11.00 น.วันที่ 28มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังน้องมายด์ปรากฏว่าทางไปรษณีย์ขอให้เจ้าตัวย้ายจากจุดเดิมที่เคยขาย
 
บริเวณบันไดทางขึ้นไปขายบริเวณทางออกติดกับร้านขายน้ำ และกล้วยทอด โดยอ้างว่าเพื่อความเป็นระเบียบ และสะดวกต่อลูกค้าที่ไปใช้บริการไปรษณีย์ น.ส.รจนา กล่าวว่า หลังจากย้ายที่ขายส่งผลให้รายได้จากยอดขายลดฮวบอย่างเห็นได้ชัด จากการที่เคยขายได้วันล่ะ 40-50ใบ ตกลงมาเหลือเพียง 10-20 ใบเท่านั้น ทั้งนี้ตนจึงต้องเปลี่ยนเป็นการเดินเร่ขายไปเรื่อย ๆ ทุกวันนี้ทำให้เหนื่อยมากกับการขายลอตเตอรี ต้องออกตระเวนขายไปทั่ว ๆ เพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่าย เพราะมีภาระทั้งค่าเช่าห้อง ค่าผ่อนรถค่าน้ำ ค่าไฟ

และต้องผ่อนหนี้สินที่เหลืออีกกว่า 200,000 บาท ทุกงวดจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ1 แสนบาท ซึ่งตนไม่มีปัญญาต้องไปซื้อมาประมาณครั้งละ 500 ใบ
 
แต่ละครั้งร่วม 5 หมื่นบาท พอขายหมดก็ไปซื้อมาอีก ใช้เงินหมุนแบบนี้ทุกงวด ถ้าขายไม่ถึงแสนก็จะไม่พอค่าใช้จ่าย ทำอย่างไรราคาลอตเตอร์รี่จึงจะมีต้นทุนถูกกว่านี้ ทุกวันนี้ต้นทุนซื้อฉบับละ 93.50บาท ขายใบละ 110บาทไม่เช่นนั้นก็จะอยู่ไม่ได้

แม่ค้าคนสวย กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีคนมาบอกให้ฟังว่า รัฐบาลจะให้ขายลอตเตอรี่ ราคาคู่ละ 80บาท ต้นทุนต้องซื้ออย่างสูงคู่ละ 70 บท
 
แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะยี่ปั๊วคงไม่ยอมเพราะเขาเคยมีรายได้มาก ส่วนผู้ขายเร่ต้องลำบาก ขายกว่าจะมีกำไรทั้งค่าน้ำมันรถ ค่าครองชีพก็สูง ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนตกประมาณ 5,000 บาท ไม่รวมค่ากินอยู่และค่าใช้หนี้เงินกู้

"ปัญหาเรื่องราคาล็อตเตอรี่หนูปรึกษากับแม่ว่าหากเป็นเช่นนี้ หนูกับแม่ก็ต้องเปลี่ยนอาชีพไปขายของตามตลาดนัด อาจจะทำให้มีเงินมากกว่า อย่างไรก็ตามช่วงที่เป็นข่าวใหม่ ๆ ขายล็อตเตอรี่ดีมาก เวลากินข้าวแทบไม่มี แต่ตอนนี้ยอดขายตกลงมาก ท้ังนี้เคยมีคนที่ขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ติดต่อมายื่นขอเสนอจะดูแลหนูกับครอบครัว แต่หนูไม่กล้าตัดสินใจอะไร เพราะแต่ละคนที่ติดต่อมานั้นหนูไม่รู้จัก และไม่รู้ว่ามาในรูปแบบไหน ขอทนลำบากทำงานหากินไปแบบนี้ดีกว่า".