สลดฉลามวาฬหัวกบเกยตื้นตายชายหาดขนอม

วันนี้ ( 8 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.  นายสัญญา สังข์วังเลา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดขนอมหมู่เกาะทะเลใต้ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช

ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านว่าพบซากฉลามวาฬลอยเกยตื้นตาย ที่บริเวณอ่าวท้องชิง หมู่ 2 ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ห่างจากฝั่งทะเลประมาณ 1 ไมล์ทะเล หรือประมาณ1,600 เมตร และชาวประมงได้ลากซากฉลามวาฬที่ตายมาเกยฝั่งบริเวณชายหาดแขวงเภา หมู่ 2 ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จึงสั่งการให้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดขนอมหมู่เกาะทะเลใต้  จำนวนเดินทางไปตรวจสอบบริเวณชายหาดแขวงเภาทันที
                     

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังมุงดูซากฉลามวาฬ บริเวณชายหาดดังกล่าวอย่างเนืองแน่น
 
โดยตรวจสอบพบว่าเป็นฉลามวาฬหัวกบ อายุประมาณ8ปีความยาวประมาณ 4เมตรเศษ น้ำหนักประมาณ1ตันเศษ มีบาดแผลที่ครีบหลังความยาวประมาณ 5นิ้ว ซึ่งคาดว่าเป็นบาดแผลที่โดนเครื่องจับสัตว์น้ำของเรือประมงอวนลาก เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 30ชม.เศษเริ่มส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณแล้ว
            

นายธีระยุทธ อินทร์สุวรรณ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/3 หมู่ 7 ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
 
ซึ่งเป็นชาวประมงพื้นบ้านที่เป็นผู้พบซากฉลามวาฬคนแรกเผยว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาขณะนำเรือออกหาปลากลางทะเลอ่าวไทย บริเวณอ่าวท้องชิง ห่างจากฝั่งประมาณ1ไมล์ ทะเล ได้พบซากฉลามวาฬพันธุ์หัวกบเสียชีวิตแล้วลอยกลางทะเล จึงใช้เชือกลากซากฉลามวาฬมาเกยฝั่งที่บริเณดังกล่าวแล้วแจ้งให้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดขนอมฯทราบและเดินทางมาตรวจสอบในเบื้องต้นถือว่าเป็น ฉลามวาฬตัวแรกที่พบเกยตื้นตายในพื้นที่ อ.ขนอม แสดงว่าท้องทะเลอ่าวไทยในเขต อ.ขนอมยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่ สาเหตุเสียชีวิตคาดว่าน่าจะไปถูกอุปกรณ์จับสัตว์น้ำของเรืออวนรุนขนาดใหญ่จนตาย และคาดว่าน่าจะมีอีกหลายตัวบริเวณดังกล่าว
             

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดขนอมฯได้ติดต่อไปยัง เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง จ.สงขลา เดินทางมามาตรวจสอบและนำซากฉลามวาฬตัวนี้ไปผ่าพิสูจน์ว่าปลาวาฬตัวดังกล่าวเป็นเพศใดและหาสาเหตุการตายต่อไป.