ศาลนัดพิจารณา 17ธ.ค.คดีทักษิณฟ้องอ.ดีเอสไอ

สัมภาษณ์ชี้นำคดีเอสซีแอสเสทฯศาลแพ่งนัดพิจารณา 17 ธ.ค.นี้ พร้อมฟ้องอาญา ยกพวง คตส. อีกคดี ปฏิบัติหน้าที่มิชอบกลั่นแกล้งให้รับโทษอาญาคดีที่ดินรัชดา ฯ

(23สค.) นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เปิดเผย

ถึงการยื่นฟ้องแพ่งนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นจำเลยเรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 1,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากกรณีระหว่างวันที่ 19 มิ.ย.- 17 ส.ค.50 นายสุนัย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนฉบับต่างๆ ลักษณะชี้นำเกี่ยวกับสอบสวนคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่าการทำสำนวนคดีใช้มาตรฐานความเป็นผู้พิพากษา ใช้ความรัดกุมทำสำนวนคดี

ดังนั้นแน่นอนว่า

หากคดีขึ้นสู่การพิจารณามีหลักฐานเพียงพอที่จะลงโทษฐานการกระทำผิดพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ มีกองทุน 3 แห่งที่เป็นนอมินีในบมจ.เอสซี แอสเสท โดยศาลแพ่งถ.รัชดาภิเษก รับคดีไว้พิจารณาเป็นคดีดำหมายเลขที่ 3788 / 2550 และนัดชี้ 2 สถานเพื่อกำหนดวันนัดสืบพยานและประเด็นนำสืบคดีในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

นายพิชิฎ ทนายความ กล่าวด้วยว่า

นอกจากนี้เมื่อวัน 17 ส.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ยังมอบอำนาจให้นายบุญเฉลียว ดุษดี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายนาม ยิ้ม แย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) , นายแก้วสรร อติโพธิ , นายสัก กอแสงเรือง , นายอุดม เฟื่องฟุ้ง , คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา , นายจิรนิติ หะวานนท์ , นายบรรเจิด สิงคเนติ , นายกล้าณรงค์ จันทิก , นายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ , นายอำนวย ธันธรา และนางเสาวนีย์ อัศวโรจน์ กรรมการ คตส. เป็นจำเลยที่ 1-11 ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และเป็นเจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจสอบสวนคดีอาญา กระทำการใดในตำแหน่งอันเป็นมิชอบ กลั่นแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษตามมาตรา 200

ซึ่งสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 พ.ค. - 21 มิ.ย.50 กรรมการ คตส.

ซึ่งมีอำนาจหน้าที่การตรวจสอบการทุจริตตามประกาศ คปค. ใช้อำนาจหน้าที่กลั่นแกล้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานต้องรับโทษทางอาญาในการสอบสวนคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก โดย คตส.ไม่ปฏิบัติ หน้าที่ตามขั้นตอนการสอบสวนที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.มาตรา 74 ที่ระบุว่าเมื่อจะมีการฟ้องคดีอาญาให้มีหนังสือแจ้งผู้ถูกกล่าวหาไป รายงานตัวต่อ หากผู้ถูกกล่าวหาไม่ไปรายงานตัวตามกำหนด ให้แจ้งพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจัดการให้ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหา เพื่อส่งอัยการสูงสุดนำตัวไปยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

โดยวิธีการดังกล่าวเป็นขั้นตอนที่กำหนดไว้ชั้นการกล่าวหา

ซึ่งหาก คตส.ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายบัญญัติไว้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จะยังไม่ต้องถูกออกหมายจับในฐานะจำเลยคดีนี้ ซึ่งคดีฟ้อง คตส. ดังกล่าว ศาลอาญา รับคำฟ้องไว้เป็นคดีดำหมายเลขที่ อ.3020/2550 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 26 พ.ย.50 เวลา 09.00 น.