สธ.ประกาศกำหนดลักษณะเครื่องสำอาง

“จุรินทร์” ประกาศกำหนดลักษณะเครื่องสำอางห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย


วันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า

กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกำหนดลักษณะของเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า  หรือขาย โดยยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 40) พ.ศ.2548 ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2535 เรื่อง กำหนดลักษณะเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือ  ขาย ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2548 และให้ประกาศฉบับนี้

มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คือ ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2553

โดยให้เครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติทางจุลชีววิทยาตามที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้ เป็นเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย ได้แก่ เครื่องสำอางที่ตรวจพบเชื้อจุลินทรีย์ซูโดโมแนส แอรูจิโนซา (Pseudomonas aeruginosa) สตาฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) แคนดิ ดา อัลบิแคนส์ (Candida albicans) และคลอสตริเดียม (Clostridium spp.) (เฉพาะเครื่องสำอางผสมสมุนไพร) ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าวเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค อีกทั้ง เครื่องสำอางที่ใช้บริเวณรอบดวงตา เครื่องสำอางที่สัมผัสเยื่อบุอ่อน และเครื่องสำอางสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ที่ตรวจพบจำนวนรวมของแบคทีเรีย ยีสต์ และรา ที่เจริญเติบโตโดยใช้อากาศ (Total aerobic plate count) มากกว่า 500 โคโลนีต่อกรัม และเครื่องสำอางอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากนี้ ที่ตรวจพบจำนวนรวมมากกว่า 1,000 โคโลนีต่อกรัม
      
ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าว เสริมว่า อย.ได้นำประกาศกำหนดลักษณะของเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย ขึ้นหน้าหลักของเว็บไซต์ อย. (www.fda.moph.go.th)


ซึ่งผู้ผลิต นำเข้า หรือขายที่สนใจในรายละเอียดสามารถศึกษาดูได้ และตั้งแต่บัดนี้ หาก อย.ตรวจพบเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย โดยเครื่องสำอางที่ตรวจพบมีเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคดังกล่าว จะเข้าข่ายเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ ผู้ผลิตเพื่อขาย ผู้นำเข้าเพื่อขาย หรือผู้ขาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเครื่องสำอางที่ตรวจไม่พบเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค แต่พบว่า จำนวนรวมของจุลินทรีย์ที่ไม่ก่อโรคเกินมาตรฐาน จะเข้าข่ายเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้เช่นกัน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์