สั่งไล่ออกแล้ว กระเป๋าตีนโหด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ต.ค. ที่ สน.ศาลาแดง นายภูธน สอนเสริม หัวหน้าส่วนตรวจการ ขสมก.เขต 6

ได้นำตัวนางพิจิตรา ศิลปศาสตร์ และนายอนันทา ศิลปศาสตร์ 2 สามีภรรยา อายุ 40 ปีเท่ากัน อยู่บ้านเลขที่ 14/29 หมู่ 3 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. พนักงานเก็บค่าโดยสารรถร่วมบริการ ขสมก. สาย 123 เลขข้างรถ 123-26 วิ่งระหว่างฟาร์มจระเข้สามพราน-สนามหลวง เข้าพบ พ.ต.ท.วัศพล รัตนบำรุง พงส.สบ2 สน.ศาลาแดง หลังถูกนายธวัชช์ จันทร์สุข อายุ 68 ปี ข้าราชการบำนาญทหารผ่านศึก แจ้งความว่าถูกนางพิจิตราถีบตกรถ เหตุเพราะไม่พอใจที่ตนใช้บัตรข้าราชการบำนาญทหารผ่านศึกยื่นจ่ายค่ารถครึ่งราคา เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา

โดยทั้งคู่เดินทางมาถึง สน.พร้อมด้วยบุตรชายอีก 3 คน

อายุ 2 ขวบ 3 ขวบ และ 7 ขวบ และเป็นจังหวะเดียวกับที่นายธวัชช์เดินทางมาถึงเช่นกัน 2 สามีภรรยาจึงยกมือไหว้ทักทายตามปกติ ก่อนจะเดินเข้าพบ พ.ต.ท.วัศพลเจ้าของคดีเพื่อให้ปากคำ เบื้องต้นนางพิจิตรายังปฏิเสธที่จะยอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เมื่อนายธวัชช์ นำใบผลตรวจรักษาจากแพทย์มายืนยัน ประกอบกับคำให้การลำดับเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้นางพิจิตรายอมรับ และก้มลงกราบขอโทษนายธวัชช์ พนักงานสอบสวนจึงสั่งเปรียบเทียบปรับฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ 500 บาท แต่ปรากฏว่าทั้ง 2 ผัวเมียมีเงินติดตัวมาเพียง 100 กว่าบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจในโรงพักเห็นว่าเนื่องจากเป็นวันตำรวจจึงได้เรี่ยไรจากเพื่อนตำรวจด้วยกัน ช่วยเป็นเงินเสียค่าปรับให้กับทั้งคู่ ก่อนจะทำประวัติและปล่อยตัวกลับ 

นายธวัชช์กล่าวว่า
 
ปกติตนต้องเดินทางโดยอาศัยรถโดยสารประจำทางสายนี้เป็นประจำ และหลายครั้งที่ต้องเจอกับรถคันที่มีนางพิจิตราเป็นคนเก็บเงิน มักจะถูกด่าทอ หรือแสดงปฏิกิริยาที่ไม่สุภาพอยู่เสมอ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุด จึงต้องเข้าแจ้งความ แต่เมื่อสำนึกผิดตนก็ไม่ติดใจ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของตำรวจ

ด้านนายภูธน สอนเสริม กล่าวว่า
 
ถึงแม้นางพิจิตรายอมรับสารภาพข้อกล่าวหา เป็นเรื่องทางคดีอาญาในส่วนที่ตำรวจดำเนินการ แต่ในส่วนของ ขสมก. ไม่ใช่ว่าทั้งคู่จะไม่ถูกลงโทษ ทั้งนี้ ตนต้องคัดสำเนาคำให้การของทั้ง 2 คนไปเสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาความผิดอีกชั้นหนึ่งด้วย เพราะเป็นการทำผิดวินัย ขสมก.ร้ายแรง 2 ข้อ คือ 1. ปฏิเสธการให้บริการแก่ผู้โดยสาร และ 2. ทำร้ายร่างกายผู้โดยสาร มีโทษตั้งแต่ปรับ พักงาน ถึงให้ออกจากงาน

ขณะที่นายนเรศ บุญเปี่ยม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า

ตามที่มีข่าวกรณีรถเอกชนร่วมบริการสาย 123 หมายเลขข้างรถ 123-26 ใช้เท้าถีบนายธวัชช์ จันทร์สุข อายุ 68 ปี ข้าราชการบำนาญทหารผ่านศึก ตกจากรถเมล์ บริเวณสี่แยกทศกัณฐ์ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น


ขสมก. ได้สอบสวนกรณีดังกล่าวแล้ว

พบว่ารถร่วมบริการคันดัง กล่าวเป็นของนายพยนต์ ธารณา เป็นผู้ประกอบการ มีนายอนันทา ศิลปศาสตร์ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานขับรถ และนางพิจิตรา ศิลปศาสตร์ เป็นพนักงานเก็บค่าโดยสาร ได้รับสารภาพว่ากระทำผิดจริง เนื่องจากผู้โดยสารเป็นข้าราชการบำนาญได้ใช้สิทธิจ่ายเงินค่าโดยสารครึ่งราคา ทำให้พนักงานเก็บค่าโดยสารไม่พอใจ และตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายก่อนจะหยุดรถ

ขณะเดียวกัน พนักงานขับรถได้ตรงเข้าผลักอกผู้โดยสาร ทำให้ผู้โดยสารกลัวว่าจะถูกทำร้ายจึงรีบลงจากรถ แต่พนักงานเก็บค่าโดยสารได้ใช้เท้าถีบที่เบ้าตาขวาตกจากรถได้รับบาดเจ็บ การกระทำของพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารดังกล่าว เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนระเบียบของ ขสมก. โดยไม่ลดหย่อนค่าโดยสารให้แก่ผู้มีสิทธิตามที่ราชการกำหนด และผิดข้อกำหนดในสัญญาการเข้าร่วมเดินรถกับ ขสมก. ทำให้เกิดความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ขององค์กร และเสียหายแก่ชีวิตร่างกายของผู้โดยสาร ขสมก. จึงได้ลงโทษปรับนางพิจิตราเป็นเงิน 500 บาท และนายพยนต์ ธารณา ผู้ประกอบการ ได้ลงโทษไล่ออกทั้ง พขร. และ พกส. พร้อมทั้งแจ้งกรมการขนส่งทางบก เพื่อลงบันทึกประวัติการกระทำความผิด มิให้สามารถเข้ามาขอหรือต่อใบอนุญาตประกอบอาชีพขับรถสาธารณะ และเป็นพนักงานเก็บค่าโดยสารได้อีกต่อไป