วิเชียรผบ.ตร. ฉลุย8-0 มติ กตช.เอกฉันท์

ตำรวจไทยได้ผู้นำอย่างเป็นทางการเสียที "วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี"รองผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 ผงาดนั่งเก้าอี้ผบ.ตร.คนใหม่ คะแนนเอกฉันท์ 8-0 โดยนายกฯ เสนอชื่อพร้อมงดออกเสียง ส่วนอีกคนที่หายไปคือรมว.ยุติธรรม เพราะติดภารกิจรับเสด็จ เผยก.ต.ช.ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็พิจารณาเสร็จสิ้น รอพระบรมราช โองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เผยประวัติจบเตรียมทหารรุ่นเดียวกับ"ประยุทธ์ จันทร์โอชา"ว่าที่ผบ.ทบ. ก่อนแยกเหล่ามาเรียนตำรวจ เติบโตในหน่วยตำรวจราชสำนัก ก่อนย้ายมาเป็นรองผบ.ตร. และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวเรือใหญ่สีกากีเมืองไทยในที่สุด

วงการสีกากีได้ตัวผบ.ตร.คนใหม่แล้ว เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจ แห่งชาติ(ก.ต.ช.) โดยมีคณะกรรมการ ก.ต.ช. ประกอบด้วยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาด ไทย นายมานิต วัฒนเสน ปลัดมหาดไทย นายกิตติพงษ์ กิติยารักษ์ ปลัดยุติธรรม พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาฯสมช. และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 4 คน ได้แก่ นายนพดล อินนา พล.ต.อ.ธวัชชัย ภัยลี้ อดีตรองผบ.ตร. นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ผอ.สำนักงานนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ขาดเพียง 1 คน คือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ซึ่งติดภารกิจรับเสด็จ

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมก.ต.ช.เริ่มต้นด้วยพิจารณาวาระการขอยกเลิกมติก.ต.ช.ปี 2551 ที่ระบุว่าตำรวจจะรับผู้จบปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ มาเป็นชั้นประทวนเท่านั้นโดยใช้เวลานานกว่า 40 นาที

กระทั่งเวลา 14.50 น. เข้าสู่วาระการพิจารณาบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งผบ.ตร. โดยพล.ต.อ.ปทีป ขอออกจากห้องประชุมโดยให้เหตุผลว่าเพื่อความเหมาะสม พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวข้องทั้ง หมดออกนอกห้องประชุมด้วย จากนั้นพิจารณาวาระดังกล่าว นายกฯ เสนอชื่อพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผบ.ตร.ด้านการบริหารงาน 1 เป็นผบ.ตร.คนใหม่ และที่ประชุมทั้งหมด 8 คน ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ 8-0 เสียง เห็นชอบตามที่นายกฯเสนอ โดยนายกฯ งดออกเสียงตามมารยาทที่เป็นผู้เสนอชื่อ

จากนั้นเวลา 15.30 น. นายกฯ เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลมายังโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เพื่อเปิดงานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ครบรอบ 9 ปี และได้ปาฐกถาพิเศษ โดยนายกฯ กล่าวสั้นๆ ว่า "ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และได้ตัวผบ.ตร.แล้ว"

พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วยผบ.ตร. และเลขานุการก.ต.ช. เปิดเผยภายหลังการประชุม ก.ต.ช.ว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์พิจารณาตัวบุคคลขึ้นดำรงตำแหน่งผบ.ตร. 8 ต่อ 0 เสียงโดยนายกฯงดออกเสียง โดยใช้ เวลาพิจารณาเพียง 15 นาที ส่วนรายละเอียดตัวบุคคลยังเปิดเผยไม่ได้เพราะต้องดำเนินการตามขั้นตอนคือให้นายกฯ นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อโปรดเกล้าฯลงมาก่อน ส่วนเหตุผลเลือกตัวบุคคลนั้นเป็นอำนาจตามกฎหมายของนายกฯที่จะคัดเลือกตำรวจยศพลตำรวจเอกที่เห็นว่ามีความรู้ ความสามารถเหมาะสมที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง

เมื่อถามว่าตัวบุคคลที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกนั้นเป็นไปตามลำดับอาวุโสคือพล.ต.อ.วิเชียร ตามที่เป็นข่าวหรือไม่ พล.ต.ท.เอก กล่าวว่า คนที่ได้รับการพิจารณานั้นเป็นไปตามที่นายกฯเสนอ และชี้แจงต่อที่ประชุมว่ามีความเหมาะสม ซึ่งตามกฎหมายนายกฯ ต้องเสนอเพียงชื่อเดียวเพื่อให้ที่ประชุมให้ความเห็นชอบ

เมื่อถามว่าคนที่ได้รับการพิจารณาเป็นผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดเป็นลำดับหนึ่ง ในกระบวนการทั้ง หมดหรือไม่ พล.ต.ท.เอก กล่าวว่า ต้องเรียนว่าถ้าอธิบายคำว่าอาวุโส สื่ออาจยังเข้าใจไม่ชัดเจนอาวุโสในทางกฎหมายตามระเบียบของตำรวจเป็นเรื่องการพิจารณาเรื่องการรักษาราชการแทน ส่วนอาวุโสในเรื่องแต่งตั้งตัวบุคคลนั้นทางกฎ หมายไม่ได้กำหนด เพียงแต่เรามีการอ้างอิงถึงการแต่งตั้งที่พูดถึงเรื่องอาวุโส แต่การแต่งตั้งผบ.ตร. ไม่ได้เป็นเครื่องพิจารณาว่าต้องดำเนินการตามนั้น เมื่อถามว่าจะเปิดเผยรายชื่อได้หรือไม่ พล.ต.ท. เอก กล่าวว่า ต้องรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งก่อน

สำหรับพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อายุ 57 ปี เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2496 เป็นชาวอำเภอบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จบการศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จากนั้นเข้าเรียนต่อโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 มีเพื่อนร่วมรุ่นคนดังคือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่ผบ.ทบ.คนใหม่ จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 28 และจบปริญญาโทอีก 3 สถาบัน ผ่านหลักสูตร F.B.I. รุ่น 159, หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 388 และหลักสูตรบริหารงานตำรวจ จากประเทศอังกฤษ

เริ่มรับราชการตำแหน่งรองสว.ผ.5 กก.สส.น. ก่อนย้ายไปเป็นผู้ช่วยนายเวรอธิบดีกรมตำรวจ(พล.ต.อ.มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น) จากนั้นย้ายมาเป็นนายตำรวจราชสำนักประจำอยู่จนเป็นถึงหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่ารองผบ.ตร.) จนปี 2549 ย้ายมาเป็นรองผบ.ตร. ปี 2550 เข้าสู่ตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10) ดูแลการเลือกตั้ง และการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน เคยรักษาราชการแทบผบ.ตร. (พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ) ระหว่างวันที่ 5-14 สิงหาคม พ.ศ.2552 ตามที่นายอภิสิทธิ์ ประกาศแต่งตั้ง ก่อนหน้านี้เป็นหนึ่งในตั้วเต็งจะขึ้นเป็นผบ.ตร. เนื่องจากมีอายุราชการอีกหลายปี บวกกับอาวุโสสูง จนล่าสุดได้รับการแต่งตั้งเป็นผบ.ตร.ด้วยคะแนนเสียงจากก.ต.ช.เป็นเอกฉันท์

ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงผลการประชุมก.ต.ช.ว่า เนื่องจากมีขั้นตอนของการนำชื่อผบ.ตร.ขึ้นทูล เกล้าฯ ขณะนี้เรียนได้เพียงว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เสียงของก.ต.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าขั้นตอนการนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ จำเป็นต้องรอจนถึงสิ้นเดือนก.ย.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่จำเป็น ทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอนปกติ เมื่อถามย้ำว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า "ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ ฝ่ายเลขาฯก็ต้องไปดำเนินการงานหนังสือตามปกติ"

ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลที่เสนอชื่อพล.ต.อ. วิเชียร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ขอลงในรายละเอียด เมื่อถามว่าบุคคลที่ได้รับการพิจารณามีคุณสมบัติอย่างไรเป็นพิเศษ นายกฯกล่าวว่า ก.ต.ช.เห็นตรงกันและคำนึงถึงความอาวุโส ประสบการณ์การทำงานและการมองไปข้างหน้าว่าจะสามารถนำองค์กรได้ ซึ่งทุกคนก็ไม่มีปัญหาอะไรเสียงเป็นเอกฉันท์

เมื่อถามว่าอยากเห็นผบ.ตร.คนใหม่ทำหน้าที่อย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า องค์กรตำรวจในช่วงปีจากนี้ไปก็จะต้องมีความเข้มแข็งมากขึ้นมาก ต้องยอมรับว่าปัญหาความขัดแย้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นภาระหน้าที่เบื้องต้นก็จะตกอยู่ที่ตำรวจ และเมื่อเราพยายามที่จะให้ใช้กฎหมายปกติกลไกตรงนี้ก็ต้องเป็นหลักให้ได้ ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุด ขณะเดียวกันนอกเหนือจากปัญหาเฉพาะหน้าแล้วปัญหาที่มันค้างคามานานก็เป็นเรื่องที่จะต้องมีการปฏิรูปและสะสาง

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมาองค์กรตำรวจก็ มีความขัดแย้งกันสูง คิดว่าผบ.ตร.คนใหม่จะสามารถเข้ามาลดความขัดแย้งได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราก็ดูและคำนึงถึงปัจจัยทั้งหมดก็คิดว่าจะต้องช่วยกันทำงาน อีกทั้งคิดว่า ผบ.ตร.คนใหม่จะสามารถประสานงานได้

เมื่อถามว่าสบายใจมากขึ้นหรือไม่หลังจากได้ตัวผบ.ตร.คนใหม่แล้ว นายอภิสิทธิ์ ถึงกับหัวเราะ แต่ไม่ยอมตอบคำถามดังกล่าว

เมื่อถามว่าบุคคลอื่นที่ไม่ได้รับเลือกคิดว่าจะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในองค์กรตำรวจอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันมีตำแหน่งเดียว มันหลายคนแต่ตำแหน่งเดียว อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ที่เสียงเป็นเอกฉันท์ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะเห็นตรงกันทั้งหมด ซึ่งคราวที่แล้วเห็นไม่ตรงกัน

รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับการทูลเกล้าฯชื่อผบ.ตร.คนใหม่ มีแนวโน้มว่านายอภิสิทธิ์ อาจจะทูลเกล้าฯ ภายในเร็ววันนี้โดยไม่จำเป็นต้องรอวาระเดือนต.ค.เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่อง จากปัจจุบันถือว่าตำแหน่งผบ.ตร.ยังว่างอยู่ ที่สำคัญการทูลเกล้าฯเสนอชื่อผบ.ตร.คนใหม่ทันที เหมือนเป็นการกู้หน้าให้กับนายอภิสิทธิ์ ที่ไม่สามารถตั้งผบ.ตร.คนใหม่ได้จนล่วงเลยมาเกือบ 1 ปี และยังพูดได้ว่ามีผบ.ตร.ใหม่ภายในวาระนี้ เพื่อแก้ข้อครหาที่ปล่อยให้ตำแหน่งผู้นำสีกากีว่างลงถึง 1 ปีเต็ม

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศสำนักงานของพล.ต.อ.วิเชียร ที่ตร.แห่งชาติ หลังทราบผลลงคะแนนให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ว่า เป็นไปด้วย ความคึกคักนายตำรวจทยอยเดินทางเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะเพื่อนร่วมรุ่นนรต. 28 อาทิ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา(สบ10) พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา(สบ10) พล.ต.ท.จิโรจน์ ไชยชิต ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 นอกจากนั้นยังมีพล.ต.ต.สุวิระ ทรงเมตตา รองผบช.ภาค 2 พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ

ผู้สื่อข่าวสอบถามพล.ต.อ.วิเชียร ถึงความรู้สึกที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผบ.ตร.คนใหม่ ว่าที่ผบ.ตร. กล่าวว่า ขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกคนที่มารอทำข่าว แต่ขออนุญาตไม่ให้สัมภาษณ์ตอนนี้ ต้องรอโปรดเกล้าฯให้เรียบร้อยเสียก่อน ตอนนี้ทราบข่าวจากสื่อเท่านั้น ทราบว่าตอนนี้ทุกคนมีความคาดหวังที่ตนได้รับเลือกแต่ยังพูดอะไรไม่ได้ตอนนี้

เมื่อถามว่าจะเร่งทำงานด้านใดเป็นอย่างแรก พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า เรื่องนี้ไว้คุยทีหลัง ตอนนี้ ยังไม่อยากพูด 

ภายหลังให้สัมภาษณ์ พล.ต.อ.วิเชียรเข้าพบพล.ต.อ.ปทีป ที่สำนักงาน คาดว่าเพื่อขอบคุณ ที่ทำให้การแต่งตั้งผบ.ตร.ครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และอาจพูดคุยเกี่ยวกับการรับงานในตำแหน่งผบ.ตร.

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์